1 เม.ย. เวลา 13:50 • ข่าวรอบโลก
ไทย

ตายห่ะ จะโดนทั้งปรับและจำไหมวะเนี่ยยยยย วันนี้..ตอแหลไว้เยอะจัด

ที่นี่ประเทศไทยห้ามมิให้ตอแหล ในวันเมษาหน้าโง่ (April Fool's Day) พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการกองปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญาทางเทคนิค (TCSD / บก.ปอท.) กล่าวว่า
วันนี้ใครก็ตามที่โกหกในวันเอพริลฟูลส์ อาจถูกจำคุกเอานะเออ โปรดหลีกเลี่ยงการหมิ่นประมาทผู้อื่นหรือสร้างความเกลียดชัง
และการไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตามมาตรา 328 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
หากทำเช่นนี้และเผยแพร่ทางออนไลน์ อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และ/หรือปรับสูงสุด 100,000 บาท
1
April Fool's Day วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันโกหก เฉลิมฉลองในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี โดยผู้คนจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน
3
ที่มาหรือต้นกำเนิดของ April Fools' Day ก็กล่าวกันว่า มีมาตั้งแต่ยุคโรมัน มีบันทึกโบราณระบุว่าต้นกำเนิดของ "วันเมษาหน้าโง่" เกิดขึ้นใกล้กับ "เทศกาลฮิลาเรีย" ของโรมัน
ที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม ขณะที่ในยุโรปสมัยยุคกลางก็พบว่าเคยมี "เทศกาลคนโง่" จัดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคมด้วย
บางประเทศทางยุโรป เช่น กรีซ ฝรั่งเศส ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับธรรมเนียมเล่นแกล้งกันด้วยเรื่องหลอก หรือโกหกกันมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16-19
และ หลักฐานเก่าที่สุดของวันเมษาหน้าโง่
คือ บันทึกโบราณในตำนานแคนเทอร์บรี (The Canterbury Tales) ของชอเซอร์ (ค.ศ. 1392) เป็นเรื่องที่ถูกเล่าต่อขานกันมาว่า สมัยนั้นมีการเขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับนิทาน แม่ชีและพระ (Nun's Priest's Tale)
ซึ่งเรื่องนี้มีการทำสำเนาเอาไว้หลายแผ่น จนเกิดการคัดลอกผิดพลาดเกี่ยวกับการระบุวันที่ จากบันทึกเดิมพูดถึง 32 วันหลังเดือนเมษายน นั่นคือตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม แต่ถูกทำสำเนาผิดเป็น 32 วันหลังมีนาคม ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน
ซึ่งทำให้ความหมายเปลี่ยนไป พอคนรุ่นหลังๆ มาอ่านบันทึกที่ไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจไปว่า ตำนานฉบับคัดลอกเป็นเรื่อง "โกหก" ฮาาาา
นั่นจึงเป็นบันทึกแรกที่มีความเชื่อมโยงกับ “การโกหก” ในวันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกตำนานที่เชื่อมโยงกับกำเนิดวัน April Fools' Day โดยมีเรื่องเล่าว่า
เรื่องนี้เกี่ยวกับการกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวยุโรปที่เพิ่งเปลี่ยนการนับแบบใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 16
แต่เดิมในช่วงยุคสมัยกลาง วันปีใหม่ของชาวยุโรปคือวันที่ 1 เมษายน ต่อมาในปี ค.ศ. 1592 พระสันตปาปาเกรเกอรี่ได้ประกาศใช้ปฏิทินใหม่สำหรับชาวคริสต์
ทำให้วันปีใหม่ถูกเปลี่ยนไปเป็นวันที่ 1 มกราคม
แต่เนื่องจากปัญหาด้านการสื่อสารที่ล่าช้าในยุคนั้น ยังคงมีประชาชนบางส่วนที่ไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่เชื่อ
1
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คนบางกลุ่มจึงยังจัดงานฉลองวันปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายนตามเดิม
ทำให้คนอื่นๆ พากันเรียกพวกเขาว่า "พวกเมษาหน้าโง่" (April Fools)
แล้วพยายามกลั่นแกล้งคนพวกนี้โดยส่งข้อความไปหลอก หรือล่อลวงให้ทุกคนหลงเชื่อเรื่องโกหกทั้งหลายว่าเป็นเรื่องจริง
จากการล้อเลียนคนที่ฉลองปีใหม่ผิดวันในประเทศแถบยุโรปในวันที่ 1 เมษายน ถูกต่อยอดโดยคนโบราณสู่วัฒนธรรมการแกล้งอำและโกหกกันในวัน April Fools' Day ของทุกๆ ปี
ซึ่งการเล่นนี้ ได้แผ่ขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เช่น แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา รวมถึงเอเชีย
และประเทศไทยก็ห้ามไม่ให้โกหกในวันนี้อีกต่อปายยยยยยย นะพี่น้องงงงงงงงงงง
โฆษณา