30 มี.ค. เวลา 09:17 • หนังสือ

ปรมาจารย์ลัทธิมาร (5 เล่มจบ)

โม่เซียงถงซิ่ว เขียน
อลิส แปล
โปรยสำนักพิมพ์ Bakery Book :
ปรมาจารย์อี๋หลิง เว่ยอู๋เซี่ยน สิ้นชีพ ณ เนินป่าช้า ว่ากันว่ากายแหลกเหลว ไร้ร่างให้ดินกลบฝัง
ทว่าด้วยพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้าที่ระบือไกล ผู้คนจึงพากันยินดีที่เขามอดม้วย
และไม่ว่าใครก็คงคาดไม่ถึงว่า เวลาผ่านไปสิบกว่าปี จะมีใครบางคนใช้อาคมต้องห้าม ยอมอุทิศร่างให้เขาฟื้นคืน!
ด้วยมีศัตรูอยู่ทุกหัวระแหง เว่ยอู๋เซี่ยนจำต้องปิดบังตัวตนสุดชีวิต แม้จะทำได้ยากเย็นเต็มที เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภูตผีปีศาจร้ายกาจ และตระกูลเซียนที่เคยล้อมปราบ รวมถึงคู่รักคู่แค้นอย่าง หลานวั่งจี
เพื่อสืบเรื่องศพแยกชิ้นส่วน เว่ยอู๋เซี่ยน กับ หลานวั่งจี จึงเดินทางตามทิศที่มือผีชี้นำ จนมาถึงเมืองซึ่งปกคลุมด้วยหมอกขาวลึกลับนามว่า "เมืองอี้"
ณ ที่นั่น สิ่งที่รอต้อนรับพวกเขาอยู่ก็คือ "ภัยร้ายที่คาดไม่ถึง" พร้อมด้วยเรื่องราวโศกนาฏกรรมระหว่างวิญญาณเด็กสาว นักพรตผู้หายสาบสูญ และฆาตกรผู้ก่อคดีสังหารล้างตระกูล
ทว่าสิ่งที่พวกเขาต้องรับมือหาได้มีเพียงอุปสรรคครั้งใหม่ไม่ เพราะยิ่งรวบรวมชิ้นส่วนศพได้มากเท่าไร
อันตรายก็ยิ่งคืบคลานเข้ามาใกล้เท่านั้น!
หลังอ่านฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 (ล่าช้ากว่าชาวบ้านหลายปี) :
เป็นนิยายวายที่ดังระเบิดระเบ้อทั้งตัวหนังสือ ละครชุด เพลงประกอบ และอะนิเมะ หลายปีผ่านไปความนิยมแทบไม่ตก ส่วนเราเพิ่งจะสบโอกาสอ่านหนังสือ พบว่าสนุกทีเดียวเชียว
เนื้อหาในหนังสือเล่าอดีตสลับปัจจุบันไปมา เปิดฉากด้วยการกลับมาในร่างใหม่ของนายเอก-เว่ยอู๋เซี่ยน หรือปรมาจารย์อี๋หลิง ซึ่งถูกล้อมปราบที่เนินป่าช้าเมื่อ 13 ปีก่อน โดยโม่เสวียนอวี๋อุทิศร่างให้ปรมาจารย์กลับมาช่วยแก้แค้น กลับมาไม่ทันไรก็ต้องเผชิญโจทย์เก่ามากมาย โดยเฉพาะพระเอก-หลานวั่งจี หรือหานกวงจวิน ตามมาด้วยเจียงเฉิง-ศิษย์น้อง และอื่น ๆ อีกมากมาย
แม้จะอยู่ในร่างใหม่ แต่พฤติกรรมคุ้นเคย บุคลิกลักษณะ วิธีการพูด และสามารถดึงกระบี่คู่ใจออกจากฝักได้ ทำให้ใคร ๆ ก็รู้ว่าคนที่เคยถูกล้อมปราบกลับมาแล้ว แต่กลับมาในช่วงที่กำลังเกิดคดีลึกลับซึ่งเกิดจากการตามหา “สหายคนดี” เจ้าของมือซ้ายที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตมาดร้าย กระทั่งเจอทีละชิ้นส่วน ซึ่งนำไปสู่ความลับดำมืดเขย่ายุทธภพครั้งใหญ่
นายเอกรูปงามช่างพูดช่างฉอเลาะของเราจำต้องร่วมมือกับหลานวั่งจีตามสืบตามไขปริศนาข้อนี้ เล่าการเป็นไม้เบื่อไม้เมาระหว่างนายเอกกับพระเอกสุดเย็นชา พูดแล้วต้องตีความหมาย ตัดสลับกับอดีตสมัยที่เว่ยอู๋เซี่ยนไปเรียนที่กูซู ทำให้รู้ว่าความสัมพันธ์หลายเส้าของเราหลายคนมีที่มาอย่างไร นายเอกเคยแสบซ่าแสนซนอย่างไร และพระเอกที่ดูเหมือนไม่สนใจไม่รู้อะไร กลับเป็นคนที่คอยช่วยเหลือปรมาจารย์อี้หลิงอย่างเงียบ ๆ มาตลอด
แม้ปัจจุบันสองคนจะคล้ายเป็นคู่แค้น แต่เมื่อย้อนเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง ความรู้สึกครั้งนั้นก็ไม่ได้ย่ำแย่อีกต่อไปแล้ว กลับเริ่มมองเห็นทีละสิ่งทีละอย่างที่หลานวั่งจีเฝ้าคอยทำให้อย่างไม่เคยอิดหนาระอาใจ ซึ้งไปอีก
แกนหลักของเรื่องคือสืบคดีตามหาผู้ร้ายตัวจริงพ่วงกับการค่อย ๆ เผยอดีตว่าแท้จริงปรมาจารย์อี้หลิงที่ถูกคนในยุทธภพก่นว่าโหดเหี้ยมเหลือเกินจนต้องช่วยกันล้อมปราบนั้น กลับตายไปอย่างไม่ยุติธรรม มีมือลึกลับที่ใจร้ายกว่าคอยเสี้ยม คอยผูกโยงเหตุการณ์จนกู่ไม่กลับ
ส่วนแกนรองคือความสัมพันธ์พระเอกนายเอกที่ค่อย ๆ แจ่มชัดขึ้นเมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง จากเจอหน้าเป็นต้องหลบ เว่ยอู๋เซี่ยนก็ได้รู้ใจตัวเองว่าที่แท้ หลานวั่งจีแสนดีต่อตนเองถึงขนาดนั้นมาแต่ไหนแต่ไร
ฟังว่าเป็นเรื่องสืบสวนสอบสวนของคนในยุทธภพ แต่เรื่องราวมิได้อ่านยาก เคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะนักเขียนใส่อารมณ์ขันพอเหมาะไว้ในบุคลิกของเว่ยอู๋เซี่ยน ขณะจะเข้าสู่ช่วงลุ้นสุดตัวจนหายใจติดขัด นายเอกของเรามักจะมีคำพูดหรือการกระทำที่ตัดฉับ ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมคลี่คลายกะทันหันเสมอ และมาได้ถูกจังหวะเสียด้วย
ข้อเสียดายของเรื่องนี้คงเป็นสิ่งที่นักอ่านจำนวนไม่น้อยกล่าวถึง คือการแปลคำศัพท์จีนบ้าง ทับศัพท์บ้าง โดยเฉพาะการแปลชื่อกระบี่แล้วแต่ (สุยเปี้ยน) เล่นเอาต้องอ่านทวนหลายหนว่าแปลอย่างนี้จริงสิ 5555 ชื่อสถานที่ ชื่อห้องต่าง ๆ แปลหมดจนงงว่าไม่ต้องถี่ถ้วนขนาดนี้ก็ได้ ใช้ทับศัพท์แล้วใส่คำอธิบายด้านล่างน่าจะอ่านลื่นไหลกว่า
ส่วนการแปลโดยรวมสำหรับเราอ่านง่าย ไม่ได้สะดุดอะไรมาก มีคำตก คำผิดอยู่บ้าง ชอบปกเงาๆ ด้านๆ แบบนี้เป็นพิเศษ ออกแบบปกสวยมาก ดูมีเอกลักษณ์ติดตา
นาน ๆ จะอ่านนิยายวาย เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่อ่านแล้วชอบ คงเพราะอารมณ์ขันของปรมาจารย์อี้หลิงที่มากำลังพอดี เป็นนายเอกที่น่าเอ็นดู ช่างจ้อจี้ เหมาะกับพระเอกหลานวั่งจีที่พูดทีเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปากเป็นอย่างมาก
โฆษณา