9 เม.ย. เวลา 13:11 • ดนตรี เพลง
Union Hall Thailand

The LAST STAIR - Acoustic Live Camp in the city

"บันไดขั้นสุดท้าย สู่จุดหมายแห่งเส้นทางศิลปิน"
และแล้ว….
การเดินทางของเหล่าศิลปินเลือดใหม่
ผู้ไขว่คว้าโอกาสอันใหญ่ยิ่ง
ในโปรเจกต์น้ำดี “INDYCAMP 2023”
ที่เดินทางมาเป็นเวลายาวนาน
เปลี่ยนภาพเหล่าไอดอลวัยใส
ให้กลายเป็นศิลปินเปี่ยมศักยภาพ
ได้ประกาศถึงคอนเสิร์ตสุดท้าย
“The Last Stair”
นับเป็นเวลาไม่น้อยเลย
ที่พวกเธอทั้งหลาย
ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ
สร้างสรรค์บทเพลงชั้นคุณภาพ
ฝึกซ้อมการแสดงอย่างหนักหน่วง
เตรียมพลังและเอเนอร์จี้ให้ถึงพร้อม
ออกเดินสายแสดงความสามารถ
สร้างความสุขและมอบรอยยิ้ม
ให้กับเหล่ามิตรรักแฟนเพลงเสมอมา
แต่ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
การเดินทางทุกคราย่อมมีจุดหมาย
เหมือนดั่งในค่ำคืนนี้ที่เหล่าศิลปินสาว
กำลังจะเดินทางมาถึงทางแยกแห่งชีวิต
บางคนตัดสินใจที่จะออกไปสู่โลกกว้าง
บางคนก็ยังไม่ได้หายไปไหน
แต่ไม่ว่าอย่างไร
ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้กล้า
ที่พร้อมจะออกจาก Comfort Zone
พร้อมลองผิดลองถูกเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
และด้วยประสบการณ์ต่างๆ ที่พวกเธอสั่งสมมา
ก็กำลังจะแสดงถึงความสัมฤทธิ์ผล
ในคอนเสิร์ตส่งท้ายโปรเจกต์ที่ว่านี้
หากว่าทุกคนพร้อมกันแล้ว
🐉 แอดภู โอตะหน้ายักษ์ นักเลงกลอน 🐉
ก็ขอเชิญชวนเหล่ามิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย
มาร่วมกันส่งท้ายโปรเจคต์สุดแสนยิ่งใหญ่
ในบรรยากาศแคมป์ปิ้งสุดแสนละมุน
ราวกับค่ำคืนนี้มีเทพยดามากล่อมโลก
ให้ทุกคนคลายโศกคลายทุกข์ทั้งปวง
ไปพบกับ “บันไดขั้นสุดท้าย” กันได้เลยครับ……
Overture: เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาสู่ฮอลล์การแสดงแล้ว ก็จะพบกับเหล่านักดนตรีที่มาพร้อมหน้า คลาคล่ำไปด้วยเครื่องมากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์ เปียโน ไวโอลิน เชลโล ดับเบิลเบส กลอง เพอร์คัสชั่น เราจะได้ฟังเพลงบรรเลงเพราะๆ สบายหูจากพวกเขาเหล่านี้ เป็นการอุ่นเครื่องก่อนเริ่มการแสดง
และแน่นอนว่าค่ำคืนนี้ เพลงทุกเพลงจะถูกบรรเลงด้วยรูปแบบอะคูสติก ไม่เน้นเครื่องไฟฟ้า เริ่มรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ฟังเพลงชั้นยอดในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน เพราะจะมีการเรียบเรียงเสียงประสานเพลงในแบบพิเศษอีกด้วย โอ้ว! ตื่นเต้น ไปพบกับศิลปินท่านแรกได้เลยครับ
###
Artist 1: #KaofrangIndyCamp
Songs 1.1 “หากว่าเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน” เสียงใสๆ จากแม่สาวน้อยผู้มีรอยยิ้มร่าเริงอย่าง “ข้าวฟ่าง-ญานิศา” มาในชุดสบายๆ ดูน่ารัก เป็นการวอร์มอัพให้ทุกคนตื่นตัวและเตรียมพร้อม ก่อนที่จะพาทุกคนไปดื่มด่ำบรรยากาศแสนน่ารักด้วยบทเพลง “วาสนาผู้ใด” ซึ่งข้าวฟ่างก็ยังคงเป็นข้าวฟ่าง ที่ขี้เล่น ดุ๊กดิ๊ก เข้ากับเพลงที่ฟังแล้วดูน่ารักเหมือนอย่างเคย ผู้เขียนยังอดคิดไม่ได้ว่า เริ่มเพลงแรกมาแล้วยัง Arrange ใหม่ได้ดีขนาดนี้ เพลงต่อไปจะดีขนาดไหนกันนะ
Songs 1.2 มาต่อด้วยเพลงที่ 2 อย่าง “No one can be” ที่ข้าวฟ่างได้หยิบยืมมาจากพี่แก้ว @Kaew Natruja อดีตไอดอลรุ่นพี่ที่คิดถึงและเพิ่งจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นครั้งที่ 3 ไปหมาดๆ
มาครั้งนี้นับเป็นการนำบทเพลงในยุคแรกๆ ของการก่อตั้ง IR กลับมาขับขานใหม่อีกครั้ง ซึ่งรองกัปตันทีมป้ายแดงอย่างข้าวฟ่างก็ร้องได้ดีไม่มีที่ติ เปล่งพลังเสียงออกมาอย่างเต็มที่ จนผู้เขียนยังรู้สึกได้ว่าสาวน้อยตาแป๋วคนนี้ตั้งแต่เข้าร่วมอินดี้แคมป์มา ก็เห็นพัฒนาการในด้านการร้องเพลงและการใช้เสียงมากขึ้นอย่างชัดเจน ก็รู้สึกแฮปปี้มากๆที่ได้ฟังเพลงเพราะๆจากน้องสาวแสนซนคนนี้ และเชื่อว่าเธอยังสามารถไปได้อีกไกล คงต้องมารอลุ้นดูในอนาคตว่า หากข้าวฟ่างได้มีโอกาสทำเพลงใหม่ของตัวเองอีกครั้ง จะเป็นอย่างไรกัน
###
Artist 2: #NenieIndyCamp
Songs 2.1 มาต่อกับศิลปินคนที่สองได้แก่ “นีนี่-พิชญาภา” สาวน้อยหน้าหวานแก้มชมพูระเรื่อ มาในชุดสีขาวชมพู ย้อมผมดำ ครั้งนี้ก็โชว์ของด้วยการเล่นเปียโนพร้อมกับร้องเพลง “หมายความว่าอะไร” ของพี่ๆ วง MEAN ทำเอาผู้ชมถึงกับชอบอกชอบใจในน้ำเสียงนุ่มนิ่มๆ ของเธอ พร้อมกับโบกไม้โบกมือไปตามจังหวะเพลง ออกมาเป็นภาพที่สวยงามมากๆ
Songs 2.2 ไม่รอช้าสาวน้อยชาวอุดรก็ประเดิมต่อด้วยเพลงแรกในชีวิตของเธอ “อย่ามาทำให้เขิน (You make me feel shy)” โชว์เสียงหวานกรุบทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับเขินตามชื่อเพลง และยังได้เดินลงข้างล่างเวที มาทักทายมาสนุกสนานกับคนดู ใครนั่งแถวหน้าก็คงจะเขินหน้าแดงกันแบบตัวบิดตัวม้วนกันไปเลยทีนี้ พอจบเพลง นีนี่กล่าวขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์เธอมาตลอด การเดินทางในเส้นทางศิลปินยังไม่ลาสนะคะ ฝากสนับสนุนต่อไปด้วยนะ
###
Artist 3: #SatchanIndyCamp
Songs 3.1 เทพีดาวเสาร์ “ซัทจัง-สวิชญา” อดีตน้องเล็กผู้มีหัวใจยิ่งใหญ่ มาในลุคปลายผมสีชมพูสุดแซ่บพร้อมกับเครื่องดนตรีชิ้นใหม่ที่ไม่เคยนำมาออกสื่อ ได้แก่ กีต้าร์ขนาดกลาง 4 สาย หรือที่เรียกว่า “บาริโทน” ซึ่งเธอให้ชื่อว่าเป็น “ลูกคนกลาง”
ก่อนจะเริ่มประเดิมโชว์ด้วยเพลงที่เธอเขียนขึ้นมาอย่างเพลง “ไม่อยากเก็บไว้ในใจ (สักวันคงกล้าพอ)”
ซึ่งเพลงนี้ที่ปกติก็มาเวย์น่ารักๆ อยู่แล้ว พอมีการเรียบเรียงเป็นเวอร์ชั่นอะคูสติก และกลับไปใช้คีย์เพลงที่เป็นต้นฉบับแรก ต่ำลงมาจากเดิมที่ทุกคนคุ้นหู ก็ทำให้เพลงนี้ดูร้องง่ายสบายๆ มากขึ้น ถ้าใครอยากฟังต้บฉบับของแทร่ แนะนำให้ไปซื้อ CD เพลง DEMO ของน้องครับ ยังมีขายอยู่ (ช่วยน้องขายของหน่อย อุอิ)
Songs 3.2 มาต่อกันด้วยเพลงรักจากหนังรักอย่างเพลง “ชีส” คราวนี้เจ้าหนูดาวเสาร์ได้ใช้อูคูเลเล่สีชมพูหวานๆ ลูกคนเล็กของเธอ บรรเลงขับร้องด้วยน้ำเสียงใสๆ ด้วยมุ่งหมายจะให้หม่าม้าผู้เป็นที่รักได้ฟังเพลงโปรดสมดั่งความตั้งใจ เป็นภาพที่น่ารักมากๆ
จากนั้นซัทจัง ก็ได้สปอยล์ถึงโปรเจกต์ใหม่ในอนาคตของเธอ ได้แก่ “Music Box” รายการร้องเพลงระดับตำนานที่ทุกคนคิดถึง ซึ่งครั้งนี้เธอ นีนี่ และข้าวฟ่าง จะได้มีส่วนร่วมสำคัญในการ Produce เพลงอีกด้วย ได้ยินแล้วขนลุกเลยจริงๆ รอติดตามได้เลยนะครับทุกคน
###
Artist 4: #MarminkIndyCamp
Song 4.1 ศิลปินท่านต่อไปนี้เรียกเสียงกรี๊ดเสียงเชียร์ดังมาก ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น “มามิ้งค์-มาณิฌา” เทพีดาวอังคารสุดอินดี้ เธอมาในชุดนางพรายไม้ที่ทุกคนคุ้นเคย ดูสวยแววตาเป็นประกาย แล้วก็น่ารักไปในเวลาเดียวกัน โดยเริ่มจากเพลงแรกของเธออย่าง “พร่ำเพ้อ (Bubbles in the sky)” ที่เข้ากับบรรยากาศแคมปิ้งสุดๆ
พอเข้าช่วงกลางเพลง มามิ้งค์ก็เริ่มร่ายรำ ทำเอาทุกคนใจเต้น พอจบเพลงปุ๊บ เธอได้เปิดเผยว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกในชีวิต จึงลองแต่งเพลงแบบ ไม่รู้เรื่องหรืออาศัยทักษะอะไรเลย ไม่สนทฤษฎีดนตรี เอาตามที่ใจชอบแบบนี้ๆ แต่ก็นั่นแหละครับ เพลงของแม่สาวดาวอังคารเลยแปลกแหวกแนว เข้าขั้นอินดี้ที่สุดแล้ว สื่อให้เห็นว่าบางทีเราก็ลองออกจากกรอบมาทำอะไรใหม่ๆ บ้าง อาจจะได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ได้นะครับใครจะรู้
Song 4.2 มาต่อกันด้วยเพลงที่ 2 อย่าง “Be here with me” ซึ่งมามิ้งค์ แต่งขึ้นเพื่อสนอง need ตัวเองอย่างเต็มสูบ โดยแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งเพลง แต่ใดๆ คือยังคงถ่ายทอดอารมณ์แห่งสุนทรียะ ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลง ราวกับว่าโลกนี้เป็นของเธอผู้เดียว ยิ่งยามเธอร่ายรำไปทั่วเวทีนั้น ก็ยิ่งสะกดสายตาทุกคนจนวางตาไม่ได้เลย ในความน่ารักของนางพรายไม้หน้าหวานคนนี้
Song 4.3 ปิดท้ายไปด้วยเพลงที่เป็นตำนานแห่งขุนเขาอย่าง “2565” ซึ่งทำให้เธอคนนี้ได้เจิดจรัสที่สุดในฐานะเซ็นเตอร์ โดยได้นำมาเรียบเรียงใหม่ให้มีความหวานละมุนหูมากขึ้น ฟังสบายๆมากขึ้น เพียงได้ฟังก็เหมือนลอยล่องไปสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดในดินแดนใด บอกได้คำเดียวว่าขนลุกเลย
นึกไม่ถึงจริงๆ ว่ามามิ้งค์ จะนำเพลงนี้มาเซอร์ไพรส์พวกเราทุกคน ขอชื่นชมในความครีเอทนี้เลยครับ จบเพลงแล้วก็กล่าวขอบคุณครูเอ๊ะ ครูแมน ที่เปิดโอกาสให้เธอได้ลองทำอะไรใหม่ๆ และทุกคนที่คอยอยู่ร่วมทางเดินกับเธอมาจนถึงทุกวันนี้ ก็อยากจะบอกว่าดีใจที่ได้เดินทางมาแสนไกลด้วยกันนะครับ ชนหมัดทิพย์กันมา หึ้ย!! 👊
###
Artist 5: #FortuneIndyCamp
Song 5.1 คราวนี้ถึงคิวของ “ฟอร์จูน-ปัณฑิตา” สาวแกร่งผู้แสนเก่งกาจ คราวนี้มาในชุดสีขาวผ่อง ดูโดดเด่นสะดุดตามากๆ แคปฟอร์จูนของเราเดินตรงไปที่เปียโน ก่อนจะพาทุกคนไปร่วมย้อนความทรงจำ ในวันที่เธอนั่งอยู่ในห้องอัดเสียงคนเดียว แล้วก็ได้แต่งเพลงๆหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับเล่นและร้องคนเดียวในวันนั้น
ซึ่งก็คือเพลง “Bye hero” บทเพลงแห่งคำอำลาแด่เพื่อนแมวผู้ล่วงลับอย่าง “ฮีโร่” จากปกติที่ฟังก็ว่าเศร้าแล้ว พอได้ฟังเวอร์ชั่นเปียโนโซโล่ มันก็ยิ่งปวดร้าวหัวใจยิ่งนัก พอบรรเลงเสร็จ ฟอร์จูนที่ตอนนี้ทำใจได้และแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ก็ได้กล่าวว่า “ด้วยรักและอาลัย ขอบคุณฮีโร่ที่เข้ามาเป็นความทรงจำที่แสนดีเสมอ” ซึ้งใจจังเลยนะ
Song 5.2 ไม่รอช้ามาต่อกันด้วยเพลงเศร้าแบบรัวๆ อย่างเพลง “คงทำได้แค่รอ (last thing i can do)” ที่ฟังกี่ทีก็รู้สึกดำดิ่ง ราวกับว่าเวลามันช่างแสนยาวนาน ทรมานหัวใจ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน สาวฮอร์จุงก็ยังคงไว้ซึ่งฝีไม้ลายมือ ถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้อย่างอยู่หมัด สะกดหัวใจและสายตาเหล่าผู้ชมไว้ได้อย่างไร้ที่ติ พอจบเพลง เธอก็อวยพรให้ทุกคนไม่ต้องรอใคร รอหนูคนเดียวก็พอค่ะ ง่อวววว คมไปอีก มีดๆๆก็ยังไม่คมเท่าเลย
Song 5.3 ปิดท้ายกันไปด้วยจากศิลปินท่านอื่นบ้าง โดยแคปฟอร์ได้เลือกเพลง “ตุ๊กตาหิมะ” ของ Gunchalee พระเอกหนุ่ม MV รักเทอที่สุดในจักรยาน มาขับขานให้ทุกคนได้ฟังกันอย่าง Exclusive สุดท้ายสาวฟอร์จูนก็ขอให้ทุกคนได้เจอความรักที่ดี เธอกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาเป็นภาพความฝัน ขอเก็บทุกคนไว้เป็นความทรงจำ ในตาทั้ง 2 ข้างของเธอ พอกวาดตามองทุกคนเสร็จแล้ว ก็ส่งมอบเวทีให้ศิลปินท่านต่อไป
###
Artist 6: #MelfiasIndyCamp
Song 6.1 มาต่อกันที่ ศิลปินสาวน้อยมากความสามารถอย่าง “ปีโป้ #mellfias ที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลย คราวนี้จารย์โป้ มาในชุดสีดำดูลึกลับ และน่าค้นหาไปพร้อมกัน ก่อนเริ่มบรรเลงเปียโน พร้อมครวญเพลงแห่งปรสิตอย่าง “Just not today” ส่งพยาธิ เอ้ย! ปรสิตไปฝังอยู่ในหัวทุกคนในงานนี้พร้อมกันเลย
Song 6.2 ไม่รอช้าต่อด้วยเพลง “Heard (เคยได้ยิน)” ซึ่งก็ดันเกิดเหตุช๊อตฟีล เพราะจารย์โป้กดเปียโนผิดคีย์ จนต้องเริ่มเพลงใหม่หมดเลย แหม่ กะจะหล่อสักหน่อย เอาน่านะ 4 เท้ารู้พลาด นักปราชญ์รู้พลั้ง เริ่มใหม่ได้ไม่ว่ากัน สุดท้ายเพลงก็จบลงด้วยดี วันนี้ปีโป้ ได้เปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับเพลง
ซึ่งที่มาที่ไปของเพลงนี้คือ ตอนนั้นปีโป้อายุ 14 ขวบ ที่เริ่มทำเพลง Indycamp ครั้งแรก ตอนนั้นลองแต่งเพลงรักออกมา โดยที่ยังเคยไม่รู้ว่าความรักคืออะไร แต่แค่“เคยได้ยิน” ว่าน่าจะเป็นอย่างนี้นะ ก็เลยออกมาเป็นเพลงแบบที่เราได้ยินกันนั่นแหละครับ
Song 6.3 คราวนี้เป็นที่ปีโป้เพลงแต่งเองเมื่อปี 2021 โดยลงในช่อง Youtube ตัวเอง อย่างเพลง “How would I be Ok” ซึ่งเธอได้แต่งขึ้นตอนอยู่ที่เบลเยี่ยม ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองทำไรก็ไม่ดีสักอย่าง นับเป็นช่วง Coming Age ของชีวิต ที่ทำให้จารย์โป้ของเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และระหว่างเพลงเธอก็ได้ฝากประโยคเด็ดไว้ว่า “อะไรที่ควบคุมไม่ได้ก็ ช่างแม่ง มันนะคะทุกคน” เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนไปได้ตามๆ กัน
ฟังเพลงนั้นได้ที่ “How would I be Ok” 👉
Song 6.4 ก่อนจากลาปีโป้ก็ได้ฝากผลงานใหม่ ในฐานะ Solo Artist คนแรก ซึ่งกำลังจะมี EP Album เตรียมปล่อยเร็วๆนี้ ด้วยบทเพลงใหม่ “Moonlight” ซึ่งใครได้รับชมรับฟังในที่นี้ นับว่าโชคดีสุดๆไปเลยครับ ทุกคนรอติดตามของ Mellfias ได้เลยนะครับ รับรองผลงานดีมีคุณภาพแน่นอนครับ
###
Artist 7: #NineIndyCamp
Song 7.1 วันนี้คุณนายลำไย “นาย-ภัทรนรินทร์” สลัดมาดสาวเทพีบ้านไพร มาเป็นคาวเกิร์ลสุดสวยสับ เล่นเอาหนุ่มๆ(รวมทั้งผู้เขียน) ถึงกับมองตาค้างด้วยความตกตะลึงในความสวยนี้ สาวนายก็ไม่รอช้า ประเดิมโชว์ด้วยเพลง “ทานตะวัน
นึงถึงเธอ” และครั้งนี้นับว่าแปลกใหม่มาก เพราะได้เรียบเรียงจากเพลงมีจังหวะสนุกสนาน มาเป็นเพลงช้าๆ แทน พลิกอารมณ์เพลงไปอีกโทนแบบแตกต่างจากเดิมมาก อีกทั้งยังเปลี่ยนท่อนท้ายเป็น “ให้ความเหงามันจางหายไป เป็นทุกคนจะได้มั้ย” ว้าววว กรี๊ดกันใหญ่เลยครับทีนี้
Song 7.2 ต่อกันด้วยเพลงรักอีกเพลง ชื่อเพลงว่า “ใกล้เธอ” ซึ่งเป็น Fansong ที่นายแต่งให้คนชอบบบที่สุด ซึ่งก็คือ “ปูเป้” อดีตไอดอลอีกท่าน ผู้เป็นแรงบันดาลใจของนาย ทำเอาทุกคนถึงกับทั้งกรี๊ดทั้งแซว และดีใจที่พิเป้ผู้ซึนเดเระคนนั้น เป็นคนสำคัญที่ทำให้นายฮึดสู้มาจนถึงทุกวันนี้ได้
ใครคิดถึงเพลงนี้ กลับไปฟังกันได้เลย 👉
Song 7.3 มาต่อกันด้วยเพลงเพราะๆ อย่าง “ลมจ๋า” เพลงจากซีรีส์วายชื่อดังอย่าง “เบญจเทวกุล” เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ไปได้ไม่น้อย ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้ว รู้สึกประทับใจในเพลงนี้มากๆ เพราะนายสามารถถ่ายทอดอารมณ์เพลงนี้ด้วยน้ำเสียงสุดทรงพลัง สะกดใจผู้ฟังได้อย่างหมดจด ขอชื่นชมเลยครับ ลมจ๋า พัดมาเพราะเหตุใด
Song 7.4 ส่งท้ายกันด้วยเพลง “ด้วยรักและจากกัน” แทนบทเพลงอำลา จากสาวจอมปีนเสาคนนี้ นายกล่าวขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วม ขอให้ความทรงจำนี้ เป็นความทรงจำที่ดีของทุกคน
###
Artist 8: #PandaIndyCamp
Song 8.1 ถึงคราวเซ็นเตอร์วอลนัทอย่าง “แพนด้า-จิดาภา” ออกโรงแล้ว คุณเธอเดินออกมาอย่างสวยเชิด ก่อนจะโชว์เพลง “บีดี้บั๊บ (บิ๊บบีดี้บั๊บบีดี้บู)” ที่ได้ Re-Arrange จากเพลงเร็วไปเป็นเพลงช้า ซึ่งก็ทำให้เพลงนี้ได้อารมณ์ไปอีกรูปแบบ ซึ่งก็โดนใจผู้ฟังไปไม่ใช่น้อยเลย ก่อนจะโชว์สกิลแอดลีปส์สุดเทพ เรียกคะแนนและเสียงกรี๊ดไปอย่างล้มหลาม บอกได้เลยว่าสาวด้าเสียงดีไม่มีแรงตก ไม่เคยมีสักครั้งที่จะโชว์พลังเสียงแล้วเสียงหายกลางคัน ยอมรับว่าเรื่องพลังเสียงของนางคือเริ่ดและยืนหนึ่งจริงแบบไม่ต้องสงสัยเลย
Song 8.2 มาต่อกันด้วยเพลงที่ 2อย่าง “เกินเธอ” โดยยังคุมแนวเป็นเพลงช้าเช่นเดิม จนแพนด้าต้องถามออกไมค์ว่า
“ข้างหลัง ยังมีชีวิตกันอยู่ใช่มั้ย?” ทำเอาผู้ชมแถวหลังถึงกับส่งเสียงกันเซ็งแซ่ ว่ายังไม่มีใครหลับปุ๋ย แต่กำลังเคลิบเคลิ้มที่ได้ฟังเพลงของแพนด้าอยู่
Song 8.3 เพลงต่อไปนี้ แพนด้ากล่าวว่า เป็นเพลงที่เมมเบอร์แต่งกันเอง แต่พอได้ยินชื่อแล้วก็อดขำไม่ได้ กับเพลง
“ยิ้มธุรกิจ” โดยแพนด้าราคาเป็นมิตรกล่าวว่า happy ทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันใหม่นะทุกคน
Song 8.4 เข้าสู่เพลงสุดท้ายแล้ว คราวนี้แพนด้าขอโชว์เพลง “บ้างรึเปล่า” เป็นการปิดท้ายไปอย่างสวยๆ สำหรับเจ้าแม่เสียงทรงพลังคนนี้
###
Artist 9: #StangIndyCamp
Song 9.1 เสียงทุ้มๆ นุ่มนวลทักทายผู้ชมออกมาจากข้างหลังเวที เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดกันสนั่นฮอลล์ ฟังเอาก็รู้เลยว่าใคร “สตางค์-ตริษา” คนดีคนเดิมนั่นเองคร้าบ คราวนี้สาวหมวยมาในชุดชมพูดูสดใส พร้อมประเดิมโชว์ด้วยเพลงที่เธออยากร้องให้ทุกคนฟังมาเนิ่นนาน “จะไปทะเล” ทิ้งทุกอย่างไว้ แล้วปล่อยใจให้คลายร้อน นั่งนอนอยู่ริมหาด ฟังเสียงคลื่นซัดสาด เคล้าเสียงทุ้มนุ่มหวานๆ จนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้นานๆ อยู่ในภวังค์แห่งฝัน
Song 9.2 นอกจากเปลี่ยนเพลงใหม่แล้ว คุณพระจันทร์ยังได้เปลี่ยนชุดใหม่ด้วย คราวนี้เป็นชุดสีเงินส่องประกายวิบวับ โชว์เพลงแรกจาก Indycamp ฤดูกาลที่ 1 อย่างเพลง “สถานะห่วง” สตางค์ได้โชว์สกิลแอดลีปส์ด้วยน้ำเสียงสุดทรงพลัง แถมด้วยลูกเล่นการร้องแบบแนวแจ๊ซบลู ฟังแล้วช่างรื่นหูน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผู้เขียนเห็นถึงการร้องเพลงของสตางค์ที่พลิกแพลงไปอีกรูปแบบ ซึ่งน่าตื่นเต้นและหาฟังได้ยากจริงๆ
Song 9.3 สตางค์เปลี่ยนเป็นชุดชมพูอีกแบบที่ดูสวยเช้งกระเด๊ะมากๆ และเพลงนี้เจ้าหมวยก็โชว์สกิลขั้นเทพ เล่นเครื่องดนตรีทีเดียว 3 ชิ้นไปเลย ได้แก่กีต้าร์, ซินธีไซเซอร์ และลูปเปอร์ บร๊ะเจ้า 3 อิน 1 สุดๆ รู้สึกเลยว่าน้องสาวเราคนนี้เก่งเหลือหลายมาก ความสามารถไร้ขีดจำกัดจริงๆ
สำหรับเพลงระดับท่าไม้ตายของสตางค์อย่าง “รักเทอที่สุดในจักรยาน (You-niverse)” ก็ได้ขับขานออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังต้องเล่นเครื่องดนตรีทั้ง 3 ชิ้นไปด้วย ราวกับว่านี่คือการแสดงครั้งสุดท้ายในชีวิต ปล่อยของจัดเต็มไม่มีกั๊กเลย โฮ่งมากครับ
Song 9.4 แต่ดูเหมือนว่าเซอร์ไพรซ์จากเธอจะยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อสต๊าฟ ได้แบกเครื่องดนตรีชิ้นที่ 4 ออกมา สร้างความฮือฮามากที่สุดในงานนี้ ซึ่งก็คือ “ฮาร์ป” นั่นเอง เสียงกรี๊ดเกรียวกราวดังสนั่นมาก เพราะสตางค์นับเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ IR และ 48TH ที่ได้บรรเลงฮาร์ปในการแสดงนี้
และยิ่งตอนที่สาวหมวยเริ่มบรรจงปลายนิ้วเรียวงามบนพิณใหญ่ บรรเลงเพลง “I’ll never forget you” ก็ยิ่งดูสวยสง่างาม ราวกับมีนางฟ้าตัวน้อยจากสววรค์ มาบรรเลงเพลงกล่อมโลก ทำเอาหัวใจของเราหยุดนิ่งเหมือนต้องมนตร์สะกดแห่งเสียงฮาร์ป ก่อนที่สตางค์จะร้องเพลงแห่งความทรงจำ แทนคำอำลาให้กับพวกเราทุกคน
อีกทั้งยังเดินลงมาจากเวที มาถ่ายรูปหมู่กับพวกเราทุกคนด้วย สตางค์กล่าวขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเป็นความทรงจำดีที่สุดในชีวิต และขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวเธอเสมอมา ก็ขอฝากทุกคนติดตามเส้นทางใหม่ของเธอต่อไปด้วย อยากบอกว่ารู้สึกประทับใจในตัวน้องสาวผู้แสนดีคนนี้มากๆ เลยครับ ที่ได้ครีเอทโชว์สุดพิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อตอบแทนความรักของพวกเราทุกคน
###
Artist 10: #WeeIndyCamp
Song 10.1 ถึงคิวสาวห้าวมาดซึน “วี-วีรยา” มาในชุดสีฟ้า พร้อมผมสีฟ้าโดดเด่นเป็นสง่า เรียกเสียงฮือฮาจากสาวๆ ไปได้ไม่น้อยเลย โดยสาวเท่ห์คนนี้กล่าวว่า ชอบแต่งเพลงแทนความรู้สึก ในแต่ละช่วงของชีวิต และในค่ำคืนนี้ เธอก็จะมาร้องเพลง แทนความรู้สึกต่างๆ โดยเพลงแรกเริ่มจากความรู้สึก “ชอบ” โดยเธอได้เลือกเพลง “คงต้องบอกให้รู้” เรียกเสียงกรี๊ดดังลั่นตั้งแต่เพลงยังไม่เริ่มบรรเลงเลยทีเดียว
Song 10.2 “ตกหลุมรัก” คราวนี้วีก็ได้เล่นเปียโน เป็นภาพที่หายากน่าดูพอตัวเลย กับเพลง “Sunkissed” ซึ่งวีก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี พาทุกคนเคลิ้มไปกับบทเพลงได้ไม่ยากเย็น
Song 10.3 ต่อด้วยรู้สึก “รัก” มาถึงจุดนี้ สาววีก็อยากชวนทุกคนไปชมดาวด้วยกันกับเพลง “Beg the stars (อยากขอดาว)” คราวนี้เล่นกีต้าร์ด้วย โชว์สกิลพร้อมเสียงห้าวปนหวาน โดยมีทุกคนช่วยทำทะเลดาว กลายเป็นภาพที่สวยงาม เหมาะกับบรรยากาศการชมดาวในค่ำคืนนี้เสียทีเดียวจังนะครับ
Song 10.4 “ผูกพัน” เพลงสุดท้าย สาวแกร่งได้เลือกเพลง “แด่คุณ” ซึ่งนอกจากจะเป็นเหมือนเพลงอำลาแล้ว ยังสื่อถึงว่า เธอจะเป็นสายน้ำที่หวังดีของทุกคนเสมอ อยากบอกวีเหมือนกันว่า เราทุกคนก็เป็นลำธารที่อบอุ่นร่มเย็นของเธอเช่นกันนะ ก่อนจากกัน วี กล่าวประโยคทิ้งท้าย “ขอบคุณที่รักกัน” สั้นๆ แต่ได้ใจความ ขอบคุณเหมือนกันนะ
###
Artist 11: #MyyuIndyCamp
Song 11.1 ถึงเวลาของศิลปินท่านสุดท้ายแล้ว “มายยู-กวิสรา” เจ้าหญิงแห่งเพลงเศร้า ผู้เป็นเลิศในแทบทุกด้าน ร้อง เต้น เล่น MC ยืนหนึ่งตึงเปรี๊ยะ มาในชุดสีน้ำตาลพร้อมแว่นตาและหมวก ดูเก๋ไก๋และมีเสน่ห์ มายยูเปิดฟลอร์ด้วยเพลงแรกในชีวิตของเธอ ด้วยเพลง “ประโยคบอกลา (.JPG)” เพลงแห่งความเศร้าที่โชว์ทั้งพลังเสียง และอารมณ์แห่งความเจ็บปวด สาวเจี๊ยบได้สะกดทุกคนไว้อย่างอยู่หมัด ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกแต่เฉียบขาด แม้แต่ผู้เขียนยังอดทึ่งในพลังเสียงของมายยูไม่ได้เลย
Song 11.2 ต่อมามายยูก็ได้โชว์สกิลที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ด้วยการเอาเพลงที่ชอบมาทำฟิวชั่นเป็นเมดเล่ย์ โดยเริ่มจาก“It’s Hurt X forget forgot forgotten” ซึ่งก็นับว่าแปลกหูจริงๆ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า จะมีการนำเพลง 2 เพลงมา Crossover กัน จนออกมาลงตัวราวกับว่าเป็นเพลงๆ เดียวกันได้ขนาดนี้
Song 11.3 เพลงฟิวชั่นยังไม่หมดแค่นี้ “See u next time X Wanna” ก็เรียกคะแนนไปได้อีกเช่นเคย ยอมรับว่าสกิลการจับเพลงมารวมกันของสาวเจี๊ยบคือไม่ธรรมดาเลย
Song 11.4 ก่อนเข้าเพลงสุดท้าย มายยูกล่าวว่าได้ค้นพบงานอดิเรก นั่นคือการแต่งเพลงให้แฟนคลับ และเพลงที่เธอเลิกใช้ปิดฟลอร์คือเพลง “Me and you X Melatonin” เพลงนี้ทุกคนก็ได้ทำทะเลดาวให้มายยูอีกด้วย เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ ก่อนจะกล่าวขอบคุณทุกคน ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเวลาอยู่บนเวที แฟนคลับทุกคนนี่แหละ เป็นกำลังใจสำคัญ ที่ทำให้เธอผ่านเรื่องราวร้ายๆ ในชีวิตมาได้ รักทุกคนมากเลยจริงๆ
###
Song 12: “Stair”
ในที่สุดค่ำคืนอันแสนยาวนานก็ได้มาสู่ช่วงเวลาสุดท้าย เหล่าศิลปินสาวทั้ง 11 ได้ออกมารวมตัวกันพร้อมหน้า ก่อนจะตระเตรียมเครื่องดนตรี เพื่อร้องและบรรเลงเพลงประจำโปรเจคต์ที่ทุกคนรอคอยอย่าง“บันได” เวอร์ชั่นพิเศษ โดย มายยู, มามิ้งค์, นีนี่, วี, ข้าวฟ่าง, แพนด้า รับหน้าที่ร้องนำและเสียงประสาน/ สตางค์, นาย เล่นกีต้าร์/ ซัทจัง เล่นอูคูเลเล่/ ฟอร์จูน, ปีโป้ Mellfias เล่นเปียโน เป็นภาพวงใหญ่ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
ยิ่งเมื่อพวกเธอทุกคนเริ่มบรรเลงและร้องเพลง ก็เรียกเสียงปรบมือดังเซ็งแซ่ไปทั่ว และช่วงสุดท้ายของเพลง พวกเธอทุกคนก็ได้ลงมาทักทายกันแฟนคลับทุกคน โดยผู้เขียนเองก็ได้ทักทายใกล้ชิดหลายๆคนเลย เป็นภาพที่น่ารัก อบอุ่นและประทับใจมากๆ
หลังจากถ่ายรูปรวมเสร็จแล้ว เมื่อทุกคนเรียงแถวเดินออกจากฮอลล์ ก็จะได้พบสาวๆ ทั้ง 11 อีกครั้ง โดยเป็นการสุ่มเมมเพื่อรับของที่ระลึกซึ่งได้แก่โปสการ์ดพิเศษนั่นเอง โดยผู้เขียนได้รับจากมือเจ้าตัวน้อยซัทจัง น่ารักมากๆ อีกทั้งยังได้ร่ำลาสตางค์กับมามิ้งค์อีกด้วย
พร้อมกับรีบเดินออกเพราะสต๊าฟขอให้เร่งฝีเท้า ก็ยังพอได้โบกมือบ๊ายบายน้องๆ จนครบทุกคน ก็จบกันไปกับค่ำคืนแห่งความสุข แม้ว่าบรรยากาศแคมปิ้งจะจบลง แต่ความประทับใจ ความสุนทรียะแห่งเสียงดนตรี จะยังคงดังก้องในหัวใจอยู่เสมอ จะไม่มีวันลืมความรู้สึกดีๆ เช่นนี้เลยละครับ
เดินทางมาถึงกันแล้ว
กับบันไดขั้นสุดท้าย
แต่ยังไม่ใช่ท้ายที่สุด
เพราะนี่คือหมุดหมายสำคัญ
แห่งเส้นทางใหม่ๆ ของพวกเธอนับจากนี้ไป
การสิ้นสุดของอะไรบางอย่าง
คือสัญญาณแห่งการเริ่มต้นใหม่เสมอ
เพราะลึกๆ ก็ยังหวังใจว่า
ไม่ว่าพวกเธอจะเลือกเดินไปถนนเส้นไหน
จะมีอุปสรรคขวากหนามอีกมากเท่าไหร่
แต่หัวใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญ ไม่ย่อท้อ
จะทำให้พวกเธอสามารถฝ่าฟัน
ไปจนถึงจุดหมายปลายทางที่มุ่งหวังได้
ดังที่บทเพลง “บันได”
ยังคอยย้ำเตือนอยู่เสมอๆ ว่า
.
.
.
“แสงยังส่อง
ส่องให้เราได้ก้าวขึ้นไป
กับอีกขึ้นที่สูงยิ่งกว่า
บอกตัวเองจะต้องได้มันมาดังใจ
เดินต่อไป (เดินต่อไป)
ปีนต่อไป (ปีนต่อไป)
ก้าวขึ้นไป (ก้าวขึ้นไป)
บันไดจะสูงแค่ไหน
เดินต่อไป (เดินต่อไป)
ปีนต่อไป (ปีนต่อไป)
ก้าวขึ้นไป (ก้าวขึ้นไป)
เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รอฉัน,,,”
ขอบคุณ Independent Records ที่จัดงานส่งท้ายโปรเจกต์นี้อย่างอบอุ่น
ขอบคุณ ศิลปินจากค่ายอื่นที่ให้หยิบยืมบทเพลงมาบรรเลง
ขอบคุณ วงดนตรี ม.ศิลปากร ที่บรรเลงได้ไพเราะไม่มีที่ติ
และสุดท้าย ขอบคุณศิลปินสาวทั้ง 11 ที่ได้ขับกล่อมทุกคน
ด้วยเสียงเพลงแสนไพเราะน่าประทับใจ
ขอบคุณที่มาเป็นความทรงจำดีๆให้กันเสมอนะ
รักพวกเธอทุกคนเลย
จะคอยติดตามเอาใจช่วย
และคอยเป็นบันไดให้พวกเธอ
ก้าวเดินไปอย่างมั่นคงและสง่างาม
จากนี้ ตลอดไปตราบนานเท่านาน,,,
ขอบคุณภาพจาก: DNext - Dailynews Next
โฆษณา