Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
linxikun
•
ติดตาม
14 มิ.ย. 2024 เวลา 12:47 • ประวัติศาสตร์
Sino-Thai Tower
รถของติ๊ก กับเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม กลางถนนอโศกมนตรี
บรรยากาศจ้อกแจ้กจอแจของถนนอโศก(อโศกมนตรี)ในเวลาหลัง 17.00 น. ของทุกวันทำการได้เวลาเลิกงานของเหล่าบรรดาหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ รวมทั้งผู้เขียนด้วย ในขณะนั้นทำงานเป็น Creative ของบริษัท เจวีซี ประเทศไทย จำกัด JVC(Thailand) สำนักงานใหญ่ อาคารชิโนไทยทาวเวอร์
ภาพปัจจุบันของอาคารชิโนไทยทาวเวอร์ ถนนอโศกมนตรี ที่มาภาพ Google Map
ชั้นที่ 21 กลางซอยอโศก ผู้คนหลั่งไหลลงมาจากอาคารสำนักงานหรูหราที่เรียงรายอัดแน่นกันตลอดตั้งแต่หัวถนนฝั่งสุขุมวิท จนสุดถนนฝั่งเพชรบุรี แต่ละตึกแทงทะลุแข่งกันสูงเสียดฟ้า
ภาพจากหน้าปก ภาพปัจจุบันของอาคารชิโนไทยทาวเวอร์ ถนนอโศกมนตรี
ที่มาภาพ Google Map
สภาพปัจจุบันของตึกและอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ บนถนนอโศกมนตรี ที่มาภาพ Google Map
หลังตอกบัตรเสร็จเวลา 17.05 น. ผู้เขียนก็รีบลงลิฟต์จากชั้นที่ 21 ของอาคารฯ พอถึงชั้น 1 ก็รีบจ้ำอ้าวออกจากตัวตึก เพื่อเตรียมทำเวลากึ่งเดินกึ่งวิ่งแข่งกับมนุษย์เงินเดือนอีกนับร้อยนับพันของย่านนี้ ในช่วงกลางปี 2537 ยังไม่มีทั้ง BTS MRT ARL เวลาเลิกงานลงมาจากตึก ไม่ต้องรอรถเมล์ครับ เพราะรถเมล์จะจอดรอให้คุณเลือกขึ้น ด้วยถนนทั้งสองฝั่งจะคลาคล่ำไปด้วยรถและรถ จอดนิ่งๆเต็มถนนทั้งสองฝั่ง ตลอดความยาว 1400 เมตร ของถนนอโศกมนตรี หรือซอยสุขุมวิท 21
เหมือนลานจอดรถขนาดใหญ่ยาวสุดลูกหูลูกตา รถติดสาหัสสากรรจ์มาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบัน..แม้จะมีสารพัดรถไฟฟ้าทั้งมุดใต้ดินและลอยเหนือฟ้า แต่บนถนนก็ยังคงความติดวินาศสันตะโรเหมือนมรดกตกทอด ติดได้ติดดี ติดตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเลิกงานคือวิกฤตหนักสุด เพราะตอนเช้าต่างคนต่างมาเข้างานไม่พร้อมกันก็ติดระดับหนึ่งแล้ว แต่ตอนกลับนี่สิ ทุกคนจะเร่งรีบกลับบ้าน รถยนต์ของพนักงานตามอาคารสำนักงานต่างๆที่แน่นขนัดเป็นสิบๆตึกก็พร้อมใจกันออกจากลานจอดรถในเวลาใกล้เคียงกัน ราวผึ้งแตกรัง
นึกเห็นใจ รปภ.ของแต่ละตึก ต้องกระโดดลงถนนขวางรถทางตรง เพื่อระบายรถแถวยาวที่ต่อคิวรอออกจากอาคารของตัวเองอย่างแข็งขันตามหน้าที่ ลองหลับตานึกภาพถนน 4 เลน ไป 2 กลับ 2 เหมือนคอขวดตรงกลางระหว่างถนนขนาด 8 ช่องจราจร ไป-กลับ คือถนนรัชดาภิเษก กับถนนอโศก-ดินแดง แล้วจะเข้าใจ ผู้เขียนจึงเลือกเดินทางด้วยรถไฟแบบดั้งเดิมของเรานี่แหละ รฟท. ตอนนั้นผู้เขียนพักย่านถนนพระราม 6 ใกล้สถานีสามเสน จึงเลือกเดินไปรอรถไฟที่จุดจอดรถอโศก
ที่หยุดรถอโศก ในปัจจุบัน ที่มาภาพ Google Map
เลยแยกอโศกเพชรไปเล็กน้อย ระยะทางจากตึกที่ทำงานราว 1 กม.จึงทำให้ผู้เขียนต้องเดินจ้ำอ้าวก้าวยาวๆฝ่าดงสาวๆออฟฟิศไฮโซที่แต่งตัวประชันกันราวกับนางแบบบนแค็ทวอล์ก เพื่อให้ทันรถไฟชานเมือง หัวตะเข้-ดอนเมือง ซึ่งจะมาประมาณ 17.15 บวกลบไม่เกิน 5 นาที ไปลงสถานีสามเสน เช่นนี้เกือบทุกวัน
แต่แล้ว..วันหนึ่ง
เฮ่ยยยย..ไอ้โป้ง!!
ติ๊ก
เสียงตะโกนดังลั่นถนน ในขณะที่ผู้เขียนกำลังเตรียมตัวเข้าจุดสตาร์ทหน้าตึกชิโนไทยทาวเวอร์
ภาพปัจจุบัน ทางเท้าหน้าตึกชิโนไทยทาวเวอร์ ที่มาภาพ Google Map
ก็ได้ยินเสียงเรียกจากรถเก๋งส่วนตัวที่จอดติดกันเป็นแพอยู่เต็มถนนหน้าตึก ผู้เขียนหันขวับไปตามเสียง
อ้าว..เฮ้ยไอ้ติ๊กนี่หว่า
โป้ง
ติ๊ก ธนะ เพื่อนร่วมแก๊งและรุ่นน้อง 1 ปีที่ช่างศิลป เด็กสะพานใหม่ ซึ่งไม่ได้เจอกันมานานหลายปี โบกไม้โบกมือออกมาจากรถเก๋งญี่ปุ่นรุ่นคลาสสิค แลดูเท่ระเบิด ผู้เขียนฉีกยิ้มอย่างดีใจราวถูกหวย รีบเดินไปกลางถนนที่รถติ๊กจอดติดอยู่ เปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที จับไม้จับมือทักทายเฮฮากันดังลั่น เรื่องราวสารพัดพร่างพรูออกมาจากปากทั้งคู่ ผู้เขียนชื่นชมติ๊กมากว่ามีรถส่วนตัวขับแบบนี้สาวๆคงตรึม สายตาสอดส่องไปในรถ มิน่าทำไมถึงร้อน เพราะกระจกหมุนลงสุดทั้ง 4 บาน เรา..โอเพ่นแอร์
รถติ๊ก ไม่มีแอร์!!
โป้ง
ผ่ามๆ..ตอนขึ้นรถไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ดีใจและเพลินกับการเม้ามอย เหงื่อเริ่มซึมเพราะรถแทบไม่ขยับ เลยไม่มีลมเข้าทางหน้าต่าง นอกจากควันจากท่อไอเสียของรถยนต์ทั้งถนน ที่จอดติดอยู่ด้วยกัน อากาศช่วงหลัง 5 โมงเย็นแดดก็ยังคงระอุอยู่ ผู้เขียนหันไปเปิดวิทยุที่อยู่ตรงกลางคอนโซล หมุนปุ่ม ออน .....เงียบ..zzz ไม่มีการตอบรับใดๆจากปุ่มที่ท่านเปิด ติ๊กหันมายิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ ยักคิ้วสลับข้างตามแบบฉบับของเขา
อ่อ..ไอ้โป้ง รถกูดังทุกอย่าง
ยกเว้น..วิทยุ!!
ติ๊ก
ฮ่าๆ..เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชม. การพูดคุยอย่างออกรสออกชาติ ทำให้ผู้เขียนลืมเรื่องเวลาไปซะฉิบ หันมามองข้างทาง อุแม่เจ้า..นี่รถเรากระดื๊บมายิ่งกว่าเต่าคลาน เกือบชั่วโมง ยังมาได้เพียงกลางซอยอโศกเท่านั้น ฮ่าๆฟ้าเริ่มมืด ผู้เขียนสตันท์ไปชั่วครู่ ก่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า
เฮ้ยติ๊ก กูไปก่อนนะ
ผู้เขียนหันไปบอกเพื่อน ในใจคิดว่าเดี๋ยวเพื่อนคงรั้งให้นั่งต่อ แต่ผิดคาด ติ๊กหันมายิ้มเจ้าเล่ห์แบบหล่อๆตามสไตล์
เฮ่ย..ขอบใจหวะโป้ง
ที่นั่งคุยเป็นเพื่อน..
ก่อนยักคิ้วสลับข้าง ผู้เขียนพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา พร้อมเปิดประตูลงกลางถนนที่เต็มไปด้วยรถที่จอดติดๆกันเต็มทุกช่องจราจร แทบจะไม่เว้นที่ว่างให้คนเดินแทรก ไฟหน้ารถแต่ละคันเริ่มเปิดกันแล้ว
เยียวยาเวลาที่เสียไป 1 ชม.ให้กับความดีใจที่ได้เจอเพื่อน ก่อนก้มหน้าก้มตาเดินบนทางเท้าร่วมชะตากรรมกับพนักงานออฟฟิศที่เลิกงานทีหลัง และเลือกจะเดินดีกว่านั่งติดอยู่บนรถ ไฟโคมแสงจันทร์ริมถนนเพิ่งเปิดไล่ความมืด ผู้เขียนหันกลับไปมองรถของเพื่อนติ๊ก ที่อยู่ไกลออกไปจนลับตา ก่อนส่งกำลังใจให้เพื่อน เพราะบ้านของติ๊ก สะพานใหม่..ยังอีกยาวไกล..
เส้นทาง..ช่างศิลป
ไลฟ์สไตล์
พัฒนาตัวเอง
เรื่องเล่า
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย