27 เม.ย. เวลา 17:27 • หนังสือ

จิตวิทยาสายดาร์ก 🖤

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับ
คนที่ต้องใช้ "การพูด" ในการทำงาน
เช่น นักขาย นักการตลาด วิทยากร เป็นต้น
หลักการคร่าวๆ จะเป็นประมาณนี้
🔶️ ภาพลักษณ์ภายนอก
เช่น การแต่งตัว แต่งหน้า บุคลิกภาพ ภาษากาย
เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับ First Impression
เพราะเป็นสิ่งที่คนเห็นเราในครั้งแรก
🔶️ "กฎของเมห์ราเบียน" ➡️ 7-38-55
🔸️คนประทับใจจาก คำพูด 🟰 7%
🔸️คนประทับใจจาก น้ำเสียง 🟰 38%
🔸️คนประทับใจจาก ภาพลักษณ์ 🟰 55%
🔶️ การพูดที่แสดงความเห็นด้วย สอบถามเพิ่มเติม
แล้วค่อย นำเสนออีกทางเลือกใหม่
จะช่วยโน้มน้าวให้คนฟังไม่เกิดการต่อต้าน
และคล้อยตามได้ง่ายขึ้น
🔶️ การพูดชมคนฟัง แบบมีจังหวะที่ดี
จะช่วยให้คนฟังอยากฟังเรามากขึ้น
🔶️ ปรากฎการณ์พิกมาเลียน
เกิดจากตำนานกรีก ของกษัตริย์ชื่อ พิกมาเลียน
ซึ่งได้แกะสลักรูปหญิงสาวและหลงรักรูปปั้น
และคาดหวังให้รูปปั้นเป็นผู้หญิงจริงๆ
จนมีเทพี เสกให้ได้ตามที่หวัง
➡️ เมื่อสร้างความคาดหวังว่าอะไรสักอย่างจะเป็นจริง
วันหนึ่ง สิ่งนั้นจะเป็นจริงขึ้นมา
🔶️ การชวนคุยในเรื่องที่ผู้ฟัง มีความสนใจ
จะทำให้คนฟังอยากฟังมากขึ้น
🔶️ การอธิบายด้วยเปรียบเทียบ
อะไรที่ยากๆ ด้วยสิ่งที่เข้าใจง่าย
ที่ผู้ฟังคุ้นเคย ก็จะทำให้ ผู้ฟังเข้าใจมากขึ้น
🔶️ การทำให้ผู้ฟัง มีส่วนร่วม
เช่น ถามความคิดเห็น
จะทำให้ผู้ฟังให้ความสนใจมากขึ้น
🔶️ การเว้นจังหวะที่เหมาะสม
ประกอบกับ การสื่อสารทีละเรื่อง
จะทำให้ผู้ฟัง มีจังหวะในการคิดตาม
และรับข้อมูลได้ง่ายขึ้น
🔶️ จิตวิทยาที่ควรใช้เพื่อการขาย
🔸️ Pacing ➡️ การพูดจังหวะช้า เร็ว เป็นโทนเดียวกับผู้ฟัง จะทำให้คุยกันได้ง่ายขึ้น
1
🔸️ Anchoring Effect ➡️ การปักหมุด ให้ผู้ฟัง รู้สึกว่าของสิ่งนี้ ยาก หรือ มีราคาแพง แล้วนำเสนอ วิธีการที่ง่ายขึ้น หรือ ราคาที่ถูกกว่า
🔸️Diderot Effect ➡️ การแนะนำ สินค้าพ่วงกัน
เช่น เมื่อโน้มน้าว ซื้อชิ้นแรกได้ ก็นำเสนอชิ้นที่ 2
ที่ควรใช้คู่กับชิ้นแรก
🔸️Scarcity Effect ➡️ การทำให้รู้สึกว่า สินค้า เป็นของหายาก มีจำนวน หรือ ระยะเวลาจำกัด
🔸️Reframing ➡️ การปรับวิธีพูด โดยการพูดถึง สิ่งที่จะสูญเสีย ผู้ฟังจะใส่ใจมากกว่า สิ่งที่จะได้
🔶️ จิตวิทยาที่ต้องระวัง
🔸️Boomerang Effect ➡️ การยัดเยียดที่มากเกินไป
หรือ ดูจงใจมากไป ผลลัพธ์จะเป็นทาง negative
🔸️Undermining Effect ➡️ การชักจูงด้วยของรางวัล
ไม่ได้ดีเสมอไป อาจเปลี่ยนจาก ความอยากจะทำเอง
เป็นทำเพราะอยากได้รางวัล และเมื่อไม่มีรางวัล แรงจูงใจก็จะหมดไปด้วย
🔸️Norm of Reciprocity ➡️ หลักการที่ ให้อะไรใครก่อนอีกฝ่ายก็จะตอบแทนกลับมา เช่น การให้ชิมฟรี เพื่อคนชิมจะได้ตอบแทนด้วยการซื้อ แต่จากนี้ไป ก็ต้องให้ก่อนตลอด เพื่อให้เกิดการซื้อ ผู้ซื้อ ไม่ได้ซื้อเพราะเห็นคุณค่า ของตัวสินค้าจริงๆ ก็จะไม่ยั่งยืน
ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ สำหรับคนที่ไม่ใช่นักขาย
ก็คือ จะได้ไม่หลงกล และรู้ทันหลักจิตวิทยาต่างๆนี้
ใครสนใจก็ไปหาอ่านกันได้นะคะ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา