มีเหตุผลไม่มากนักที่ชาวตะวันตกจะมองโลกในแง่ดี
เนื่องจากความก้าวหน้าล่าสุดของรัสเซียในสมรภูมิยูเครน ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ได้ละทิ้งความแตกต่างระหว่างพรรคพวกและช่วยเหลือยูเครนอย่างจริงจัง
สหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกยังได้บรรลุฉันทามติว่า พวกเขาจะต้องตัดการสนับสนุนทางวัตถุของมอสโกจากจีน
เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเร็วที่สุด
ดังนั้น ช่องทาง ทางการทูตของจีนจึงลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว และทีละขั้นตอนก็ต้องเผชิญกับทางเลือกเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมหามิตรของชาติตะวันตก
การเยือนจีนของบลิงเกนในวันที่ 23 เมษายนควรเป็นช่วงเวลาสำคัญในการกำหนดความสัมพันธ์จีน-สเปน
แต่ ในอนาคต ปักกิ่งอาจทำการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีบางอย่างเพื่อตอบโต้ แต่จากมุกเก่าๆในเชิงกลยุทธ์แล้ว มีเหตุผลไม่มากนักที่ชาวตะวันตกจะมองโลกในแง่ดี
จะเห็นได้ว่าการแสดงความร่วมมือข้ามพรรค มักจะเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก
สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมาย 4 ฉบับพร้อมกันเมื่อวันที่ 20 เมษายน
สิ่งสำคัญที่สุด คือ การอนุมัติแผนความช่วยเหลือทางทหารสำหรับยูเครนที่ล่าช้ามายาวนาน และการเพิ่มการสนับสนุนด้านกลาโหมสำหรับไต้หวันและอิสราเอล
การดำเนินการจากวอชิงตันจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าการผ่านร่างกฎหมายช่วยเหลือทางทหารไปยังยูเครนที่สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ ได้จัดทำฉันทามติเชิงกลยุทธ์เพื่อให้แน่ใจว่ารัสเซียจะไม่ชนะในยูเครน
และอาจใช้สิ่งนี้เพื่อบังคับพี่จีน เพื่อให้แสดงจุดยืนและชี้แจงจุดยืนระหว่างตะวันตกและรัสเซีย
เมื่อพิจารณาจากผลงานของปักกิ่งจนถึงขณะนี้ สังคมตะวันตกอาจผิดหวังอย่างมาก และ .....
สงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของภูมิรัฐศาสตร์โลกในอนาคตในที่สุดหรือไม่?
รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศทั้งเจ็ดออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 19 เมษายน ภายหลังการประชุมเป็นเวลา 3 วันในอิตาลี
โดยกล่าวถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่าเป็น “ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่ยุโรปเผชิญนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น” ซึ่งแสดงให้เห็น ความกังวลของชาวตะวันตกเกี่ยวกับสงคราม
กลุ่มดังกล่าว รู้สึกว่าจะไม่พอใจอย่างยิ่งกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของจีนต่อรัสเซีย และแสดงความกังวลอย่างยิ่ง
ต่อการถ่ายโอนวัสดุและชิ้นส่วนอาวุธทางทหารและพลเรือนที่ใช้ได้สองทางไปยังรัสเซีย(โดยองค์กรที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีน)
งานนี้ บลิงเกน ( Antony John Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะเยือนจีน
แอบเตือนจีนว่าต้องเลือกระหว่างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับชาติตะวันตกและการสนับสนุนรัสเซีย
ลักษณะของคำเตือนนี้ไม่สามารถมองข้ามได้ และสหรัฐฯ ก็กำลังดำเนินการอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าจีนตระหนักดีว่าชาติตะวันตกมีความร้ายแรงเพียงใด
ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการค้า เพราะจีนยังคงไม่สามารถยกเลิกการพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้
พันธมิตรพยายามใช้การเข้าถึงตลาดแบบนี้ เพื่อให้จีนยอมจำนน เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งเคยเยือนจีนก่อนหน้านี้ กล่าวเมื่อวันที่ 14 เมษายนว่า
สหรัฐฯ จะไม่ออกกฎไม่ใช้มาตรการใดๆ รวมถึงการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมที่เป็นไปได้ เพื่อจัดการกับปัญหากำลังการผลิต(ที่ล้นเกิน)ของจีน
ส่วน ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ ก็เรียกร้องเมื่อวันที่ 17 เมษายน ให้เก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของจีน 3 เท่าเป็น 25% โดยอ้างว่าเป็น "การแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม"
นอกจากนั้น ร่างกฎหมายหลัก 4 ฉบับในสภาผู้แทนราษฎร อันได้แก่ การห้ามแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok ของจีน ไม่ให้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา
โดยชึ้สาเหตุหลักมาจากว่ามันแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
พันธมิตรในยุโรป ซึ่งสนับสนุนการทูตที่เป็นอิสระมาโดยตลอด ได้ใกล้ชิดกับจุดยืนของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับแผงโซลาร์เซลล์ ยานพาหนะไฟฟ้า และรถไฟที่ผลิตในจีน สหภาพยุโรปได้ประกาศเมื่อวันที่ 9 เมษายนว่า
จะเริ่มการสอบสวน และตอบโต้ซัพพลายเออร์กังหันลมที่ผลิตในจีน
รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ฝรั่งเศส เลอ แมร์ กล่าวเมื่อวันที่ 17 เมษายนว่า ยุโรปจะต้องปกป้องผลประโยชน์ทางอุตสาหกรรมและการค้าของตนจากกิจกรรมการผลิตที่ได้รับเงินอุดหนุนจากจีน
นอกเหนือจากการมุ่งมั่นเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ(ของเยอรมนี)แล้ว นายกรัฐมนตรีชอลซ์ของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้นำคณะผู้แทนเศรษฐกิจและการค้า
ได้ขอเข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเมื่อวันที่ 16 เมษายน เขากล่าวว่า เขายังแสดงการคัดค้านของยุโรปต่อการสนับสนุนของจีนต่อรัสเซียนะเออ...
ส่วนแรงกดดันของสหรัฐฯ ต่อจีนน่าจะเป็นประเด็นช่องแคบไต้หวัน
สหรัฐฯ อาจใช้ประโยชน์จากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไล จิงเต๋อ (Lai Qingde)ของไต้หวันในวันที่ 20 พฤษภาคม เพื่อแลกกับการขอให้จีนหยุดสนับสนุนรัสเซีย
สอดคล้องกับสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งสภาแห่งรัฐจีนซึ่งรับผิดชอบกิจการข้ามช่องแคบได้เปิดเผยว่า ชิว ไคหมิง รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งสภาแห่งรัฐ
ได้เข้าพบผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก และกิจการแปซิฟิก Conda เมื่อวันที่ 15 เมษายน
เช่นเดียวกัน ปักกิ่งเน้นย้ำเสมอว่าไต้หวันเป็นเรื่องภายในและไม่ค่อยมีการหารือโดยตรงกับสหรัฐฯ อย่างเปิดเผย
นี่ก็หมายความว่าปักกิ่งไม่สบายใจอย่างมากเกี่ยวกับ Lai Qingde
และหวังว่าจะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาเพื่อควบคุมสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวัน
แม้ว่ามาตรการต่างๆ ของตะวันตกจะมุ่งเป้าไปที่ปัญหาของจีน แต่ก็อาจไม่บรรลุผลตามที่พวกเขาต้องการ
เป็นเรื่องจริงที่เศรษฐกิจของจีนยังคงพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดที่พัฒนาแล้ว และรู้สึกว่าอยู่นอกเหนือขอบเขตของรัฐบาลพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่การประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจนถึงปัจจุบัน
ยากที่จะเห็นว่าความกังวลในการปกครองของปักกิ่งได้เปลี่ยนจากการพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่ความมั่นคงทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นการเคลียร์การป้องกันการแพร่ระบาดหรือการควบคุมบริษัทเอกชนขนาดใหญ่อย่างเข้มงวด สิ่งที่ตามมา ไม่ใช่ตรรกะทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
ส่วนด้านทางการทูต จีนถือว่ารัสเซียเป็นอุปสรรคทางยุทธศาสตร์ต่อการกักกันของชาติตะวันตก ฮาาาาา และเป็นเรื่องยากสำหรับจีนที่จะเปลี่ยนแนว....
ดังนั้น คำเตือน(ที่เกือบจะยื่นคำขาด)จากสหรัฐฯ และพันธมิตรต่อจีนเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนจึงน่าจะบรรลุผลได้ยาก
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
