สงคราม ไม่เคยให้ผลดีกับ “อภิชน”….
มันตลกดีเหมือนกัน ที่คนไทยหลายคน want
หรือเข้าขั้น need ที่อยากให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม
สื่อแก่ๆ สายอนุรักษ์ฯนี่ตัวดีเลย
เที่ยวได้ไปล้างสมองชาวบ้าน
ว่าเกิดเหอะ ดีแน่ จะได้ล้างอำนาจอเมริกัน
แต่ความจริงที่มีมาตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์
คือสงครามนั้น ไม่เคยให้ผลดีกับระบบใดๆก็ตาม
ที่มีคนอยู่ในสถานะ “อภิชน” เช่น พ่อค้า ขุนนาง
จอมเผด็จการ หรือกระทั่งระบอบกษัตริย์
…เพราะสงคราม จะสร้างความขาดแคลนเสมอ…
…และเมื่อขาดแคลน ก็จะยิ่งขับเน้นความเหลื่อมล้ำ
และทำให้กลไกของรัฐ ต้องอ่อนแอ…
…ความไม่เป็นธรรมที่มาในจังหวะอำนาจรัฐอ่อนแอเหล่านี้
จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเสมอ มากหรือน้อยก็อีกเรื่อง …
…แต่ไม่เคยมีที่ไหนบนโลก ที่อภิชนในช่วงสงคราม
จะยังอยู่ดีมีสุขเหมือนที่เคยเป็นมาได้หลังสงครามจบลง ….
ความเข้าใจว่า หากเกิดสงครามแล้วไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ
เป็นการสร้างความเข้าใจที่แย่มากที่สุดเรื่องนึงทีเดียว
สำหรับคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นสื่อ หรือนักวิชาการผู้หวังดี
และชุดความคิดความคิดว่าไทยพร้อมมากกับสงคราม
เรื่องนี้ก็เป็นอะไรที่ไม่ใช่ความจริงเลย แม้แต่นิดเดียว
ถ้ามันเกิด…..อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา ?
เอาที่รัฐไทยก่อน กับสภาพสังคมโดยรวม
มันจะเละเทะมากๆ ต่อให้ไม่ใช่พื้นที่สู้รบก็ตาม
เหตุผลคือ เราไม่ใช่ประเทศที่อยู่ตามลำพังได้
มันไม่ใช่สมัยก่อนแล้ว ที่คนจะหนีไปต่างจังหวัด
เก็บผักเก็บหญ้า จับปลากินชิลๆ เหมือนสงครามโลกครั้งที่สอง
ความเข้าใจว่า ถ้ามีสงครามเราจะรอด เพราะเราปลูกข้าว
และเป็นประเทศเกษตรกรรม นี่ก็ผิดมหันต์
ครับ เราปลูกข้าวได้ แต่เราไม่มีปุ๋ยของตัวเองมากพอ
ไม่มีเคมีการเกษตรที่จะสู้กับศัตรูพืช
เราไม่มีแม้กระทั่งอาหารสัตว์ที่มากพอ ที่จะทำให้สัตว์ไม่อด
ตาย แล้วเรามีกินเป็นปกติ
และไม่มีทาง ที่การเกษตรในรูปแบบอนุรักษ์ดั้งเดิม
หรือทฤษฎีใดๆ จะมีผลผลิตมากพอจะหล่อเลี้ยงสังคมไทยได้
หากต้องเผชิญสภาวะขาดแคลนปัจจัยจากสงคราม
เพราะปัจจุบัน คนไทยต้องอาศัยการผลิตอาหารเชิงอุตสาหกรรมเท่านั้น จึงจะมีผลผลิตมากพอให้คนไทย
หากเกิดสงครามจริงๆ อาหารจะเป็นสิ่งสำคัญมาก
ปัจจัยการผลิตทุกอย่าง จะถูกประเทศผู้ผลิตกักตุน
จีน หรือ รัสเซีย ซึ่งผลิตปุ๋ย จะเป็นคู่ขัดแย้งกันโดยตรง
กับค่ายตะวันตก ที่เป็นเจ้าของเคมีการเกษตร รวมถึง
วัคซีนในสัตว์ที่จะเลี้ยงเป็นอาหาร
พวกนี้ จะไม่ส่งออกมาถึงเราแน่ๆ ในกรณีมีสงคราม
หรือแย่กว่านั้น คือแหล่งผลิตโดนทำลาย หรือปนเปื้อน
สารต่างๆ ที่เป็นผลจากสงคราม
ยังมีน้ำมันอีก ที่จะโดนกักตุน การขนส่งก็ทำได้ยาก
ถึงตรงนั้น คำถามคือ คนไทยจะกินอะไรกัน ?
ไฟฟ้าจะจ่ายโรงสี โรงเชือดจะขาดแคลน
จะเติมน้ำมันจักกลเกษตรก็ไม่มี
จะใช้ควายผลผลิตมันก็ไม่เท่าเดิม
หนักเข้า คือพลังงานไม่พอใช้ คนไทยอาจต้องอยู่กัน
แบบมีเวลาปิดเปิดไฟได้เลยแหละ อย่าว่าแต่จะผลิตอะไรเลย
…อันนี้คือภาพรวม ที่จะเกิดแน่ๆ หากเกิดสงคราม…
…แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับสังคม ก็ลองคิดกันดู….
กับรัฐบาลไทย ใครคิดว่าพร้อม ก็ผิดอีก
มีบางท่านเที่ยวได้พูดว่า แบงค์ชาติเราเจ๋ง
เก็บทองมากขึ้น
ดอลลาร์เดี้ยง ก็ไม่ใช่ปัญหา ….
โถ… เลิกหลอกชาวบ้านซะทีเถอะ
เรามีทองกี่เปอร์เซ็นต์ในทุนสำรอง แล้วดอลลาร์เท่าไหร่
ก็ควรบอกออกมาด้วย
ในความเป็นจริงคือ ถ้าดอลลาร์พัง บาทมันก็พังด้วยนั่นแหละ
ทองที่มีมันไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่หรอกนะ
ขายหมดจ่ายหนี้พันธบัตรชาวบ้านคนไทยเองยังไม่พอเลย
และระดับรัฐนั้น จะดูแลประชาชนยังไง
กับความขาดแคลนต่างๆ ล่ะ ในเมื่อผลิตเองไม่ได้ซะเยอะ
น้ำมัน ก๊าซ อันนี้ขาดแคลนแน่ พลังงานจะกระทบทั้งระบบ
แล้วพาภาคการผลิตช๊อคไปด้วย
ยังมีอีกอย่างที่คนมองข้ามกัน คือ ยารักษาโรค
โอเคแหละ ว่ายาเล็กน้อย เราผลิตได้ ทำได้
แต่โรคหนักหนา โรคเรื้อรัง ยาจากต่างประเทศ
รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ จะต้องขาดแคลนแน่ ถ้าเกิดสงคราม
ยานี่เรื่องใหญ่กว่าที่หลายคนคิดมาก เพราะสุดท้าย
มันอาจกลายเป็นโรคระบาดขึ้นมาได้ จากโรคระบาดเก่าๆ
ที่เคยหาได้ยากแล้ว กลับมาอุบัติใหม่
และเราคงหวังพึ่งใครไม่ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะคนขาย
เขาอาจไม่ขาย เพื่อเก็บไว้ใช้เอง
อย่าลืม ว่าคนขายของพวกนี้ให้เรา มีแนวโน้มเป็นคู่สงคราม
ทั้งสหรัฐ จีน ยุโรป เราจะขาดแคลนอย่างหนักเลยแหละ
โดยรวมแล้ว สำหรับสภาพสังคมไทยเอง
หากมีสงคราม มีแนวโน้มสูงมาก ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ครั้งใหญ่มากๆ ในระดับโครงสร้างทั้งระบบ
เพราะในขณะที่ประชาชนขาดแคลน รัฐดูแลไม่ได้
แต่มันจะต้องมีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงได้ ทั้งด้วยอำนาจเงิน
และอำนาจรัฐอยู่อย่างแน่นอน (คล้ายๆพม่าในปัจจุบัน)
มันจะกลายเป็นการขับเน้นความไม่เท่าเทียมให้มากขึ้น
และสุดท้าย ก็จะนำไปสู่ความวุ่นวายได้ในที่สุด
…มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับไม่พึงประสงค์…
สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น
มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเอง
ในไทยนั้น การเปลี่ยนอำนาจของกลุ่มขุนนางเก่า
มาอยู่กับกลุ่มของพ่อค้าเชื้อสายจีน ก็เกิดขึ้นในช่วง
หลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่แหละ
และความจริงที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมไทย ไม่เคยยอมรับ
คือโครงสร้างสังคมไทยปัจจุบัน ที่ฝ่ายอนุรักษ์ยังมีอำนาจ
หลงเหลือ มันมีผลมาจากการวางโครงสร้างของพวกอเมริกัน
หากหมดอเมริกาไป รูปแบบสังคมมันก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
มันจึงตลกดีเหมือนกัน ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมไทยส่วนมาก
กลับอยากให้เกิดสงคราม ในขณะที่ฝ่ายปฏิรูป กลับไม่ต้องการ
เข้าใจว่าฝ่ายอนุรักษ์ คงมองแต่การมีอยู่ของอเมริกา
โดยไม่ได้มองถึง ความเป็นจริงของบริบทสังคมไทยเลย
…ไม่ทราบว่าเป็นความตื้นเขิน หรือ จงใจตื้นทั้งที่รู้เหมือนกัน…
การมองว่าหากอเมริกันด้อยอำนาจลง แล้วจะทำให้
ฝ่ายปฏิรูปอ่อนแอลง จากการขาดผู้สนับสนุนนั้น
อาจจริง หรือไม่จริงก็ได้ทั้งนั้น
แต่สมมุติว่า”จริง” มันก็เป็นเพียงแค่ทำให้ระดับแกนนำ
หรือกลุ่มก้อนการเมือง ที่มีแนวคิดปฏิรูปอ่อนแรง
จากการขาดเงินทุนเท่านั้น
ตรงข้ามกับสิ่งที่สงครามสร้างรอยแผลไว้ ในใจคนส่วนมาก
ยามขาดแคลน ที่ต้องเสียเปรียบเหล่าอภิชน
สิ่งเหล่านี้สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลง โดยธรรมชาติของมัน
…พูดง่ายๆ ต่อให้อเมริกาอ่อนแรง แต่แนวคิดคนมันจะต้องการความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นด้วยตัวมันเอง การมีหรือไม่มีอเมริกา
จะแทบไม่มีผลอะไรเลย เมื่อถึงจุดนั้น ….
และถึงจีนชนะ ก็อาจไม่ใช่เรื่องดีกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมไทย
เพราะสมมุติว่าจีนชนะสงคราม พวกเขาจะมีอิทธิพล
กับเรามากขึ้น ชุดความคิดต่างๆของเขา จะมีผลกับเรา
แล้วหากคนมองว่าความเท่าเทียม
ในรูปแบบของคอมมิวนิสต์นั้นดีล่ะ จะเป็นยังไง ?
และมีหรือ ที่จีนจะไม่สนับสนุนเพื่อนร่วมอุดมการณ์เหล่านี้
สงครามเองก็เผาผลาญทรัพยากรภาครัฐอย่างมาก
จนกลไกอ่อนแอเสมอ รวมถึงกองทัพด้วย มันขาดงบประมาณ
อะไรจะเกิดขึ้น ผมคงไม่ต้องเขียนนะ….
มันไม่มีทางเลย ที่สังคมไทยจะอยู่ในรูปแบบเดิมได้
หลังสงคราม หากมันเกิดขึ้น ….
…ไม่ว่าผล ใครแพ้ ใครชนะ ระเบียบโลกเก่า หรือใหม่….
หากมี สังคมไทยจะต้องเผชิญกัยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน นี่คือความจริงที่ต้องเกิด….
การมองตื้นเขินว่า หากมีสงคราม ก็มีความชอบธรรมให้ตัวแทนฝ่ายอนุรักษ์ คือ กองทัพเข้ามามีอำนาจและควบคุมประเทศไว้ได้ นั้นอาจจริง
แต่จะจริง และมีอำนาจแค่ช่วงสั้นๆ
ในระยะยาวแล้ว ผู้ปกครองรัฐช่วงสงครามนั้น
มักตกเป็นแพะเสมอ จากความขาดแคลนต่างๆ
และปัญหาสังคม
ความจริงคือ ถ้ากองทัพเข้ามามีบทบาทในช่วงสงคราม
กองทัพเองนั่นแหละ ที่จะพาอนุรักษ์นิยมเสื่อมทั้งระบบ
ทำให้เครือข่ายอำนาจ ไม่สามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้
อีกนานนัก ก็จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง…
ประวัติศาสตร์มันบอกเราว่าบนโลกใบนี้ มันเป็นแบบนี้มาตลอด
…แล้วทำไมคนเหล่านี้ถึงเขียร์ให้มีสงครามล่ะ ?….
…เขาไม่รู้เรื่องเหล่านี้เหรอ ?….
…ไม่ใช่หรอก เขารู้ แต่มีวาระอะไรในใจ ผมคงตอบไม่ได้หรอก
…แต่เชื่อเถอะว่า มันไม่ดีนักหรอก สำหรับสังคมไทย….
…อีแอบใต้หน้ากากคนดีมันเยอะน่ะนะ 🤣🤣🤣….
ภาพปกหนังสือชื่อตามปก แต่งโดย Elizabeth Graham…
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
