20 มี.ค. เวลา 05:19 • การศึกษา
Thailand

เคยได้ยินเค้าลือกันมาว่า ทางที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตของเรา ก็คือ สร้างมันขึ้นมาเอง

เราจะไปไม่ถึงจุดหมายแน่ๆ ถ้าไม่รู้ว่าจะจุดหมายของเราคืออะไรก่อน..
Key คือ มันต้องชัดเจนนะ 4K, Lazer Point เห็นเป็นภาพ ได้กลิ่น ได้ยินเสียง
ปั้นภาพจบขึ้นมา เอาให้มันตราตรึงใจ บอกกับตัวเองได้ว่า กูเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
ในหนังสือ "manifest 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา“ เค้าใช้คำว่า จิตดลบันดาล
ดึงดูดสิ่งที่เราต้องการด้วยความคิด ความเชื่อ ความรู้สึก และพฤติกรรม
มันไม่ใช่เวทมนตร์นะ
ที่มัน Make Sense คือ คุณต้องลงมือทำด้วยไง ฝันแล้วกรุณาก้าวขาเดินเข้าไปหามันด้วย
7 ขั้นตอนของการ Manifest จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ
1 - มองภาพให้ชัดเจน
2 - ขจัดความกลัวและความกังขา
3 - ปรับพฤติกรรม
4 - เอาชนะบททดสอบของจักรวาล
5 - โอบรับความสำนึกรู้คุณ โดยปราศจากเงื่อนไข
6 - เปลี่ยนริษยาเป็นแรงบันดาลใจ
7 - ไว้วางใจในจักรวาล
เล่นนี้นี่อ่านแล้วอ่านอีกมาก Section นึงที่ประทับใจ คือ การจัดการกับความกลัว ที่มันแฝงตัวอยู่เนียนๆ
ความกลัวที่มันไม่ได้มาให้เห็นจะๆ แบบหนังผี บางครั้งมันไม่ได้มีทีท่าว่า ตัวเรากำลังกลัวอยู่ด้วยซ้ำ
แต่มันเคลือบตัวเราอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว ต้องสังเกตดูจากพฤติกรรมที่มันฉุดรั้งเราเอาไว้นะ
พฤติกรรมที่เราเองก็รู้สึกว่า เห้ย มันก็ปกติธรรมดา ใครๆ เค้าก็เป็นกัน.. อะไรทำนองนั้นแหละ
แต่มันฉุดรั้งไม่ให้เราศักยภาพเราเฉิดฉายได้เต็มที่
อ่านไปก็ทำให้นึกถึง 1 ข้อของ บารมี 10 ทัศน์ ตามหลักคำสอนนะ ‘อธิษฐานบารมี’
อธิษฐาน ในมุมมองของผม มันไม่ใช่การอ้อนวอนขอจากพลังงานดลบันดาลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รึ ภูติผีปีศาจที่ไหน
แต่มันเป็นการล็อคเป้า ในสิ่งที่เรารู้ว่าเราต้องการจริงๆ เราอยากเป็นจริงๆ
ตอบตัวเองได้ยัง คนแบบไหน ใครกันแน่ที่ตัวเองอยากเป็น
แล้วนำพาตัวเองไปเป็นคนๆ นั้นซะ
ทุกคนมีพลังในตัวตนอยู่แล้วครับ ต่อให้จะยาก ดี มี จน พิกลพิการอย่างไร
การ Manifest จริงๆ แล้วมันไม่ใช่การไปดึงดูดสิ่งต่างๆ นานามาครอบครอง แต่ว่ามันเป็นการปลดปล่อยตัวตนที่แท้ทรู ของเราออกมา
และไม่ใช่การพยายามทำตัว Real แบบ Fakeๆ
พอกันที บอกกับตัวเองว่านี่ชีวิตเรา เรามีพลัง เรามีคุณค่า อย่าให้อะไรมันมาบดบังศักยภาพของเราเอาไว้
-
กดลิ้งสั่งซื้อหนังสือ
-
#รีวิวหนังสือ
#manifest
#ฟินน์ยุทธนา
โฆษณา