31 มี.ค. เวลา 14:21 • ความคิดเห็น
เวลาที่เรามีเรื่องราวที่วุ่นวาย สับสน ฟุ้งซ่าน นั้นก็เนื่องมาจาก อารมณ์ที่เรามีเหตุการณ์ ไปสัมผัสคนนั้นคนนี้ บ้าวติเตียน บ้างก็ว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ดีนะ เดี๋ยวจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันต้องเป็นอย่างนี้ ถึงถูก ..มันสับสน ที่ตาเราไปไหเห็นไปฟัง บ้างก็เกิดทิฐิขึ้น ฟุ้งซ่าน คิดวนไปวนมา เหมือนถูกปั่นหัว ปั่นจิ้งหรีด
เราก็ปลีกตัวออกจากกระแสน้ำวน ไปนั่งเงียบ นึกถึงเรื่องพระคุณ บิดามารดา )เอาเรื่องดีเข้ามา ..ปลีกตัวไปนั่งเงียบๆ ไม่มีอะไรรบกวน หรือไปที่ห้องพระน้อยๆ ของเรา ..เข้าไปกราบพระ หรือไม่ก็นั่งนิ่ง บอกตัวเอง จิตของข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเรือนกายของคุณบิดามารดา จิตของข้าพเจ้ามีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง พยายามพูดให้หูเราได้ยินเสียงของตัวเอง จิตเราอาศัยอยู่ในกายต้องใช้เสียงของเรา พูดให้หูได้ยิน ส่งไปให้จิต เรื่องเตือนจิตของเราให้ตื่นขึ้นมา
แล้วเราก็ทำจิตทำใจอยู่กับพระ ท่องคำว่าพุทโธ เร็วๆ หายใจลึกๆ ทำไม่กี่ครั้งอารมณ์ฟุ้งซ่านก็ก็จางคลายออกไป เมื่อยังไม่คลาย เราก็หายใจลึกๆ กั้นลมหาย ปล่อยลมออกไป ออกทางจมูก ยังอึดอัด ก็เปาลมออกไปทางปาก ให้จิตยึดคำว่าพุทโธไว้ อย่าไปยึดอารมณ์ ..เราทำบ่อยๆ จ้ตเราก็ สลัดละอารมณ์ฟุ้งซ่านได้เร็วขึ้น
เรื่องอารมณ์นั่น มันเรื่องราวของกรรมทั้งนั้น ที่ปรุงแต่งให้เราต้องเกิดมีการคล้องกรรมอะไรต่างๆมากมายก่ายกอง
โฆษณา