27 มี.ค. เวลา 13:35 • ความคิดเห็น
จิตเรานั้นมันถูกลิขิต ด้วยกรรม ที่เราหลงใหล ยึดอารมณ์ ตกเป็นทาสของอารมณ์ ที่เค้าเรียกว่า การกระทำทุกอย่าง ตาเห็นภาพหูบันทึกเสียง วิญญาณทั้งหกของเรา เก็บบันทึกส่งไปให้จิต จิตส่งต่อลงไปกับธาตุทั้งสี่ที่ประกอบเรือนกาย ในธาตทั้งสี่ ก็มีเรื่องราวที่บันทึกไว้อีก เรื่องของรูปเวทนาวสัญญาสังขารวิญญาณ ที่เราเคยใช้ ไปเกิดขึ้นที่นั้นที่นี่ ที่สุขที่ทุกข์ แล้วก็มาอาศัยกายมนุษย์
เมื่อมีกายเป็นมนุษย์ สิ่งต่างๆ ที่หนุนนำเรือนกาย ให้เป็นไป มีพ่อแม่คนนั้นคนนี้ มีกายที่ประกอบครอบไม่ครบ สติปัญญา นิสัยดีชั่ว ที่ชอบกระทำ มันก็ไหลออกมา นำพาชีวิต ด้วยกรรมล้ขิตให้เป็นไป มีความสมปรารถนา ไม่สมปรารถนา ในเรื่องราวที่หวังใมีสมหวังไม่สมหวัง เกิดอุปสรรค ในการเสาะแสวงหาปัจจัย มาบำรุงเรือนกาย ที่อาศัยที่นอน ที่กิน ตลอดจนมิตรสหาย
..กรรมเค้าจำแนก ออกไป ..ชนอันธพาลก็ไปคบหาชนอันธพาล คนดีก็คบคนดี ..มันก็มีมีเหตุผลหนุนำ บ้างเจอกันแค่ครั้งเดียว ก็ฆ่ากันตาย บ้างเจอะเจอหน้า ก็ตกหลุมครองรักจนวันตาย บางก็เจอะเจอแล้วกายผ่านหย่าร้างกันไป นั่นก็คือ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราสะสมกรรมอะไรมาบ้าง
แต่สิ่งที่จะช่วยบรรเทาทุกข์ คลี่คลายทุกข์คลี่คลายกรรม ให้เรื่องร้ายๆ ค่อยๆกลับมาดี ก็ค่อ การนำกายนั้นมาสร้างบุญกุศล ทำไปในรอยขององค์พระสัมสัมพทุธเจ้า แล้วเราก็เอาจิตเราระลึกถึงจิตที่ท่านบริสุทธิ์ผ่านพ้นทุกข์ด้วยการกระทำของท่าน จิตเราเอาท่านเป็นแบบอย่างเป็นบรมครู ในการสร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม
นั่นก็คือ การที่เรานำกายพ่อแม่ที่ให่เรามา นำสร้างบุญกุศล ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายที่เราใช้กายพ่อแม่ นี้ไปหาด้วยความเหน็ดเหนื่อย กายที่เราใช้เป็นกายของพ่อแม่ เราใช้กายพ่อแม่ที่เราอาศัยเหน็ดเหนื่อย จิตเราอาศัยอยู่ในกาย ก็พลอยรับความเหน็ดเหนื่อยของกายไปด้วย
เมื่อเรารู้ว่าเราใช้การนี้ไปเสาะแสวงหาปัจจัยอะไรต่างๆ ต้องมีการใช้อารมณ์ มีอารมณ์โลภโกรธหลง มีชอบไม่ชอบ มีเผลอสติทะเลาะ ติเตียนคนนั้นคนนี้ นั่นคือ เราใช้กายไม่ถูกวิธี เอาแต่ใช้กายไปตามอารมณ์อารมณ์นึกคิดที่กรรมหนุนนำไป มันเป็นกรารสร้างกรรมสร้างความยึดถืออะไรต่างๆมากมายก่ายกอง
เมื่อมีการใช้อารมณ์ ใช้วิญญาณทั้งหก มันก็ไปเก็บ เหมือนขยะเข้ามาทับถมกายใจ ทับถมไปทุกวันๆ กายก็แก่ เจ็บป่วย เหมือนกองขยะ โรคนั่นโรคนี้ ก็ตามมายามแก่เฒ่าชรา หาอะไรให้กายนี้สุขสบายไม่ได้เลย ขนาดจะเป็นจะตายยังทุกข์ขนาดนี้ นี่ถ้าจิตนี้หมดกายมนุษย์ ในชาตินี้ ไม่รู้ชาติหน้า จะได้กายเป็นรูปอะไร .ขันธ์ทั้งห้า เป็นสัตว์รูปที่ตาเคยเห็น
รูปที่ไม่เห็นด้วยตา รูปเปรตอสุรกาย เทพยดาอินทร์พรหม เป็นสิ่งเค้าเรียกว่านามธรรม จิตก็เป็นนามธรรมก็ไปอาศัยได้ ด้วยกรรมที่ตนสะสมมา จะนำพาไป ไปที่ชอบๆ ชอบทำชั่ว ก็ได้ที่ชั่วทุกข์ทรมาน ชอบทำดี ก็ไปที่ดีมีสุข เลือกเอานะ เราเป็นผู้ลิขิต เหมือนที่เค้าว่า ประชาธิปไตยอยู่ในกำมือท่านแล้ว ท่านมีเสรีภาพเต็มที่ในการใช้กายมนุษย์ เพราะจิตท่านเป็นใหญ่ในเรือนกาย จิตใครจิตมัน กายใครกายมัน เลือกใช้กายทำเองในคำว่า กิริยากายวาจาใจ ธาตุทั่งสี่จะเป็นสักขีพยานให้
โฆษณา