1 เม.ย. เวลา 22:01 • หนังสือ

ฟ้าลิขิตมารัก กาลครั้งหนึ่ง ณ หลวงพระบาง

หลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว สิ่งที่เดี๊ยนได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ…
“ความฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่น”
“รักควรมีสองคน” ถ้ามีคนอื่นมาร่วมวงชีวิตรักอย่างเช่นญาติโกโหติกาทั้งโขยงมีแต่พังกับพัง ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับตัวเอกในหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นหลานสาวเล่าถึงชีวิตของคำผิวผู้เป็นยาย โดยเน้นชีวิตรักแรกของยายกับเจ้าสุวรรณภูมา ซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการอันเกิดจากญาติโกโหติกาของทั้งสองฝ่าย แม้จะได้แต่งงานกันแต่ก็ต้องพลัดพรากแยกจากกันและต่างฝ่ายต่างไปแต่งงานใหม่อันเป็นผลมาจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย
หนังสือเล่มนี้ไม่ยาว สั้น ๆ อ่านแป๊บเดียวก็จบ ซึ่งไม่ได้บรรยายรายละเอียดของชีวิตทั้งคำผิวและผู้ที่เกี่ยวข้องมากนักก็จะทำให้งง ๆ เรื่องที่มาที่ไปของบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ (แม้จะมีแผนผังให้ท้ายเล่มก็ยังงงอยู่ดี) นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ยังสะท้อนภาพสังคมศักดินาของหลวงพระบาง(อย่างคร่าว ๆ) รวมไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ
นอกจากนี้ การที่ผู้เขียนไม่ได้อธิบายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในลาวเลยทำให้ขาดอรรถรสในแง่ผลกระทบที่คำผิวประสบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสูญสิ้นอำนาจของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส สงครามกลางเมืองในลาว และการล้มเลิกระบอบกษัตริย์ เป็นต้น จึงทำให้ช่วงเวลาชีวิตรักครั้งที่สองของคำผิวรวมไปถึงการกลับมาเจอเจ้าสุวรรณภูมาเป็นการเล่าอย่างห้วน ๆ สั้น ๆ
ชีวิตของคำผิวน่าเอาไปทำละครเป็นอย่างยิ่ง เพราะพล็อตมันได้มาก ๆ กับแนวที่คนไทยที่ดูละครชอบ คือนางเอกเป็น underdog ต้องประสบความทุกข์ยากต่าง ๆ นานา การกลั่นแกล้ง ฯลฯ เมื่อไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของเจ้าสุวรรณภูมา มีนางเอก พระเอก ตัวร้าย นางอิจฉา ครบสูตร
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่นิยาย จึงไม่ได้มีอะไรมากนัก คนที่ชอบอ่านแนวชีวิตรักของเจ้า ไม่ว่าจะเจ้าไทย หรือเจ้าต่างประเทศ ต้องไม่พลาดที่จะมีหนังสือเล่มนี้ในความครอบครอง ซึ่งเดี๊ยนมีในคอลเล็คชั่นเยอะอยู่
สุดท้ายและท้ายสุด เดี๊ยนคิดว่า ชื่อ “ฟ้าลิขิตมารัก” ไม่ค่อยเข้ากับชีวิตของคำผิวนัก เพราะความรักที่เกิดขึ้นคือความตั้งใจของคำผิวกับเจ้าสุวรรณภูมาล้วน ๆ ฟ้าไม่เกี่ยว เพราะทั้งสองอยู่ในแวดวงสังคมเดียวกันของหลวงพระบาง การได้เจอกันและถูกใจกันย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ส่วนการแต่งงานครั้งที่สองก็เกิดขึ้นจากแม่ ๆ และบรรดาญาติมิตรลิขิตให้
“ความฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่น”
“รักควรมีสองคน” ถ้ามีคนอื่นมาร่วมวงชีวิตรักอย่างเช่นญาติโกโหติกาทั้งโขยงมีแต่พังกับพัง ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับตัวเอกในหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นหลานสาวเล่าถึงชีวิตของคำผิวผู้เป็นยาย โดยเน้นชีวิตรักแรกของยายกับเจ้าสุวรรณภูมา ซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการอันเกิดจากญาติโกโหติกาของทั้งสองฝ่าย แม้จะได้แต่งงานกันแต่ก็ต้องพลัดพรากแยกจากกันและต่างฝ่ายต่างไปแต่งงานใหม่อันเป็นผลมาจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย
หนังสือเล่มนี้ไม่ยาว สั้น ๆ อ่านแป๊บเดียวก็จบ ซึ่งไม่ได้บรรยายรายละเอียดของชีวิตทั้งคำผิวและผู้ที่เกี่ยวข้องมากนักก็จะทำให้งง ๆ เรื่องที่มาที่ไปของบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ยังสะท้อนภาพสังคมศักดินาของหลวงพระบาง(อย่างคร่าว ๆ) รวมไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ
นอกจากนี้ การที่ผู้เขียนไม่ได้อธิบายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในลาวเลยทำให้ขาดอรรถรสในแง่ผลกระทบที่คำผิวประสบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสูญสิ้นอำนาจของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส สงครามกลางเมืองในลาว และการล้มเลิกระบอบกษัตริย์ เป็นต้น จึงทำให้ช่วงเวลาชีวิตรักครั้งที่สองของคำผิวรวมไปถึงการกลับมาเจอเจ้าสุวรรณภูมาเป็นการเล่าอย่างห้วน ๆ สั้น ๆ
ชีวิตของคำผิวน่าเอาไปทำละครเป็นอย่างยิ่ง เพราะพล็อตมันได้มาก ๆ กับแนวที่คนไทยที่ดูละครชอบ คือนางเอกเป็น underdog ต้องประสบความทุกข์ยากต่าง ๆ นานา การกลั่นแกล้ง ฯลฯ เมื่อไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของเจ้าสุวรรณภูมา มีนางเอก พระเอก ตัวร้าย นางอิจฉา ครบสูตร
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่นิยาย จึงไม่ได้มีอะไรมากนัก คนที่ชอบอ่านแนวชีวิตรักของเจ้า ไม่ว่าจะเจ้าไทย หรือเจ้าต่างประเทศ ต้องไม่พลาดที่จะมีหนังสือเล่มนี้ในความครอบครอง ซึ่งเดี๊ยนมีในคอลเล็คชั่นเยอะอยู่
สุดท้ายและท้ายสุด เดี๊ยนคิดว่า ชื่อ “ฟ้าลิขิตมารัก” ไม่ค่อยเข้ากับชีวิตของคำผิวนัก เพราะความรักที่เกิดขึ้นคือความตั้งใจของคำผิวกับเจ้าสุวรรณภูมาล้วน ๆ ฟ้าไม่เกี่ยว เพราะทั้งสองอยู่ในแวดวงสังคมเดียวกันของหลวงพระบาง การได้เจอกันและถูกใจกันย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ส่วนการแต่งงานครั้งที่สองก็เกิดขึ้นจากแม่ ๆ และบรรดาญาติมิตรลิขิตให้
………..
โฆษณา