7 เม.ย. เวลา 16:07 • ข่าวรอบโลก

เฝ้าระวังอุบัติภัยธรรมชาติ กับสุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 8 เมษายน 2567

ในวันที่ 8 เมษายน 2567 ผู้คนนับล้านจะได้เห็น “สุริยุปราคาเต็มดวง” ตามรายงานของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) เส้นทางสุริยุปราคาปี 2024 แนวคราสเต็มดวงจะพาดทวีปอเมริกาเหนือ บริเวณประเทศเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และแคนาดา เริ่มจากมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่เวลา 22:42 ของวันที่ 8 เมษายน ถึงเวลา 03:52 น. ของวันที่ 9 เมษายน (ตามเวลาประเทศไทย) การเกิดคราสครั้งนี้ ดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังนานที่สุด 4 นาที 28 วินาที แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ “ประเทศไทยไม่สามารถสังเกตได้”
สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2017 ถ่ายภาพจากเมืองมัทราส รัฐออริกอน วงกลมสีดำตรงกลางคือดวงจันทร์ รอบๆ มีกระแสแสงสีขาวจากบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่าโคโรนา
"สุริยุปราคาใหญ่แห่งอเมริกา" เป็นสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรกที่กระทบ 48 รัฐ เส้นทางคราสจะวิ่งจากตะวันตกเฉียงใต้ไปตะวันออกเฉียงเหนือ การเกิดปรากฏการณ์ดาราศาสตร์สำคัญในครั้งนี้ ประเทศที่อยู่ในแนวคราส โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาตื่นตัวเป็นอย่างมาก
เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคนจากหลายรัฐของสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ในแนวคราสเต็มดวง ได้แก่ เท็กซัส โอคลาโฮมา อาร์คันซอ มิสซูรี อิลลินอยส์ เคนตักกี้ อินเดียนา โอไฮโอ เพนซิลเวเนีย นิวยอร์ก เวอร์มอนต์ นิวแฮมป์เชียร์ และเมน รวมถึงบางส่วนของรัฐเทนเนสซีและมิชิแกน จะได้ชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงอีกครั้ง หลังจากเกิดครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2560 โดยครั้งนี้ระยะเวลาที่จะมองเห็นยาวนานที่สุดเกิดขึ้นใกล้กับเมืองคาร์บอนเดล รัฐอิลลินอยส์ 2 นาที 42 วินาที
ในวันเดียวกับสุริยุปราคาปี 2024 NASA จะเปิดตัวจรวดที่มีเสียงสามลูกในวันที่ 8 เมษายน 2024 เพื่อศึกษาว่าบรรยากาศชั้นบนของโลกได้รับผลกระทบอย่างไรเมื่อแสงอาทิตย์หรี่ลงชั่วขณะเหนือส่วนหนึ่งของดาวเคราะห์
การคราสของดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดการรบกวนของชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ วิทยุสื่อสาร วิทยุนำทาง (GPS) และการสื่อสารผ่านดาวเทียม
ชั้นบรรยากาศของโลกที่เกี่ยวข้องกับคลื่นวิทยุมีอยู่ 3 ชั้น โดยเรียงจากชั้นที่อยู่ใกล้กับผิวโลกมากที่สุด คือ
🌑ชั้นบรรยากาศโทรโปสเฟียร์ ( Troposphere )
🌒ชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ ( Stratosphere )
🌓ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ( Ionosphere )
ภารกิจเฝ้าระวัง การรบกวนบรรยากาศรอบเส้นทางคราส (Atmospheric Perturbations around Eclipse Path : APEP) ของ NASA ในช่วงสุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 8 เมษายน 2567 การส่งจรวดที่มีเสียง (sounding rockets) สามลูกจาก Wallops Flight Facility ของ NASA ในรัฐเวอร์จิเนีย เป้าหมายคือ เพื่อศึกษาการรบกวนในบรรยากาศรอบนอกโลกที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียเมื่อดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์
จรวดส่งเสียง APEP สามลูกและทีมสนับสนุนหลังการประกอบสำเร็จ หัวหน้าทีม Aroh Barjatya อยู่ที่ตรงกลางด้านบน ยืนอยู่ข้างราวกั้นบนชั้นสอง นาซา/เบอริท แบลนด์
ภารกิจนี้นำโดย Aroh Barjatya ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์วิศวกรรมที่ Embry-Riddle Aeronautical University ในฟลอริดา ซึ่งเขาดูแลห้องปฏิบัติการ Space and Atmospheric Instrumentation Lab จรวดที่มีเสียงนี้จะปล่อยในเวลาที่แตกต่างกัน 3 ครั้ง คือ 45 นาทีก่อน ระหว่าง และ 45 นาทีหลังคราส
“ไอโอโนสเฟียร์” เป็นบริเวณชั้นบรรยากาศของโลกที่อยู่เหนือพื้นผิวโลกระหว่าง 55 ถึง 310 ไมล์ (90 ถึง 500 กิโลเมตร) ไอโอโนสเฟียร์ยังก่อให้เกิดขอบเขตระหว่างบรรยากาศด้านล่างของโลก ซึ่งเป็นที่ที่เราอาศัยและหายใจ กับสุญญากาศของอวกาศ มันประกอบด้วยทะเลอนุภาคที่แตกตัวเป็นไอออนหรือมีประจุไฟฟ้าจากพลังงานของดวงอาทิตย์หรือการแผ่รังสีแสงอาทิตย์
สภาพอากาศจากโลก เช่น พายุเฮอริเคนหรือระบบพายุฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่ สามารถสร้างคลื่นความกดดันที่กระเพื่อมขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชั้นบรรยากาศรอบนอกได้
ขณะที่เงาคราสวิ่งผ่านชั้นบรรยากาศ อาจก่อให้เกิดคลื่นบรรยากาศขนาดใหญ่ การรบกวน หรือการก่อกวนในระดับเล็กน้อย การก่อกวนเหล่านี้ส่งผลต่อความถี่การสื่อสารทางวิทยุที่แตกต่างกัน การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการก่อกวนเหล่านี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบและปรับปรุงแบบจำลองปัจจุบันที่ช่วยทำนายการรบกวนที่อาจเกิดขึ้นกับการสื่อสารของเรา โดยเฉพาะการสื่อสารความถี่สูง
นอกจากจรวดแล้ว หลายทีมทั่วสหรัฐอเมริกายังจะทำการตรวจวัดบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ด้วยวิธีการต่างๆ อีกด้วย เช่น สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศในนิวเม็กซิโก
การทำความเข้าใจบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์และการพัฒนาแบบจำลองเพื่อช่วยทำนายการรบกวนถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้แน่ใจว่าโลกที่พึ่งพาการสื่อสารมากขึ้นเรื่อยๆ ของเราดำเนินไปอย่างราบรื่น
Aroh Barjatya กล่าว
การเปิดตัว APEP ครั้งนี้จะมีการสตรีมสดผ่าน YouTube อย่างเป็นทางการของ Wallops ของ NASA และนำเสนอใน การออกอากาศ สุริยุปราคาเต็มดวงอย่างเป็นทางการของ NASAประชาชนทั่วไปยังสามารถชมการเปิดตัวได้ด้วยตนเองตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว NASA Wallops Flight Facility
การพ่นมวลโคโรนา (CME) ที่ถ่ายโดย NASA และหอดูดาวสุริยะและเฮลิโอสเฟียร์ (SOHO) ของ ESA (เครดิตภาพ: NASA/GSFC/SOHO/ESA)
นอกจากนี้ โลกเรายังมีดาวเทียม SOHO ดูดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นความพยายามร่วมกันของ องค์การอวกาศยุโรป European Space Agency : ESA และ NASA โดยดาวเทียม SOHO เป็นดาวเทียมสังเกตการณ์การปะทุของดวงอาทิตย์หรือที่เรียกว่า การพ่นมวลโคโรนา (Coronal mass ejections : CME) จับภาพการปะทุของพลาสมาที่ร้อนจัดขณะที่มันพุ่งออกสู่อวกาศ เพื่อติดตามผลกระทบของสภาพอากาศในอวกาศบนโลกของเรา และช่วยนักวิจัยคาดการณ์พายุสุริยะที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบการสื่อสารทั่วโลก
การพ่นมวลโคโรนา (Coronal mass ejections : CME) คือการขับพลาสมาและสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ออกจากชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ เมื่อ CME ก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กโลก CME สามารถสร้างความเสียหายให้กับโครงข่ายไฟฟ้า เครือข่ายโทรคมนาคม และดาวเทียมที่โคจรอยู่ และทำให้นักบินอวกาศได้รับรังสีในปริมาณที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ CME ยังอาจทำให้เกิดไฟกระชากในกระแสไฟฟ้า และอาจทำให้เกิดไฟดับในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบรายงานจาก NASA หรือ ESA ถึงการเกิด “พายุสุริยะ” (solar storm) ในห้วงการเกิดสุริยุปราคาปี 2024
สายฟ้าฟาดเทพีเสรีภาพในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 (@dantvusa ผ่าน Twitter)
แต่เป็นที่น่าสังเกตและวิตกกังวลของชาวโลกถึงเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดในห้วงนี้ เมื่อมีรายงานเกิดพายุมากกว่า 100 ลูกทั่วภูมิภาค รวมถึงพายุทอร์นาโดมากกว่า 16 ลูก เมื่อเช้าวันที่ 2 เมษายน และ 3 เมษายน 2567 ถล่มหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา พายุดังกล่าวทำให้เกิด "น้ำท่วม ต้นไม้โค่น ไฟฟ้าดับ และเส้นทางการเดินรถหยุดชะงัก"
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับเทศมณฑลฟาเยตต์ คานาวา ลินคอล์น และนิโคลัส เนื่องจากมีพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงและมีลมแรง ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วม ต้นไม้โค่น ไฟฟ้าดับ
มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บหลายสิบราย อาคาร บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก โดยส่งผลกระทบรุนแรงในหลายรัฐ ได้แก่ อินเดียนาตอนใต้ โอคลาโฮมา เวสต์เวอร์จิเนีย แอละแบมา อิลลินอยส์ เทนเนสซี โอไฮโอ จอร์เจีย และเคนตักกี้ รวมทั้งมีรายงานสภาพอากาศกำลังก่อให้เกิดพายุหมุน ลมแรง และลูกเห็บขนาดใหญ่ เข้าสู่พื้นที่บางส่วนของชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้และชายฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ฟลอริดาไปจนถึงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ประชาชนกว่า 30 ล้านคนอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากสภาพอากาศเลวร้าย
ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 แสดงให้เห็นอาคารที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายในเมืองฮัวเหลียน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 07:58 น. (เวลาปักกิ่ง) เกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด7.4 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งตะวันออกของเกาะไต้หวัน ศูนย์กลางแผ่นดินไหวใกล้เมืองฮัวเหลียน ถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 25 ปี ของไต้หวัน ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 13 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,000 ราย และพื้นที่บางส่วนของประเทศจีน ในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้รับแรงสั่นสะเทือน
ในวันถัดมา ศูนย์แผ่นดินไหวแห่งชาติญี่ปุ่นรายงาน แผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ สั่นสะเทือนชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชูในญี่ปุ่น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567 แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ริกเตอร์ที่ไต้หวัน มีข้อสังเกตจากนักธรณีวิทยาว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อแรงสั่นสะเทือนเป็นพิเศษเนื่องจากความตึงเครียดสะสมจากปฏิกิริยาของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น ได้แก่ แผ่นทะเลฟิลิปปินส์และแผ่นยูเรเชียน ซึ่งอาจนำไปสู่ปรากฏการณ์แผ่นดินไหว
จอแสดงผลแสดงข่าวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในนิวยอร์กซิตี้ที่สำนักงานใหญ่ News Corp ในวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2024 ในนิวยอร์ก แรงสั่นสะเทือนตึกระฟ้าและชานเมืองทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา (ภาพ AP/ยูกิ อิวามูระ)
เช้าวันศุกร์ ที่ 5 เมษายน 2567 เกิดแผ่นดินไหวเขย่านครนิวยอร์กความรุนแรงขนาด 4.8 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางอยู่ใกล้สถานีไวท์เฮาส์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ หรือประมาณ 45 ไมล์ (72 กิโลเมตร) ทางตะวันตกของนิวยอร์กซิตี้ และ 50 ไมล์ (80 กิโลเมตร) ทางตอนเหนือของฟิลาเดลเฟีย ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอาคารต่างๆ รวมทั้งในแมนฮัตตันและอีก 5 เมือง ไม่มีรายงานการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต นักธรณีวิทยาอ้างว่าการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกเป็นสาเหตุ
เขื่อนออร์สค์แตก  https://twitter.com/tassagency_en/status/1776612025575067964
และที่รัสเซีย เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567 เวลา 10.30 น. ตามเวลามอสโก เกิดเหตุเขื่อนกั้นน้ำในย่านเมืองเก่าออร์สค์ (Orsk) แคว้นโอเรนเบิร์ก (Orenburg) พังทลาย ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนราว 6,600 หลัง และประชาชนมากกว่า 16,000 คน ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตจากเหตุเขื่อนแตก ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วทั้งภูมิภาคโอเรนเบิร์ก หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำอูราลเพิ่มสูงขึ้นอย่างเป็นอันตรายเนื่องจากการละลายของน้ำแข็ง อย่างผิดปกติ
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) รายงานยืนยันว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาในวันที่ 8 เมษายน 2567 ไม่ได้ส่งผลต่อการเกิดลมสุริยะ หรือพายุสุริยะแต่อย่างใด และยังไม่มีข้อมูลการแจ้งเตือนถึงพายุสุริยะจาก NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ในวันดังกล่าว
1
ภาพต้นเรื่อง : https://sites.erau.edu/sail/apep/
โฆษณา