16 พ.ค. 2024 เวลา 08:16 • หนังสือ

Book Eyes View : ลองใช้ชีวิต แบบโพสต์อิตดูไหม

หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านในวันที่อยากอ่านอะไรเบาๆ เพลินๆ แต่เอาเข้าจริงเรื่องก็ไม่ได้เบาขนาดนั้น เพราะเนื้อหาในเล่มเล่าถึงชีวิตของผู้หญิงวัยกลางคนชาวเกาหลีคนหนึ่ง ที่เคยเชื่อและทำในแบบที่ทุกคนทำตามๆ กัน คือพยายามเหลือเกินที่จะเป็นคนในแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุด ยึดติดกับสิ่งนั้น จนยากจะลอกออก
แต่การใช้ชีวิตแบบโพสต์อิต ที่แปะลงไปแล้วก็ลอกออกได้ ทำให้เราเรียนรู้ที่จะผ่อนปรนกับตัวเอง รักตัวเอง และให้อภัยตัวเองถ้าหากวันหนึ่งสิ่งที่ทุ่มเททำลงไปด้วยความสมบูรณ์แบบ จะลงเอยด้วยความไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คิด
เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชีวิตก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ผิดพลาดตรงไหนก็แก้กันไป เพราะโดยตัวของมันเองแล้ว โพสต์อิตก็คือสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดนั่นเอง เหมือนที่ปกหลังของหนังสือบอกว่า “โพสต์อิตอาจเป็นความล้มเหลวของการเป็นกาว แต่กาวที่ไม่แข็งแรงนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเครื่องเขียน”
ถ้าย้อนไปดู ความตั้งใจแรกเริ่มของ มิสเตอร์ สเปนเซอร์ ซิลเวอร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตโพสต์อิต จากบริษัท 3M ที่ต้องการสร้างกาวที่ติดแน่นแบบซูเปอร์สตรอง แต่ดันได้กาวที่ติดไม่แน่น ติดอะไรก็ลอกได้เฉย ไม่ได้เกรงใจคนทำ แถมยังทำตัวไม่สมกับความเป็นกาว
ช่างเป็นกาว ที่ก๊าว กาว
แต่ความเป็นกาวที่ติดไม่แน่นนี่แหละ คือคุณสมบัติที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีคนทำมา การติดไม่แน่น ลอกออกได้ เปิดโอกาสให้เราได้แก้ไข เติมแต่งความคิดใหม่ หาที่หาทางใหม่ จนกว่าเราจะเจอจุดที่พอใจและลงตัว
สังคมของคนเกาหลีกับคนไทย น่าจะเจอเรื่องราวใกล้เคียงกัน แบกความคาดหวังของสังคมและครอบครัวที่คล้ายๆ กันเพราะต่างก็อยู่ในสังคมแบบเอเชียที่มีความเป็น collective มากกว่า individual หมายความว่า ความคาดหวังของสังคมหรือกลุ่มก้อนที่ตัวเองสังกัด มักจะมีอำนาจเหนือความต้องการของตัวเอง
ใครเป็นแบบไหน เราก็ต้องเป็นแบบนั้น ความสำเร็จที่สังคมยอมรับเป็นแบบไหน ความสำเร็จของเราก็ต้องเป็นแบบนั้นเหมือนสังคมผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อความสุขมาแล้ว เราแค่เอามาเติมน้ำร้อนแล้วกินได้เลย เป็น instant happiness ที่หาได้ง่าย แต่ส่งผลกับสุขภาพเราแบบไหนก็อีกเรื่อง ความพ่ายแพ้ก็เหมือนกัน สังคมไม่ค่อยโอบกอดคนผิดพลาด แต่พร้อมจะซ้ำเติมหรือหัวเราะเยาะกัน เหมือนความผิดพลาดเป็นตราบาป เป็นความล้มเหลว เป็นโรคติดต่อ
แต่ถ้าเราขืนใช้ชีวิตแบบคนที่ไม่กล้าเผชิญกับความผิดพลาด เราก็คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ทั้งๆ ที่การลงมือทำ จะทำให้เราค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ได้หาทางแก้ปัญหา และอาจเจอโอกาสใหม่ๆ ที่คนนั่งอยู่เฉยๆ อาจไม่เคยพบเคยเห็นก็ได้
คนใช้ชีวิตแบบโพสต์อิต จะไม่คิดว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ แต่มันเป็นแค่เรื่องหนึ่งในชีวิตเรา เหมือนที่คนเขียนหนังสือเล่มนี้บอกว่า อย่ามัวแต่กลัวที่จะลงมือทำอะไร
“ลองทำดูก่อน ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องทำ”
เหมือนโพสต์อิตนั่นแหละ ติดผิดก็ลอกไปติดใหม่ ติดตรงนี้ยังไม่ใช่ ก็ลองไปติดอีกที่ แต่ถ้าใช้โพสต์อิต เพื่อเตือนความจำแล้วก็ต้องจำด้วย ไม่ใช่แทบจะติดไว้ที่หน้าผากแล้วก็ยังไม่จำ
คนเราผิดพลาดได้ เริ่มใหม่ได้ แต่ต้องจดจำด้วยว่าผิดพลาดเพราะอะไร จะได้ไม่ต้องผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่าลืมว่า กาวที่ติดแล้วติดอีก วันหนึ่งมันก็อาจจะเสื่อมคุณภาพได้ ไม่ต่างจากคนที่ทำผิดแล้วผิดอีก
เพราะชีวิตมันจะเสื่อมคุณภาพเข้าสักวัน
1.ทุกคนล้วนมีช่วงเวลาและจังหวะของตัวเอง อย่ากังวลไปเลย
2.ไม่เป็นไรหรอกถ้าจะมีความสุขกับความฟุ่มเฟือยเล็กๆน้อยๆอย่างกาแฟวันละแก้ว เพราะมันเป็นอิสระที่เรามอบให้ตัวเองได้
3.ชีวิตไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง จงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราเลือกคือคำตอบที่ถูก แล้วมุ่งไปเลย!
4.สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น ทำสิ่งที่ทำได้ก็พอแล้ว
โฆษณา