TikTok กับการผจญภัยในสหรัฐอเมริกา - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
ต้องบอกว่า TikTok กำลังผจญ"ภัย" ในสหรัฐฯ ภัยล่าสุดมาจากกฎหมายฉบับใหม่ที่ผ่านวุฒิสภาเรียบร้อย (ด้วยคะแนนเสียง 79 ต่อ 18) เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา
กฎหมายบังคับให้ ByteDance บริษัทสัญชาติจีนที่เป็นเจ้าของ TikTok ขายสินทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาภายในเวลา 9 เดือน หากไม่ขายอาจจะถูกแบนทั่วประเทศ
เหตุผลที่สหรัฐฯ ใช้อ้างในการบีบ TikTok ให้ขายกิจการมีอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกเป็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล มีข้อกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจสามารถบังคับให้บริษัทจีนที่เป็นเจ้าของ TikTok ส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคนสหรัฐฯ จำนวน 170 ล้านคน ที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้ให้รัฐบาลจีนได้ หากรัฐบาลจีนร้องขอ
ข้อสองคือ มีข้อกังวลว่าจีนอาจสามารถใช้ TikTok เป็นเครื่องมือในการสร้างอิทธิพลทางความคิดในกลุ่มคนสหรัฐฯ เพราะตัวแพลตฟอร์มสามารถควบคุมได้ว่าให้ใครเห็นข้อมูลข่าวสารอะไร ไม่เห็นอะไรบน TikTok
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการผจญภัยทางกฎหมายรอบใหม่ของ TikTok ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแบน TikTok จากตลาดสหรัฐฯ ในทันที
อย่างน้อยในช่วง 9 เดือน ต่อจากนี้ TikTok ยังคงสามารถใช้งานได้ในสหรัฐฯ กฎหมายบังคับให้ต้องหาบริษัทสหรัฐฯ มาซื้อกิจการให้ได้ภายใน 9 เดือน โดยเมื่อถึงกำหนด รัฐบาลสหรัฐฯ (ชุดหลังเลือกตั้ง) ยังสามารถขยายเวลาต่อได้อีก 3 เดือน เป็น 1 ปี
ล่าสุดทรัมป์เองได้แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่าไม่เห็นด้วยกับการแบน TikTok ซึ่งนับว่าเป็นการกลับลำพอสมควร เพราะในสมัยรัฐบาลทรัมป์เคยมีความพยายามที่จะบีบให้ TikTok ขายกิจการมารอบหนึ่งแล้ว
แต่ครั้งนี้ทรัมป์ให้เหตุผลว่า ถ้าไม่มี TikTok แล้ว Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook จะมีอิทธิพลมากเกินไปในสมรภูมิโซเชียลมีเดียของสหรัฐฯ มีคนเล่าว่านักลงทุนรายใหญ่รายหนึ่งของ TikTok เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของทรัมป์
ถึงแม้กฎหมายบังคับให้ขายกิจการภายใน 9 เดือน แต่นักกฎหมายประเมินกันว่าศึกกฎหมายเรื่องนี้อาจลากยาวได้เป็นหลักหลายปี และในระหว่างที่มีการดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมาย ศาลอาจสั่งให้หยุดนับเวลาลงก่อน
ByteDance ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ ว่ากฎหมายฉบับใหม่ที่บีบให้ขาย TikTok นั้น ขัดต่อหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพราะผู้ซื้อรายใหม่อาจเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับการเข้าถึง Content ของผู้บริโภคใน TikTok ได้
อันนี้ถือเป็นตลกร้ายสำหรับสหรัฐฯ เหมือนกัน เมื่อบริษัทจีนฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ ว่ากฎหมายมีผลจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก ว่ากันว่าองค์กรอย่าง American Civil Liberties Union ก็อาจมาร่วมผสมโรงเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้องด้วย
และเอาเข้าจริง การบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok ให้กับบริษัทสหรัฐฯ นั้น ก็เป็นเรื่องซับซ้อนอยู่เหมือนกันในทางปฏิบัติ
เพราะสมบัติล้ำค่าที่สุดของ TikTok คือ อัลโกริทึมอันชาญฉลาดที่กำหนดว่าจะเลือกคลิปใดขึ้นมาให้เราดู ที่เหมาะกับความชอบความสนใจของเรา และที่จะทำให้เราเสพติดอยู่กับแพลตฟอร์มนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เทคโนโลยีอัลโกริทึมนี้เป็นของบริษัทแม่ที่จีน จึงมีนักวิเคราะห์มองว่า ByteDance ไม่น่าจะสามารถหั่นเฉพาะส่วนของบริษัทในอเมริกามาขายได้ ถ้าจะขายก็ต้องขายกิจการทั้งโลกของทั้งบริษัท
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่แม้แต่รัฐบาลจีนจะมองว่าเทคโนโลยีอัลโกริทึมของ ByteDance เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ห้ามทำการส่งออก และจะห้าม ByteDance ขายเทคโนโลยีนี้ด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคงเช่นกัน
ซับซ้อนยิ่งขึ้นอีกคือ ดูเหมือนจะมีรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้าที่มีความสามารถจะซื้อกิจการ TikTok ได้ เพราะบริษัทอย่าง Meta หรือ Google ที่มีทุนหนาพอและสนใจ อาจถูกห้ามตามกฎหมายป้องกันการผูกขาดของสหรัฐฯ เพราะจะนำไปสู่การมีอำนาจเหนือตลาด ทำให้จำนวนของบริษัทที่มีทุนและความสนใจที่จะสามารถซื้อ TikTok ได้จริงในสหรัฐฯ เหลืออยู่น้อยรายมาก
เล่ามาทั้งหมดนี้เพื่อจะบอกว่า ข่าวสหรัฐฯ ออกกฎหมายแบน TikTok นี่ยังไม่ใช่จะแบนหรือบีบให้ขายได้ทันทีทันใด ตรงกันข้าม มหากาพย์การผจญภัยรอบใหม่ของ TikTok ในสหรัฐฯ ทั้งในการต่อสู้ทางกฎหมาย การตัดสินใจว่าจะขายกิจการส่วนใด และขายให้ใคร ขายได้ไหม เพิ่งเริ่มต้นและคงเป็นหนังม้วนยาวหลักหลายปี
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
