22 เม.ย. เวลา 10:36 • ข่าวรอบโลก

อนาคตโลก ตัดสินกันที่สปอนเซอร์หลัก…

ในที่สุด …
สหรัฐก็อนุมัติแพ็คเกจช่วยเหลือพันธมิตร
ออกมาแล้ว9.5 หมื่นล้านเหรียญ
โดยมีชาติที่จะได้รับหลักสามชาติ คือ ยูเครน อิสราเอล
และไต้หวัน
โดยเทงบหนักไปทางยูเครนที่ราวๆ หกหมื่นล้านเหรียญ
หลังยื้อกันมานาน เพราะฝ่ายรีพับลิกัน”ส่วนหนึ่ง”
ซึ่งพยายามจะช่วยแคมเปญของทรัมป์ในกรณียูเครนนั้น
เล่นเกมส์ดึงเอาไว้ โดยเฉพาะประธานสภา
แต่สุดท้าย ก็ไม่อาจต้านทานพลังของสายเหยี่ยว
ในพรรครีพับลิกันเองได้ เงินช่วยเหลือก้อนนี้
จึงถูกอนุมัติผ่านสภาออกมาจนได้
…ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า แม้อนาคตทรัมป์จะชนะ
เลือกตั้ง แต่การทิ้งยูเครนนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะพลังของ
สายเหยี่ยวในการเมืองอเมริกันนั้น แข็งแกร่งมากนั่นเอง…
…โดยทางอเมริกาออกมาบอกว่า ความช่วยเหลือด้านอาวุธ
จะถูกส่งให้ยูเครนในอีกไม่กี่วันจากนี้…
…เชื่อกันว่าด้วยเงินจำนวนนี้ บวกกับที่ทางยุโรปให้มาก่อนหน้า
มันน่าจะทำให้ยูเครนยื้อสงครามออกไปได้จนถึงช่วงสิ้นปีของ
ปี 2025 เป็นอย่างน้อย แล้วค่อยมาว่ากันต่อ…
สิ่งนี้กำลังตอกย้ำให้เราเห็นถึงการ ”บูรณาการสงคราม”
ภาพรวมในสถานการณ์โลกของสหรัฐ
ในที่นี้หมายถึงว่า สหรัฐนั้นรู้ดี ว่าการชนะในสงครามใด
สงครามหนึ่ง จะไม่ดีพอ ที่จะควบคุมสถานการณ์โลกเอาไว้
ในมือได้
ง่ายๆ ถ้าจะให้ยูเครนสบายขึ้น คุณต้องเก็บอิหร่านให้ได้ด้วย
เพื่อตัดกำลังบำรุงต่างๆ
และอีกฝ่ายก็คิดในทำนองเดียวกัน จึงเป็นสปนเซอร์หลัก
ให้ทั้งรัสเซียและอิหร่าน รวมถึงผู้ต่อต้านอื่นๆ ทำสงคราม
เพื่อทอนกำลังของสหรัฐ
…ความจริงแล้ว เกมส์นี้ มันคือการส่งคนไปตายแทน
ของคู่ขัดแย้งตัวจริงในโลก ก็คือ สหรัฐ และ จีน ….
…และผลของสงคราม รวมถึงสถานการณ์โดยรวมของโลก
จะไปจบที่ตรงไหน มันก็ขึ้นอยู่กับพลังเงินของทั้งสองชาติ
นี้นั่นเอง ว่าใครจะยืนระยะได้นานกว่ากัน ….
การเติบโตของจีนในช่วงยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา
ถ้ามองโลกในแง่ดี มันคือการทำให้โลกมีทางเลือก
จากการถูกผูกขาดอำนาจโดยสหรัฐ
มันควรจะเป็นแบบนั้นนะ
แต่ในความเป็นจริง การที่จีนนั้นไม่แคร์อะไรนัก
กับการปฏิบัติต่อผู้คนของประเทศที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตร
ของเขา มันทำให้ประเทศที่ปฏิบัติแย่ๆกับประชาชน
นั้น มีที่พิงหลังได้
และประเทศเหล่านี้ มักอยู่ในมือเหล่าอำนาจนิยม
หรือผู้นำเผด็จการ ซึ่งมีแนวโน้มขยายอำนาจ
หรือเล่นกับลัทธิชาตินิยมหรือเผ่านิยมอยู่ก่อนแล้ว
ซึ่งพวกนี้พอมีจีนเป็นที่พึ่ง ก็กล้าสร้างปัญหาให้โลก
และประชาชนของพวกเขาเองมากขึ้น เพราะรู้ว่าจีนไม่แคร์
พอสร้างปัญหาให้คนของตัวเอง ก็โดนโลกตะวันตกแบน
พอโดนแบนก็แค้น และสร้างปัญหาลามออกมานอกประเทศ
แล้วพอไม่มีที่ไป ก็ไปพึ่งจีน ขอกู้เงินจีน
ซึ่งจีนก็บ้าจี้ให้อีก โดยไม่สนว่าถูกหรือผิด มันก็เลยมีปัญหา
กรุณาอย่าเถียง และหาว่าผมโปรอเมริกาให้จีนเป็นตัวร้าย
1
ความจริงที่ชัดเจนมันก็คือเมียมาร์ซึ่งอยู่ข้างบ้านเรานี่เอง
ถ้าไม่มีจีนรับรองรัฐบาลทหารพม่าแต่แรก
เมียนมาร์มันคงไม่เละเทะอย่างทุกวันนี้หรอก
1
…หรือไม่จริง ???….
ปัจจุบันนั้น รัสเซียและอิหร่าน จะไม่มีทางกล้าทำแบบที่เห็นเลย
ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากจีน
จีนเองนั้นเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วว่า
พวกเขาจะไม่มีทางได้สิ่งที่ต้องการ หากไม่ทำสงคราม
หรือสนับสนุนสงคราม เพื่อทอนขีดความสามารถของสหรัฐ
หลายปีก่อน จีนมีอัตราการเติบโตทุกด้านที่น่าทึ่งมาก
คือเกิน 10% มาตลอด จนได้รับการคาดหมายว่าจะแซงสหรัฐ
ได้ในอีกไม่นาน
แต่เอาเข้าจริง เมื่อเวลาผ่านไป จีนเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว
เช่นเดียวกับที่ประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายเคยเจอมาก่อน ปัจจุบันนั่นจีนสามารถคาดหวังกับการเจริญเติบโตของตัวเอง
ได้มากที่สุดแค่ 5% แบบหืดจับ
และมีแนวโน้มลดลงตลอดเวลาอีกด้วย
นอกจากนี้ จีนยังเจอปัญหา “โป๊ะแตก” เมื่อเศรษฐกิจภายใน
ที่ตัวเองปั่นไว้ เกิดสภาวะฟองสบู่ จนเกิดการชะงักตัวที่รุนแรง
จากที่เคยคาดกันว่า จีนจะแซงสหรัฐได้
แต่ปัจจุบันมันตรงข้าม เมื่อสหรัฐครองสัดส่วน GDP โลก
ได้มากขึ้น ในขณะที่จีนลดลงอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายาม
จุดพลุกลุ่มซีกโลกใต้ หรือ BRICS ขึ้นมาก็ตาม
…ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ความฝันของสี่จิ้นผิง
ที่จะพาจีนเป็นเบอร์หนึ่ง ก็คงจะไม่มีทางสำเร็จแน่
ในช่วงอายุของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งวิธีลัด…
…นั่นก็คือสงคราม….
…ไม่ทำเอง ก็ต้องสนับสนุนคนที่จะทำ….
เราสามารถพูดได้เลยว่า ที่จีนเปลี่ยนจากการเป็นพ่อค้า
มาเป็นนักส่งออกสงครามนั้น ไม่ใช่เพราะความพร้อม
ในทุกด้านมีพอแล้ว
การมีเรือบรรทุกเครื่องบินเพียงสามลำ
จีนทำได้แค่ป้องกันตัวเองจากสหรัฐ
ไม่ใช่ว่าพวกเขามีความสามารถพอที่จะโค่นสหรัฐได้
ด้วยวิธีทางการทหาร**
แต่มันเป็นเพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นในการบรรลุ
ให้ถึงเป้าหมายอีกแล้ว ถ้าจะค้าขายตลอดไป ก็คงมีแต่โดนทิ้งห่าง เพราะสินค้าจำพวกนวัตกรรม ราคาสูงนั้นสหรัฐถีบตัวเอง
หนีได้ตลอด เข่นกับกรณี AI ปัจจุบัน ยิ่งมาก็ยิ่งห่างชั้น
ยิ่งสหรัฐใช้ความได้เปรียบ จากความเป็นเจ้าของนวัตกรรม
เข้ามาเล่นงานจีนด้วยลิขสิทธิ์สารพัดอีก
ทุกอย่างมันจึงแย่ลง สำหรับยุทธศาสตร์ใช้การค้านำของจีน
พวกเขารู้ว่าการค้าขายอย่างเดียวแล้วจะแซงสหรัฐเป็นไปไม่ได้
แต่การลากสหรัฐให้ตกต่ำลงมาเสมอกันนั้น
มีความเป็นไปได้ และง่ายมากกว่าเยอะ
…มันจึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จีนจะต้องสนับสนุน
ใครก็ตาม ที่มีศักยภาพพอที่จะทอนกำลังของสหรัฐ
…ซึ่งจีนก็ได้แนวร่วมจริงๆ คือสองชาติค้าน้ำมันที่อยากใหญ่
และต้องเร่งสร้างพาวเวอร์ก่อนจะหมดยุคน้ำมัน นั่นก็คือสอง
ชาติหลักๆที่เราเห็น คือ รัสเซียกับอิหร่านนั่นเอง ….
การสนับสนุนของจีนนั้น ไม่ใช่ทำกันเห็นๆแบบสหรัฐ
ต่อพันธมิตร พวกเขาใช้วิธีแยบยลกว่านั้น
จนดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้สนับสนุนสงคราม
วิธีที่จีนใช้ คือ การให้กู้ ผ่านคำว่าซื้อล่วงหน้า
เราจะเห็นได้ชัดมากที่สุดกับกรณีของรัสเซีย
ที่จะต้องขายน้ำมันราคาถูกมากๆ ให้จีนไปอีกอย่างน้อย
10 ปี ตามสัญญาที่ให้กันไว้
การซื้อของจีนที่ได้ส่วนลด 70% ของราคานั้น
นัยนึงก็คือ 70% ของราคานั้น คือดอกเบี้ยที่ตกลงกันไว้
2
และยิ่งรัสเซียรบมาก ใช้เงินมากขึ้นเท่าไหร่
สัญญาเหล่านี้ก็จะถูกขยายออกไปไม่มีที่สิ้นสุด
และไม่มีทางใช้หมด เพราะยิ่งมีสงคราม ราคาพลังงาน
ก็จะยิ่งสูง นั่นทำให้ส่วนลด 70% ของรัสเซีย ซึ่งมีสถานะเหมือน
ดอกเบี้ย มีมูลค่ามากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
1
ปัจจุบันนั้น เท่ากับว่ารัสเซียจะต้องจ่ายหนี้จีนเป็นน้ำมัน
ไปอีกนานแสนนาน แถมเงินรูเบิลก็ถูกจีนบีบจนหน้าเขียว
จนรัสเซียต้องมาใช้เงินหยวนแทน ในการทำธุรกรรมต่าง
ประเทศส่วนมากของพวกเขา
นี่คือราคาที่รัสเซียต้องจ่ายออกไปในการทำสงคราม
เพียงแต่ว่าจีนนั้นจ่ายง่ายกว่าสหรัฐที่ต้องผ่านสภา
รัสเซียก็เลยไม่มีข่าวว่าขาดแคลนเงิน และเศรษฐกิจยังโต
ต่อไปได้ ด้วยอัตราที่มากกว่า 3% สูงกว่าชาติตะวันตก
มันก็เพราเม็ดเงินเหล่านี้นี่เอง***
เราอาจกล่าวได้เลยว่า รัสเซียก็ไม่ต่างจากยูเครนนัก
ที่หากวันใดเจ้าของสงครามตัวจริงทิ้ง พวกเขาก็คงมีแต่
ความเสียหายย่อยยับ
หรือต่อให้รัสเซียได้ผลที่ดีจากสงคราม สิ่งที่พวกเขาต้องจ่าย
ออกไปให้กับจีนนั้น มันก็มากเกินจะรับได้เช่นกัน
ตามหลักการทำสงครามแล้ว ฝ่ายรุกนั้นจะค่อนข้าง
มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าฝ่ายรับประมาณ 5-10 เท่า
ดังนั้นถ้าว่าวันนี้ยูเครนได้เงินมาจากสหรัฐหกหมื่นล้านเหรียญ
รัสเซียต้องใช้อย่างน้อยที่สุดสามแสนล้านเหรียญ เพื่อทะลวง
เข้าไป
แน่นอน ถึงรัสเซียจะผลิตอาวุธได้ถูกกว่ามูลค่าของที่ทำในสหรัฐมาก แต่นั่นก็ยังเป็นเงินจำนวนมหาศาลอยู่ดี
ซึ่งเป็นไปแทบไม่ได้ ที่รัสเซียจะจ่ายด้วยตัวเองทั้งหมด
เพราะรัสเซียมีขนาดเศรษฐกิจที่เล็กเกินกว่าจะทำแบบนั้น
และสงครามก็ทอดเวลามาแล้วถึงสองปีกว่า
มันจึงต้องพึ่งจีนอีกมาก หากรัสเซียจะชนะสงครามได้
เมื่อต่างฝ่ายต่างพึ่งคนอื่นแบบนี้
ก็แน่นอนแหละ ว่ามันต้องวัดกำลังของคนจ่าย
มากกว่าฝีมือการรบในสมรภูมิจริงๆเสียอีก
สหรัฐส่งให้พวก จีนก็ส่งให้พวก
ใครส่งได้มากกว่า อึดกว่า ก็จะได้ครองโลกในท้ายที่สุด
ไอ้ชาติที่รบก็รบกันไปสิ กู้เขาเข้าไปสิ…
…ตายฟรีกันไป แต่มันไม่มีใครได้อะไรหรอก…
…ใครแพ้ใครชนะ สุดท้ายสปอนเซอร์เก็บกินหมดอยู่ดีแหละ….
1
ขยายความ
** เรือบรรทุกเครื่องบินน้อย คือการบอกได้ว่าจีนมีกำลังรบโพ้นทะเลได้น้อยไปด้วย หากจีนทำสงครามกับสหรัฐจริงๆ มันจำเป็นมาก ที่จะต้องกระจายกำลังออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่สหรัฐมีอิทธิพลอยู่ เข่น ฐานทัพเรือต่างๆ เรือบรรทุกเครื่องบิน
ที่น้อยนั้นไม่สามารถทำได้ และไม่มีอาวุธประเภทอื่นทดแทนได้ ดังนั้นจีนจึงยังไม่มีขีดความสามารถพอ ที่จะทำสงครามแบบหวังผลชนะ หรือยึดที่มั่นของสหรัฐได้
*** IMF คาดการณ์ว่ารัสเซียจะเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้มากกว่า 3% โดยส่วนสำคัญที่เป็นแบบนั้น คือการไหลเข้าของทุนจีน และค่าใช้จ่ายทางการทหารของรัฐที่สูงมาก
ไม่ใช่การเจริญเติบโตจากการค้า หรือการลงทุนทั้งภายในและนอก ของรัสเซียเอง
โฆษณา