21 เม.ย. เวลา 22:32 • ปรัชญา

พึ่งรู้ว่านี่คือความสัมพันธ์Toxic

"เขาก็ยังมีข้อดีอยู่ ถึงแม้เขาจะไม่ดีในเรื่องนั้นก็ตาม"
ใครมีความคิดนี้กับความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท แฟน เพื่อนร่วมงาน
100% คุณมั่นใจได้เลยว่า คุณอยู่ในความสัมพันธ์ Toxic โดยไม่รู้ตัว
เวลาเราเห็นความสัมพันธ์ที่แย่ของคนอื่น
เรามักสงสัยว่าทำไมพวกเขาไม่เลิกกัน
แค่เลิกกันก็จบแล้ว เราเห็นมันอย่างง่ายดาย
แต่พอเป็นเรื่องตัวเอง เรากลับมองไม่เห็นเหมือนกันนะ
และบางครั้งไม่รู้ว่าตัวเองมีด้วย
เราก็กลับบ้านมา สงสัยในตัวเองว่าทำไมมีความรู้สึกขุ่นเคืองในใจ จากสิ่งใดก็ไม่รู้
และ 100% คนที่มีความสัมพันธ์แย่ๆกับ 1 คน จะมีความสัมพันธ์แย่ๆกับคนอื่นด้วย เป็นความรู้สึกเดียวกัน แต่เปลี่ยนรูปลักษณ์แค่นั้นเอง
เช่น เพื่อนคนนี้ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง ลดทอนความเป็นคนในตัวเรา พอกลับบ้านมา เราก็เจอกับคนในครอบครัวที่ทำกับเราแบบเดียวกัน
หรือที่เราได้ยินบ่อยๆ ที่บางคน เปลี่ยนแฟนกี่ครั้ง ก็เจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้ นิสัยเหมือนกันหมด แค่เปลี่ยนรูปลักษณ์เท่านั้นเอง
และเราจะเปลี่ยนมันยังไง
กฎแรงดึงดูดสอนให้คุณเห็นข้อดีในตัวผู้อื่น
ครูสอนกฎแรงดึงดูดอาจจะบอกให้คุณเขียนขอบคุณเขา เขียนข้อดีของเขา เพื่อเห็นคุณค่าในตัวพวกเขา เพื่อขยายพลังดีๆในตัวคุณให้ขยายออกยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดสิ่งดีๆต่างๆเข้ามา และที่สำคัญให้ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาดีขึ้นด้วย
ซึ่งไม่ผิดกับบางความสัมพันธ์ แต่ไม่ใช่ทุกความสัมพันธ์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ Toxic ด้วยแล้ว ความรู้แค่เรื่องการเห็นคุณค่าในตัวผู้อื่นไม่พอ เพราะความสัมพันธ์นี้ คุณเห็นคุณค่าในตัวอีกฝ่ายอยู่แล้ว (แม้คุณจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในตัวเขาก็ตาม) และมันก็รั้งคุณกับเขาไว้อย่างเหนียวแน่น
การเห็นคุณค่าในตัวผู้อื่น จะสร้างสภาวะดีๆได้ไม่เต็ม 100% และในความสัมพันธ์ Toxic ไม่ถึง 50% ด้วยซ้ำ มันถึงทำให้คุณไม่สามารถดึงดูดความสัมพันธ์ที่ปรารถนาได้สักที
ทางที่จะเปลี่ยนได้ คุณต้องทำความเข้าใจใหม่
1.คุณต้องมองเห็นสิ่งที่มันเป็นจริงๆ
คน 1 คน ทำให้คุณขุ่นเคือง และ ทำให้รู้สึกดีไปพร้อมๆกัน คุณยิ่งจำเป็นต้องถอยออกมา เพราะคุณกำลังหลอกตัวเองว่าเราแค่ต้องปรับตัวให้เข้ากัน คุณยังไม่เข้าใจชีวิตเลย คุณยังสับสนในตัวเองอยู่เลย ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณทั้งสองจะเข้าใจกันได้ 100% งานหนักคูณสองเลยนะ ฉันไม่ได้บอกให้คุณเข้าถ้ำอยู่คนเดียวแล้วไม่ต้องพูดกับใคร แต่ฉันกำลังอธิบายความสัมพันธ์ที่มันเป็นจริงๆ เพื่อคุณจะได้จัดการง่ายขึ้น เหมือนตอนที่คุณเห็นความสัมพันธ์คนอื่นที่ไม่ดี ว่าทำไมพวกเขาไม่เลิกกันสักที
2.คุณรั้งเขาไว้เอง
กฎแรงดึงดูดสอนให้เห็นคุณค่าในตัวผู้อื่น ไม่ได้สอนให้คุณ ยึดติดกับเขา ไม่ได้สอนให้คุณต้องอยู่กับเขา ไม่ได้สอนให้คุณ ใช้โอกาสนี้เพื่อดึงเขากลับมาเป็นของคุณ (แม้บางครั้งจะใช้ได้ก็ตาม แต่มักเป็นงานหนักมาก เพราะไม่ใช่แค่คุณ แต่ต้องเป็นเขาที่ปรับตัวด้วย) แต่สอนให้คุณเห็นคุณค่าของเขา เพื่อคุณจะได้ในอยู่สภาวะความรู้สึกดีเพื่อตัวคุณเอง ไม่ใช่เพื่อใคร
เวลาคุณมีปัญหากับใครแปลว่าคลื่นความถี่อยู่คนละคลื่น คุณทั้งคู่เลยปลดอามณ์อึดอั้น ไม่อิสระออกมา และรัดมันไว้ด้วยหน้าที่หรือทัศนคติบางอย่างว่าต้องอยู่ด้วยกัน แล้วทนทุกข์ไปด้วยกัน
ยิ่งคุณมีปัญหากับเขา หมายถึง คุณกับเขายิ่งอยู่กันคนละคลื่นความถี่ ไม่ใช่ว่าเขาหรือคุณ ใครดีหรือไม่ดี(แม้ว่าจะไม่ดีจริงๆก็ตาม) บางครั้งคุณคิดว่าตัวเองดีแล้ว แต่ทำไมคุณก็ยังมีปัญหากับเขา คุณพยายามหนักเพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน ทั้งๆที่มันคนละคลื่นความถี่ไปแล้ว แล้วคุณจะถูกทุบ ทุบ ทุบด้วยสถานการณ์ต่างๆ จนกว่าคุณจะเปลี่ยนทัศนคติว่าต้องอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าเขาจะเป็นพ่อแม่ สามีภรรยาหรือใครก็ตาม
กฎแรงดึงดูดไม่ได้สอนให้เขาต้องอยู่กับคุณ แต่สอนให้คุณปลดปล่อยเขา ไม่ว่าคุณจะอยากหรือไม่อยากให้เขาอยู่ก็ตาม
ในความสัมพันธ์ที่มีความสุขแล้ว
คุณจะดึงดูดเข้าหากันด้วยความสนุกเพลิดเพลิน
นั่นเพราะคุณกับเขาอยู่ในสภาวะที่ตรงกันแล้ว
คุณทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันไม่ใช่เพราะหน้าที่
แต่เพราะคุณรู้สึกอิสระที่คุณทั้งคู่ได้เป็นตัวเอง
โดยที่คุณไม่ต้องลดทอนความเป็นตัวเองลง
หรือต้องพยายามเป็นใคร และที่สำคัญคุณได้โชว์แต่ด้านดีๆของตัวเองออกมาอย่างอัตโนมัติ อย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่คุณไม่รู้สึกฝืนทำเลยแม้แต่น้อย
และความสัมพันธ์นี้ จะทำให้คุณรักกันอย่างแท้จริง คุณจะรู้สึกเป็นอิสระแม้อยู่ด้วยกัน ทั้งๆที่ปกติคุณจะรู้สึกอิสระมากสุดเมื่ออยู่คนเดียว คุณไม่ต้องระแวงมือที่สามหรือปัญหาใดๆเลย แม้แต่น้อย ก็เพราะคุณรักกันจากหัวใจจริงๆ
ต่อให้มีปัญหาชีวิตเรื่องใดเกิดขึ้น คุณทั้งคู่ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะคุณดึงดูดกันด้วยความสุข ไม่ใช่ความคาดหวัง
จากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้รู้ว่า
เราเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
ทุกสิ่งที่เราเห็นเกิดจากการสร้างในอดีตของเรา
จงมีสติ อย่าพึ่งไปอินกับสถานการณ์ข้างหน้า
ขอบคุณขณะนี้ วิ นา ที นี้ที่ยังสงบสุขอยู่
จงสร้างสภาวะขึ้นมา สภาวะความสัมพันธ์ที่ปรารถนาและรู้สึกว่าเราอยู่ในสภาวะที่ปรารถนาแล้ว ตากฎแรงดึงดูด ผ่านความคิด ความเชื่อ ความรู้สึก
และย้ำอีกครั้ง ไม่ต้องคิดว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ฉันไม่ได้พูดถึงแค่แฟน คนรัก พ่อแม่ พี่น้อง แต่ฉันกำลังพูดถึงทุกความสัมพันธ์
ให้คุณรู้สึกแวดล้อมไปด้วย คนที่ทำให้คุณรู้สึกดี และไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้จักด้วย
ตอนจินตนาการไม่ต้องเห็นหน้าตาพวกเขาก็ได้ แค่รู้สึกว่าเราแวดล้อมไปด้วยคนที่ทำให้เรารู้สึกดี แค่นี้ก็พอแล้ว
สุดท้าย เราไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตของคนอื่นได้จริงๆหรอก เรามีหน้าที่แค่รับผิดชอบชีวิตตัวเองเท่านั้น
โฆษณา