1 ส.ค. 2024 เวลา 08:19 • ความคิดเห็น
เสถียรธรรมสถาน

การสังเกตว่าใครเป็นพระโสดาบัน ทำได้ยากมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย

พระโสดาบัน หรือโสดาบัน คือผู้เข้าถึงกระแสแรกแห่งมรรคมีองค์ ๘ คือ สามารถปิดอบายภูมิทุคติภูมิทั้งหมดได้แล้ว โสดาบันบางคนจะเหลือชาติหน้าอีกชาติเดียวให้ไปเกิด โสดาบันบางคนก็เหลืออีกไม่เกินสามชาติ และบางคนก็เหลือจำนวนชาติภพอีกไม่เกินเจ็ดชาติให้ไปเวียนว่ายตายเกิดก่อนจะเข้าสู่ อสังขตธรรมพระนฤพานในชาติสุดท้าย
#โสดาบัน #อริยบุคคล #มรรคมีองค์แปด #นิพพาน
พระโสดาบันจะแตกต่างจากปุถุชนไม่มาก แต่ก็เด่นชัด ความแตกต่างในด้านที่มองไม่เห็นก็คือ โสดาบันจะมีคุณธรรมระดับสูงในกระแสแรกแห่งมรรค ทำให้ต่างจากปุถุชนตรงที่เมื่อตายไปแล้ว โสดาบันจะไม่สามารถไปเกิดในเปรต-เดรัจฉาน-ทุคติวินิบาต-นรก-อบายได้ ส่วนด้านที่มองไม่เห็นแต่จะสังเกตได้เมื่อสนทนากันอย่างลึกซึ้ง ก็คือ โสดาบันจะไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์โหราศาสตร์และทรงเจ้าเข้าผี-พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์-ฤกษ์ยาม-เคล็ด-เดรัจฉานวิชาอาคมและศาสนาอื่น โสดาบันจะเทิดทูนเชื่อมั่นอย่างสนิทใจไร้ข้อกังขาใดๆต่อพระรัตนตรัย
และที่สำคัญ โสดาบันจะละทิ้งสักกายทิฏฐิไปแล้ว คือ ทิ้งความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนว่าเป็นของของตน มีตัวตนนี้จริงว่าตัวตนนี้เป็นที่น่าหวงแหน ตัวตนนี้เป็นของฉันและฉันต้องไม่ให้ความเสียเปรียบเกิดแก่ตัวตนนี้ ง่ายๆก็คือ โสดาบันจะเข้าใจแจ้งชัดแล้วว่าตัวตนนี้กายนี้เป็นเพียงของชั่วคราว ควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่ของเรา
ไม่มีสิทธิ์ได้ดั่งใจด้วยกายนี้เพราะกายนี้ไม่จีรัง ยืมธรรมชาติมาแค่ชั่วคราว ไม่ถึง 100ปีก็ต้องคืนธรรมชาติเขาไป ไม่มีประโยชน์ใดๆที่จะไปยึดมั่นถือมั่นในตัวตนและกายกับสังขาร เพราะเป็นของไร้สาระ ไร้ประโยชน์ ไม่ช่วยให้หลุดพ้นสังสารวัฏ รังแต่จะฉุดรั้งให้สัตว์ติดอยู่ในบ่วงแร้วของวัฏสงสาร เป็นกับดักเหยื่อล่อให้สัตว์สามารถพลาดพลั้งติดบ่วงแล้วไปเกิดในนรกหรือเปรตวิสัยและเดรัจฉานไม่รู้กี่ร้อยกี่ล้านกัปกัลป์
โสดาบันจึงมีความรอบคอบมากในทางธรรม และโสดาบันจะไม่หวาดกลัวต่อสังสารวัฏเพราะมีใจแน่วแน่อยู่ในธรรมของพระตถาคต ไม่ตัดสินดี ไม่ตัดสินชั่ว ได้ดีก็เฉยๆ ไม่ได้ดีก็เฉยๆ โสดาบันยังรักสวยรักงามได้ ยังโกรธ ยังโมโหได้ ยังมีราคะกำหนัดกล้าได้ แต่ถ้าเรื่องที่เป็น "อกุศลกรรมบถ 10" โสดาบันจะไม่ถลำไปทำเป็นอันขาด แม้จะมีคนเอาปืนมาจ่อขมับให้ทำบาปทำอกุศลกรรม โสดาบันก็จะไม่ก่อกรรมชั่วที่ผิดไปจากกุศลกรรมบถ 10เป็นอันขาด โสดาบันยอมตายได้ถ้าจะต้องโดนบังคับให้ทำบาปฆ่าใคร เป็นต้น
ที่สำคัญ โสดาบันจะไม่ดูดวง ไม่เชื่อหมอดู โสดาบันจะถือศีล๕และปฏิบัติเจริญภาวนาอยู่กับตัวอยู่เนืองๆ มักไม่พูดไม่บอกให้คนรู้ว่าภาวนาอยู่ ไม่อวดภูมิจิต แต่ชอบเผยแพร่ธรรมะในช่องทางของตัวเอง รู้กาละเทศะในการประกาศธรรมของพระศาสดา และแน่นอน โสดาบันที่เป็นฆราวาสก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกธรรมได้เฉกเช่นปุถุชนทั่วไป สามารถไปดูคอนเสิร์ตได้ ไปท่องเที่ยว ไปหาอาหารอร่อยกิน อยากได้นู่นได้นี่ที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่น แต่โสดาบันจะไม่ซ่องเสพอบายมุข ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ไปในที่อโคจร
โสดาบันจะไม่ประมาท เมื่อเพลินในกามคุณก็จะทำตัวประดุจเนื้อสมันที่นอนทับบ่วงแร้ว แต่ก็ไม่ติดบ่วงแร้วนั้น เมื่อสังเกตเห็นบ่วงแร้วกระตุก เนื้อสมันนั้นก็จะรีบผละตัววิ่งหนีไปทันที นี่แหละคือลักษณะหนึ่งของโสดาบัน คือมีไหวพริบปฏิภาณในการหลีกหนีหนทางไปสู่อบายได้อย่างเก่งกาจ
แน่นอนว่า โสดาบันบางคนก็ยังมีวิบากกรรมที่ไม่ดีอยู่เหมือนกัน หากโสดาบันยังมีวิบากกรรมเลว ก็จะต้องรับวิบากนั้นในภพชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ โสดาบันบางคนอาจจะประสบเหตุการณ์เลวร้ายบ้าง เรื่องโชคร้ายต่างๆบ้าง ขึ้นอยู่กับกรรมในอดีตที่ก่อไว้ว่าหนักแค่ไหน ถ้าเป็นกรรมชั่วหนักมาก่อนแล้วดันกลับตัวกลับใจจนได้เป็นโสดาบัน ผลกรรมก็จะเบาบางลง แต่ก็ต้องชดใช้ในชาติที่โสดาบันคนนั้นเกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น
โสดาบันที่เป็นภิกษุก็มี เป็นฆราวาสก็มี โสดาบันสามารถพูดคำหยาบตามสัญญาขันธ์ได้ แต่ไม่มีเจตนาที่มุ่งร้ายพยาบาท ไม่ได้พูดคำหยาบเพื่อให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจ หรือจงใจพูดคำหยาบเพื่อกระตุ้นการมีเรื่องห้ำหั่นกันอย่างนี้โสดาบันจะไม่ทำ โสดาบันยังพูดเล่นได้ แต่จะไม่พูดเพ้อเจ้อพล่ามไม่เป็นเรื่องจนคนอื่นเดือดร้อนรำคาญใจ ไม่ยุยงให้คนเกลียดกันทะเลาะกัน ไม่พูดจาหลอกลวงคนอื่นเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ไม่จงใจฆ่าสัตว์ ไม่มุ่งชิงอุปกรณ์แห่งทรัพย์และเงินทองของผู้อื่นโดยมิชอบ ไม่ผิดลูกผัวเมียใคร ไม่ดื่มสุราเมรัย
หากคนที่คุณรู้จักมีลักษณะนิสัยดังที่ผู้เขียนได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ให้พยากรณ์ได้เลยว่าเขาคนนั้นเป็นพระโสดาบันแล้ว อีกจุดสังเกตของโสดาบันคือ พระโสดาบันเมื่อมีปฏิฆะโมโหขัดเคืองใจ จะยั้งพฤติกรรมไว้ไม่ให้ลงไม้ลงมือกับคนอื่น เมื่อพ้นจากความโกรธเกรี้ยวไปแล้ว โสดาบันก็จะปล่อยวางได้แทบจะในทันที ไม่มีอาฆาต ไม่มีพยาบาทอุปายาสต่อเนื่องไปเหมือนเช่นที่ปุถุชนมักเป็นกัน
การเข้าถึงความเป็นโสดาบันได้ ถือเป็นอะไรที่วิเศษสุดแล้วในฐานะพุทธศาสนิกชนคนธรรมดา ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ชาวพุทธทุกคนได้เป็นพระโสดาบัน และหลุดพ้นจากระบบสมมติบัญญัติในมิติที่๔ หรือหลุดพ้นโลกธรรม-สังสารวัฏ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเวียนว่ายตายเกิดในมนุษย์โลก สัตว์เดรัจฉานบ้าง สวรรค์-นรกบ้าง เปรตวิสัยบ้าง แต่จะสามารถหลุดพ้นจากกองเพลิงแห่งทุกข์ แล้วเข้าสู่สภาวะอสังขตะนิพพานในชาติสุดท้าย
เป็นสหายแห่งความไม่ตาย คือเป็นอมตะตลอดไป ไม่ต้องเวียนตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้อีกต่อไป
แอดมินอันตราปรินิพพายี แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
โฆษณา