1 เม.ย. 2024 เวลา 01:13 • ปรัชญา
เนื่องของความเมตตาที่ช่วย นั่นมันก็ดูด้วยว่า เค้าต้องการความช่วยเหลือไม่ มันมีเรื่องราวที่ว่าสติสัมปชัญญะ เหตุผลอะไรต่างๆ เรื่องของจิต จิตที่ไม่รับธรรม เหมือนต้นไม้ปลูกในที่กันดาร จิตของเค้า ที่ปกปิดไปด้วยม่านหมอก มนต์ดำไสยศาสตร์ ยึดเจ้าพ่อเจ้าแม่ ไอ้นั่นไอ้นี่ เครื่องรางของขลัง เค้าไม่สนใจ ที่จะช่วยเหลือจิตของตนเอง ยกกายยกจิตใจตัวเอง เราเคยถามพระที่นับถือว่า หลวงตาไม่ยอกกล่าวอะไรละ กับคนที่มาหาท่าน ท่านบอกว่า พอฉันพูดบอกหน่อย ..สีดำๆก็ไหลออกมาหาฉันเลย ฉันไม่อยากเกิดอีก ..ท่านก็ไม่บอกอะไร
เรื่องราวของความเมตตา ก็ต้องใช้เหตุผล ว่าจะทำให้เกิดเป็นการคล้องเวรกรรม ในลักษณะอย่างไร เหมือนว่า เราไปบอกให่เค้าทำ ให้สิ่งของอะไรไป ไปทำให้เค้ายึด ไม่ได้เกิดมีการแก้ไข ให้สติจิตใจของเค้าดีขึ้น บางที่ก็ต้องอยู่เฉย .ปล่อยวาง มิใช่ว่าเมตตา ที่ไม่มีการแสดงออกไปทางกายวาจาใจเลย
มันก็มีเรื่องราว ของการอุปถัมภ์ค้ำชู เหมือนเรื่องพ่อแม่ที่ให้กายเรามาอาศัย เมตตาอุปถัมภ์ เลี้ยงดูมา พ่อแม่เมตตาเลี้ยงดู .. มา แต่ลูกก็ไม่เห็นคุณค่า กายที่ไม่เห็นคุณค่าต้นกำเนิดที่ผู้ให้กายมา ไม่ระลึกนึกถึงพ่อแม่ ใช้กายวาจาใจให้พ่อแม่ทุกข์กายใจ แล้วจะไปมีเมตตาตรงไหน ..ขนาดพ่อแม่ตนเอง ยังเสียสละ ไม่ใช้อารมณ์กับพ่อแม่ไม่ได้เลย เค้าพูดคำว่าเมตตาได้ แต่จิตมันหลง ..ใช้กายวาจาใจ ..หวังชื่อเสียง หวังให้คนยกย่องชมเชย
โฆษณา