20 มี.ค. เวลา 07:06 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

🎬🍿 ดูจบแล้ว เอาไป 10 10 10 🍿🎬

12Th Fail : มาโนชสู้เพื่อฝัน
Netflix
คะแนน : เต็มเท่าไหร่ ให้เท่านั้น
🍿———————————🎬
หนังอินเดียที่ไม่ได้วิ่งไล่กันไปมา และไม่ได้มี Special Effect แบบเว่อร์วังที่พวกเราชอบล้อกัน แต่เป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจตามสูตร และสร้างจากพื้นฐานเรื่องจริง
10 Short Notes หลังดูจบ (พยายามไม่สปอยล์)
🍿———————————🎬
1. ความรู้สึกตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ นึกถึงเรื่อง slumdog millionaire หนังที่เคยกวาดรางวัลออสการ์ไปเมื่อปี 2009 คือ 12th Fail อาจจะไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่ว้าวและซับซ้อนขนาดนั้น แต่มันรู้สึกจริงและจับต้องได้ โดยเฉพาะเราคนไทยที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ สภาพการเมืองและการคอรัปชั่นคล้าย ๆ กับทางบ้านเค้า
🍿———————————🎬
2. หนังพูดถึงชีวิตของ “มาโนช” ผู้เกิดและเติบโตมาในเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองโจร” เป็นแหล่งผลิตและรวมตัวของคนคดโกง เอาเปรียบ ฉ้อราษฎร์ ฯ มันมีเมืองแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ? เออ ฉันจะบอกว่ามันมีนะ ขนาดที่สวิตเซอร์แลนด์ ยังมีการซุบซิบถึงเมืองบางเมืองที่คนเป็นพวก “นิ้วยาว” คือชอบเอารัดเอาเปรียบหรือฉวยโอกาสเหนือคนอื่นเหมือนกันนะ
แต่มันก็สะท้อนย้อนไปไกลนั่นแหละว่า อะไรทำให้เมือง ๆ หนึ่งกลายเป็นเมืองที่ถูกตราหน้าจากคนอื่นว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดก็คือ อีคนในเมืองนั้นมันต้องเป็นพวกเหนียวแน่นสามัคคี ทำอะไรเป็นกลุ่มเป็นก้อน หรือไม่ก็อาจจะหมายได้ว่า นี่คือเมืองที่ประชากรที่อาศัยอยู่ในนั้นไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง และทำอะไรไหลตามกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่ตั้งคำถาม
🍿———————————🎬
3. นั่นคือจุดเริ่มต้นของหนั้งเรื่องนี้ “การตั้งคำถาม” โดยพระเอกนาย “มาโนช” ของเรานี่แหละ มาโนชโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่ “พ่อ” ก็ตั้งคำถาม และไม่ยอม “ไหลตาม” ไปกับระบบ แม้มาโนชในตอนเด็กจะยังไม่เข้าใจการกระทำของพ่อ แต่เมื่อชีวิตต้องถูกพายุพัดกระหน่ำ เขาก็เริ่ม “ตั้งคำถาม” แบบพ่อบ้างโดยไม่รู้ตัว
🍿———————————🎬
4. “คำตอบ” ที่มาโนชได้รับทำให้หนังเรื่องนี้ดำเนินโดยยึดแก่นนี้ทั้งเรื่องคือ “ต้องไม่โกง” เรื่องมันจะไม่สนุกเท่านี้ และมันคงไม่ยากในการยึดมั่นความตั้งใจนี้ ถ้ามาโนชไม่ได้มาจากเมืองที่โกงตัวพ่อ ถ้าทุกคนรอบตัวของมาโนชตั้งแต่โงหัวดูโลกไม่ได้โกงกันเป็นขบวนการ เราต้องมาลุ้นไปทุกครั้งว่ามาโนชจะยึดประโยค “ต้องไม่โกง” ที่สลักไว้ในใจได้นานแค่ไหน
ไอ้การ “โกงใหญ่” น่ะไม่เท่าไหร่ มันเป็นเรื่องที่ศีลธรรมในใจก็ร่วมจับมือทำหน้าที่ไปด้วยกัน แต่สิ่งที่ยากก็คือการ “โกงเล็ก โกงน้อย” ต่างหาก การหยวน ๆ ต่างหาก การไหลตามน้ำไปกับระบบแบบที่ใคร ๆ ก็ทำกันต่างหาก ที่ทำให้หัวใจสั่นคลอน
🍿———————————🎬
5. หนังเรื่องนี้คือการดิ้นรนต่อสู้ของคนตัวเล็ก ๆ ที่โอกาสมีเพียงน้อยนิดในชีวิต เข้าแก่งแย่งช่วงชิงชัยชนะกับคนที่มีโอกาสมากกว่า มีเครื่องมือมากกว่า มีเงินมากกว่า มีการศึกษามากกว่า พระเอกของเรา “แทบไม่มี” อะไรเลย ต่อให้ขยันมากกว่าคนอื่นเป็นสิบเท่า แต่ถ้าข้าวก็ไม่มีจะกิน เงินก็ไม่มีจะเช่าบ้าน เวลาจะนอนก็แทบจะไม่มี ความขยันก็ดูเหมือนจะหาทางเดินไปสู่เส้นชัยได้ยาก
🍿———————————🎬
6. ซึ่งหนังบอกเราแบบตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมว่า โอกาสไม่มีไม่เป็นไร หามิตรดี ๆ เข้าไว้ - เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องทำคนเดียวแบบโดดเดี่ยว หนังเรื่องนี้ไม่ได้สวยงามแค่การต่อสู้ของมาโนชเท่านั้น แต่สวยงามด้วยมิตรภาพของคนรอบ ๆ ตัวเขา ที่เป็นลมใต้ปีกที่แข็งแรง ทั้งผลักทั้งดันให้มาโนชไปสู่จุดหมาย
ประโยคสำคัญในหนังที่ทำให้มิตรทุกคนที่ช่วยเหลือมาโนชก็คือ “ขอแค่นายชนะคนเดียว ทั้งฝูงเราก็ชนะด้วย” ถ้ามาโนชสามารถฝ่าดงของคนที่มีโอกาสมากกว่าเป็นร้อยเท่าตัวขึ้นไปได้ ก็คือเส้นทางที่มีความหวังให้กับคนอื่น ๆ เช่นกัน
🍿———————————🎬
7. สารภาพว่าตอนที่ดูในสี่สิบนาทีแรก อยากกูเกิ้ลถามว่า หนังนี่จบแบบ Happy ending มั้ยเนี่ย เพราะคนเขียนบทและผู้กำกับขยันใส่ความผิดหวังความทุกข์ระทมให้กับมาโนชเหลือเกิน ให้ความหวังทีไร ตีตกลงมาทุกที ดูไปก็กลัวว่าใจตัวเองจะรับไม่ไหวกับชะตากรรมที่เหมือนจะดีทีไรร่วงหล่นลงมาทุกครั้ง
🍿———————————🎬
8. ขอพูดถึงนางเอกของเรื่องนามว่า “ศรัทธา” แค่ชื่อก็ได้ชิงนางเอกละครคุณธรรมไปแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงว่าอุปนิสัยและการปรากฎตัวของเธอในเรื่องก็คือนางเอกละครคุณธรรมดี ๆ นี่เอง ความสวย และน่ารักแบบบริสุทธิ์ของเธอ ดึงให้หนังสว่างขึ้นทุกครั้งที่เห็นเธอบนจอ ยังไม่นับถึงความคิดและทัศนคติที่เป็นพลังบวกล้นเหลืออีก จึงไม่แปลกใจและเชื่อได้เมื่อเธอบอกให้มาโนชพลิกแผ่นดินเพื่อเธอ
🍿———————————🎬
9. แม้นี่จะเป็นสูตรของหนังสร้างแรงบันดาลใจ ที่พระเอกต้องระทมทุกข์ร้อยแปดพันประการ ต้องฝ่าฟัน ต้องทุ่มเท ต้องเหน็ดเหนื่อย มากๆๆๆๆๆๆๆๆ กว่าจะได้ชัยชนะหรือสมหวัง แต่ถ้าทำออกมาไม่ดีก็กลายเป็นละครคุณธรรมที่ไม่แนบเนียนได้เหมือนกัน
ซึ่ง 12th Fail ทำออกมาดี ทำออกมาถึง เส้นเรื่องเดินมาแบบเตรียมตบเราตอนท้ายให้น้ำตาตก น้ำตาแตก พอช่วงท้าย ๆ นี่ร้องไห้มันเกือบทุกช้อตทุกซีน แต่เป็นการร้องไห้ที่ Release นะ คือทั้งตื้นตัน ปลื้มใจ และท่วมท้น ไอ้การจะขมวดให้มาพร้อมตบช่วงท้ายแบบนี้ได้ เราต้องการมือเขียนบทดี ๆ และผู้กำกับเก่ง ๆ รวมไปถึงตัวละครที่เอาอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนมาบรรจบพบกันพร้อมหน้า จนทุกอย่างกลมกล่อมลงตัว
🍿———————————🎬
10. ชอบการแต่งให้ “มาโนช” ซอมซ่อแบบที่เห็นพัฒนาการมาก ๆ จากตอนแรกแค่บ้านนอกเข้ากรุง พอตกยากก็สกปรกขึ้นเรื่อย ๆ เปื้อนฝุ่นไปหมดทั้งตัว แต่สิ่งที่คงไว้เสมอคือ “รอยยิ้ม” เรารู้สึกว่า รอยยิ้มของมาโนชออกมาเพื่อปลอบประโลมคนดูทุกครั้งเลย ไม่ว่าใครจะเห็นว่าเขากำลังอยู่ในช่วงตกทุกข์ได้ยากอย่างไร มาโนชจะโชว์ยิ้มนั้นให้เราเห็นเสมอ มันคือ “ความหวัง” ที่ไม่เคยมอดลงเลยสักวินาทีเดียว
🍿———————————🎬
สรุป นี่เป็นหนังที่อิ่มใจ อิ่มเอม ดูจบแล้วขึ้นสวรรค์ไปเลย แต่ให้ข้อคิดสำหรับฉันในแง่ที่ว่าโลกของคนที่โอกาสไม่ได้มีเท่า ๆ กันทุกคน คนที่โอกาสน้อยกว่าลำบากกว่าเสมอ และสิ่งที่เราทำได้ก็คือต้องสู้เท่านั้นจึงชนะ และอย่าสู้คนเดียว หามิตรดี ๆ ไว้สู้ด้วยกัน
🍿———————————🎬
ป.ล. ซีน “ถอดรองเท้าตบ” ออกมาในจังหวะที่เดือด ๆ ทุกครั้ง ทำให้เราเข้าใจโดยไม่ต้องมีคำอธิบายว่า วัฒนธรรมอินเดีย ถ้าโกรธถึงขีดสุดเขาไม่ใช้มือตบหน้ากันนะ เขาถอดรองเท้าออกมาตบ เอาสิ่งที่อยู่ต่ำที่สุดขึ้นมาเหยียบย่ำโดยตบไปที่ส่วนที่สูงที่สุดของร่างกาย ให้มันรู้ว่ากูนี้เห็นมึงไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเพียงใด ซึ่งอันนี้เป็นวิธีของชาวบ้านร้านตลาดทำกัน และดูเหมือนจะทำกันได้คล่องแคล่วว่องไวเสียด้วย - ที่ชอบคือ หนังทำออกมาได้หลายอารมณ์ในหลายซีน ทั้งเจ็บปวด เดือดดาล และตลก
🍿———————————🎬

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา