26 เม.ย. เวลา 09:04 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานธรรม เรื่อง โกมุทบังเกิดท่ามกลางทุกข์

ในอดีตชาติของพระศากยมุนีพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งเคยเกิดกายเป็นพ่อค้า การค้าของเขาเจริญรุ่งเรืองมาก ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน เพราะว่าเขามีจิตใจเมตตา เมื่อพบเจอคนยากจนกำพร้าก็จะให้ทรัพย์สินเงินทอง ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงเคารพรักมาก
องค์ราชันย์เองก็ยังนับถือในคุณธรรมของเขาและชื่นชมในความมั่งคั่งของเขาจึงคบหากันด้วยความสนิทสนมมาก
ในตอนเที่ยงวันหนึ่งในระหว่างที่เขาเตรียมจะรับประทานอาหารอยู่ในบ้านนั้นหน้าบ้านของเขามีพระภิกษุที่งามสง่ารูปหนึ่งมารอคอยรับการถวายภัตตาหารจากพ่อค้าและจะทำให้พ่อค้าคนนี้ได้รับผลบุญวาสนามากยิ่งขึ้น
เมื่อพญามารรู้เรื่องนี้ ก็บังเกิดจิตอิจฉาริษยามาก ก็ใช้มารเวทมาขัดขวางมิให้พ่อค้าได้บริจาคทาน พญามารใช้ฤทธิ์เดชเสกให้นรกไฟบรรลัยกัลป์ปรากฏขึ้นท่ามกลางเพลิงไฟที่ลุกโหมก็ปรากฏร่างของพวกเปรตกำลังถูกไฟนั้นเผาไหม้ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดในขณะนี้พ่อค้าที่ยืนอยู่ด้านในไม่เห็นภาพอันน่าเวทนาเช่นนี้ทุกครั้งจะมีแต่พระภิกษุที่งามสง่าถือบาตรมายืนอยู่ที่ประตูบ้าน และได้ยินพระภิกษุกล่าวว่า
 
“โยม! ท่านสามารถบริจาคแก่อาตมาที่มาขอบิณฑบาตนี้ อาตมาจะให้พรแก่ท่านได้รับบุญวาสนาที่ไม่อาจเปรียบเทียบได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นภรรยาพ่อค้าก็จะรีบนำเอาสิ่งของอาหารอย่างดีจำนวนมากมายมาที่ประตู แต่ทันใดนั้นภาพที่เห็นนั้นทำให้ภรรยาพ่อค้าตกใจลนลานวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน ฝ่ายพ่อค้าก็ไม่รู้
ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเดินไปดูที่ประตู เขาเห็นภาพเบื้องหน้าเป็นภาพนรกที่น่ากลัว พ่อค้ามีปัญญาจึงรู้แจ้งในบัดดลว่าเป็นผีมือของพญามาร พญามารเห็นพ่อค้าออกมา จึงพูดกับพ่อค้าว่า
“โยม ท่านดูสิ นรกไฟบรรลัยกัลป์ที่น่ากลัวเช่นนี้ มีไว้สำหรับผู้ที่มุ่งสร้างกุศลกรรมพวกเขานำเอาเงินทองมากมายบริจาคให้คนจนที่ไร้ประโยชน์ ไม่ยอมนำมาเซ่นสรวงบูชาเหล่าเทพเทวา
ด้วยเหตุนี้เป็นการผิดกฎและพวกเขาจะถูกลงโทษในนรก บัดนี้จะไม่ให้ท่านต้องตกลงรับกรรมในนรก ดังนั้นจึงมายับยั้งการให้บริจาคของท่าน รอฟังคำชี้แนะของเทพเทวาก็แล้วกัน พ่อค้าที่
มีปัญญารู้ว่านี้เป็นแผนร้ายของพญามาร จึงถามกลับไปว่า
“ผู้ที่มีเมตตาจิตชอบบริจาคนั้น ในเมื่อต้องถูกลงโทษจากเทพเทวาและต้องรับทุกข์ในนรกแล้วคนที่รับการบริจาคนั้น เขาจะต้องไปยังที่แห่งใด?”
พญามารตอบว่า “คนที่รับการบริจาคนั้น ในอนาคตจะได้ขึ้นสวรรค์ เสวยผลบุญบนสวรรค์”
พ่อค้าที่มีปัญญา ยังไม่จนมุมจึงพูดอีกว่า
 
“ความสัตย์ที่ท่านบอกแก่ข้านั้นสายไปเสียแล้ว ข้ารู้ว่าไม่มีโอสถใดที่จะรักษาเมตตาจิตของข้าได้ หากว่ามีทรัพย์สินเงินทองแล้ว สอนให้คนไม่เมตตาไม่บริจาค จึงจะเป็นสัทธรรมยิ่งทำให้คนที่มีปัญญาน้อย ไม่เห็นด้วยดังที่ท่านกล่าวว่า คนที่ให้บริจาคจะต้องตกสู่นรกานต์
และผู้ที่รับการบริจาคจะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าเช่นนั้น ข้าก็ยินดีที่จะบริจาคให้มากกว่านี้ เพื่อทำให้พวกที่รับการบริจาคจากข้าได้ขึ้นสวรรค์ มีความสุขตลอดกาล และก็ไม่ต้องเป็นทุกข์เป็นร้อน
ที่ข้าจะต้องรับเคราะห์ภัยด้วย”
พญามารยิ่งโกรธมากขึ้นพูดย้ำว่า
 
“คิดถึงประโยชน์ของตนเองให้มาก ๆ ในเมื่อสิ้นเปลืองเงินทองจำนวนมากมายแล้วยังต้องทนทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุดอีก ช่างโง่เขลาเสียจริง”
 
“ข้ายินยอมที่จะไปรับไฟบรรลัยกัลป์ในนรก แต่ไม่ยินยอมละทิ้งความเมตตากรุณาที่จะบริจาคทาน”
เมื่อพูดจบ ก็คิดจะก้าวลงไปในเพลิงบรรลัยกัลป์...ดอกโกมุทขาวใต้เท้าของเขาก็บานออกในทันที ทำให้ร่างกายของเขาค่อยๆลอยขึ้นจนพ้นจากบ่อเพลิงนั้นในตอนนี้พระภิกษุรูปนั้นบังเกิดความปิติยินดีและสรรเสริญพระภิกษุรูปนี้ต้องการตอบแทนบุญคุณที่พ่อค้าบริจาคทานให้จึงเหาะขึ้นไปกลางอากาศสำแดงอภิญญา เพื่ออวยพรให้แก่พ่อค้า พญามารเห็นพระภิกษุรูปนี้มีพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่ทั้งมารเวทของเขาก็มิอาจหลอกพ่อค้าได้ จึงรู้สึกละอายใจมาก และภาพนรกนั้นก็ค่อย ๆ
มลายหายไป
เมื่อมีศรัทธาที่เข้มแข็งและมั่นคง ไม่ว่าความชั่วร้ายใด ๆ ก็มิอาจจะทำอันตรายได้...
(ปล.นิทานธรรมเรื่องนี้ ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน...แต่หลวงพี่นำมา post ไว้...เพื่อให้ญาติโยมได้อ่าน เพื่อความสุขใจต่อการสร้างบุญกุศล สะสมบุญบารมีกันต่อไป...)
#เพื่อนกัลยาณธรรม
โฆษณา