8 เม.ย. เวลา 07:42 • สุขภาพ
โรงพยาบาลเอกชัย

วัณโรค คือ โรคติดเชื้ออย่างหนึ่งก็เป็นเชื้อ กลุ่มที่เรียกว่า Mycobacterium tuberculosis

💬 สาเหตุของโรค 💬
เกิดจากเชื้อกลุ่ม Mycobacterium
เป็นเชื้อขนาดเล็กมาก ประมาณ 5 ไมครอน เมื่อเราสูดหายใจเข้าไปมันก็จะไปถึงบริเวณปอดได้ และเมื่อร่างกายไม่สามารถจัดการกับเชื้อได้ ก็จะมีอาการติดเชื้อขึ้นมา แต่ถ้าเกิดบางครั้งร่างกายสามารถ จัดการกับเชื้อนี้ได้ เชื้อนั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรกับเรา ร่างกายก็จะแข็งแรงดีตามปกติ
👉 วัณโรคมีกี่ระยะ ?
ปกติจะแบ่งเป็น 2 ระยะ หลักๆ คือ ระยะแฝง กับ ระยะแพร่กระจายเชื้อ
เมื่อเราหายใจรับเชื้อวัณโรคเข้ามา เม็ดเลือดขาวในร่างกายชนิดหนึ่งจะไปทำการจัดการกับเชื้อวัณโรค แล้วเม็ดเลือดขาวตัวนี้จะวิ่งกลับไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณปอด บางครั้งถ้าร่างกายเราจัดการกับเชื้อได้ ตัวเชื้อวัณโรคก็จะอยู่เงียบๆ ในปอดเรา
หรือเรียกว่าเป็นวัณโรคระยะแฝง คือ มีเชื้ออยู่แต่เชื้อนั้นไม่มีปฏิกิริยา
แต่ในกรณีที่ร่างกาย หรือภูมิต้านทานของร่างกายจัดการกับเชื้อนี้ไม่ได้แล้วเชื้อนี้ จะเกิดการแบ่งตัวขึ้นมา เมื่อเชื้อเกิดการแบ่งตัวขึ้นมา ก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า วัณโรคระยะติดต่อ หรือ ระยะแพร่กระจาย คนไข้จะเริ่มมีอาการต่างๆ เช่น มีไข้ ไอ
แต่ถ้าอยู่ระยะแฝงคนไข้จะไม่มีอาการใดๆ เลย เราก็จะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร และจะไม่แพร่กระจายเชื้อด้วย ในคนกลุ่มนี้เมื่อวันใดวันหนึ่ง ภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอขึ้นมา อาจทำให้วัณโรคที่เป็นระยะแฝงมีปฏิกิริยาขึ้นมาได้
🌟 วัณโรคสามารถเป็นที่ไหนได้บ้าง ?
หลักๆ เลยชอบเป็นที่ปอด วัณโรคเป็นเชื้อโรคที่ชอบบริเวณที่มีอ๊อกซิเจนบริเวณกลีบบนของปอด ของร่างกายทั้งสองข้าง รองลงมาจากตำแหน่งปอดก็จะเป็นบริเวณเยื่อหุ้มปอด คนไข้จะมีอาการมีน้ำบริเวณเยื่อหุ้มปอด ที่พบรองลงมาก็คือบริเวณต่อมน้ำเหลือง คนไข้จะมาด้วยอาการมีไข้ มีก้อนตามคอ ตามรักแร้
เป็นต้น ส่วนอวัยวะอื่นๆ ก็พบได้แต่ว่าจะน้อยลงไป เช่น ลำไส้ใหญ่ ไต หรือแม้แต่ในเยื่อหุ้มสมอง หากพบที่เยื่อหุ้มสมองก็จะอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
🔥 ใครที่เสี่ยงเป็นวัณโรคปอด ?
คนที่ภูมิต้านทานร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง คนที่มีสุขภาพแข็งแรงมักจะจัดการเชื้อได้ หรือแม้จะรับเชื้อเข้าไป ก็จะเป็นระยะที่ไม่มีปฏิกิริยา แต่ถ้าเกิดภูมิร่างกายเกิดไม่ดีขึ้นมา เช่น คนไข้ HIV คนไข้ที่เป็นเบาหวาน หรือคนไข้กลุ่มโรคไต เป็นต้น หรือคนที่จำเป็นต้องทานสเตียรอยด์ กลุ่มคนกลุ่มนี้ภูมิต้านทานจะไม่ดี โอกาสที่ร่างกายจะจัดการกับเชื้อได้ก็ไม่ดี เชื้อก็แพร่กระจายได้ ก็มีโอกาสเกิดโรคได้
🌾 วัณโรคปอดมีอาการอย่างไร ?
คนไข้จะมีอาการมีไข้ ไอเรื้อรัง ประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป ถ้ามีอาการ มีไข้ ไอ นานมากกว่า 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะไอแห้ง หรือมีเสมหะ จำเป็นจะต้อง เอ็กซเรย์ปอดเบื้องต้น ว่ามีเชื้อวัณโรคหรือไม่ และอาการอย่างอื่นที่พบได้ เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เหงื่อออกตอนกลางคืน หรือมีไข้ มักจะเป็นช่วงเย็นๆ เป็นต้น เป็นอาการกลุ่มที่พบบ่อยๆ ในกลุ่มวัณโรคปอด
👍 การรักษาโรควัณโรคปอด 👍
วัณโรคปอดเป็นโรคติดเชื้อที่รักษาให้หายขาดได้ การรักษาหลักๆ เลย คือ การทานยาต้านวัณโรค แต่ความสำคัญของการรักษาโรคนี้ คือ การทานยาวัณโรคนานประมาณ 6 เดือน ยาวัณโรคประกอบไปด้วยยาหลายชนิด ผู้ป่วยจะต้องทานยาหลายเม็ด และโรคนี้สามารถหายขาดได้ถ้าทานยาครบ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเกิดทานยาไม่ครบ หรือทานแล้วหยุด มีการหยุดยาหรือขาดยาบ่อยๆ สิ่งที่น่ากลัวมากๆ ของวัณโรค คือ จะเกิดวัณโรคดื้อยาขึ้นมา
เมื่อไรก็ตามที่วัณโรคดื้อยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งดื้อยาหลายๆ ขนาน สิ่งนี้จะทำให้แนวทางการรักษาวัณโรคยากกว่าเดิม จากเดิมที่ทานยาอย่างเดียวแค่ 6 เดือน คนไข้อาจจะต้องฉีดยานาน 6 เดือนและกินยาต่อถึง 2 ปี เพราะฉะนั้นแนวทางการรักษาจะยากกว่าเดิม แล้วร่างกายคนไข้ จะเจอกับยาที่มีผลข้างเคียงมากขึ้น
เพราะฉะนั้นเน้นย้ำที่สำคัญที่สุด คือ เรารักษาให้หายขาดได้แต่เน้นว่าต้องทานยาต่อเนื่องให้ครบ 6 เดือน แล้วก็ไม่ทานๆ หยุดๆ
💓 ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.นิษฐา เอื้ออารีมิตร แพทย์อายุรกรรมเฉพาะทางโรงพยาบาลเอกชัย 💓
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ :
ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลเอกชัย 🏥 ☎️โทร.034-417999 หรือ 1715 ต่อ 110, 111
โฆษณา