3 ส.ค. 2024 เวลา 17:57 • ไลฟ์สไตล์

เจาะลึก ค่านิยมการทำงานของคนในแต่ละยุค

ถ้าทุกคนมีวิธีคิดแบบเดียวกันในการทำงาน ก็จะคงไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกันอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริง คนแต่ละยุคสมัย ก็มีวิธีการทำงานและสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าส่งผลต่อความคาดหวังและความพึงพอใจในการทำงาน ก็ไม่เหมือนกัน เคยสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมผู้บริหารที่อายุมากกว่า นิยมเข้าประชุมในห้องประชุมตามปกติ และเข้าทำงานในสำนักงานมากกว่าที่จะประชุมแบบออนไลน์ หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ ที่สะดวกกว่า ซึ่งคนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยกว่า นิยมการประชุมหรือทำงานแบบนี้
การทำงานแบบยืดหยุ่น อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ สามารถทำงานและเข้าประชุมมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ถ้าบริหารได้ดี อาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงโควิดระบาด แทบจะไม่ต้องออกไปไหน แต่การประชุมและการทำงาน ก็ยังมีเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมอีกด้วย ทำให้เกิดการบริการใหม่ ๆ และเป็นที่ยอมรับปัจจุบันมากขึ้น เช่น การสั่งอาหารผ่านออนไลน์และจัดส่งถึงบ้าน หรือการปรึกษาหมอผ่านออนไลน์และส่งยาถึงบ้าน เป็นต้น
ความแตกต่างในรูปแบบวิธีการทำงานนี้ เป็นความเชื่อหรือทัศนคติที่มีความสำคัญ ใช้ในการกำหนดพฤติกรรมและการตัดสินใจในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงชีวิตการทำงานด้วยเช่นกัน
เราเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น ค่านิยมในการทำงาน ถูกหล่อหลอมจากประสบการณ์ในช่วงชีวิต ผ่านการเรียนรู้ วัฒนธรรม และสังคมที่รับรู้ในช่วงที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ มีความแตกต่างกันตามช่วงเวลาของแต่ละยุคสมัย ทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างกัน ส่งผลวิธีการทำงานและการสืื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน และการตอบสนองต่อนโยบายที่แตกต่างกันของคนในแต่ละรุ่น
ดังนั้น การสร้างความเข้าใจในค่านิยมที่แตกต่างกันเหล่านี้ จึงมีความสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมารทำงานให้ตอบสนองความต้องการที่มีความหลากหลายของพนักงานที่อยู่ในแต่ละรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความแตกต่างของค่านิยมในการทำงานระหว่างรุ่นสามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้อาวุโส เบบี้บูมเมอร์ เจนเอ็กซ์ เจนวาย และ เจนซี โดยแต่ละรุ่นก็มีจุดแข็งและความคาดหวังจากการทำงานที่ไม่เหมือนกัน การสร้างความเข้าใจที่มีความแตกต่างเหล่านี้ จะช่วยให้องค์กรสามารถนำศักยภาพของทีมที่หลากหลายมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจ สร้างนวัตกรรม เพื่อบรรลุความสำเร็จโดยรวมขององค์กร
ผู้อาวุโส (Senior Generation)
ผู้อาวุโส เกิดระหว่างปี 1928 และ 1945 ให้ความสำคัญกับการทำงานหนัก ความภักดี ได้รับอิทธิพลจากความยากลำบากในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และการเสียสละในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จึงให้ความสำคัญกับความมั่นคง และความพยายามทุ่มเทในการทำงาน คนในยุคนี้นิยมทำงานอยู่กับองงค์กรจนเกษียณ ทำงานอย่างเป็นระบบ ละเอียดถี่ถ้วน เน้นคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
คนรุ่นนี้นิยมการสื่อสารแบบเป็นทางการ ประชุมพบปะกันแบบตัวต่อตัวในห้องประชุม สื่อสารด้วยเอกสาร เช่น บันทึกช่วยจำและจดหมาย ให้ความสำคัญกับโครงสร้างและระบบการทำงานที่ชัดเจน
เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomers)
เบบี้บูมเมอร์ เกิดระหว่างปี 1946 และ 1964 มองโลกในแง่ดี ทะเยอทะยาน และแข่งขัน จากการเติบโตขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จึงให้ความสำคัญกับความสำเร็จในอาชีพการงาน เชื่่อมั่นระบบคุณธรรมต้องใช้ความสามารถและความพยายาม ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ จึงถูกมองว่าทำงานหนัก ใช้ระยะเวลานานเพื่อบรรลุเป้าหมายอาชีพ เติบโต และมีความมั่นคงในการทำงาน
เจนเอ็กซ์ (Gen X)
เจนเอ็กซ์ เกิดระหว่างปี 1965 และ 1980 ให้ความสำคัญกับอิสระในการทำงาน ความยืดหยุ่น และสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน จากการรับรู้ถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การปลดพนักงานของบริษัทเป็นจำนวนมาก และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้คนรุ่นนี้ไม่เชื่อในความเป็นสถาบัน จึงให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ต้องการพัฒนาตนเองในอาชีพการงาน
คนรุ่นนี้ต้องการความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ให้ความสำคัญกับครอบครัวและเวลาส่วนตัว ต้องการการทำงานที่มีความยืดหยุ่น เพื่อจัดการความรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเชื่อว่าชีวิตที่มีสมดุลนำไปสู่ความผลิตที่สูงขึ้น เกิดความพึงพอใจในการทำงาน และมีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น
2
คนรุ่นนี้คุ้นเคยกับเทคโนโลยี มีประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกเป็นดิจิทัล จึงมีทักษะในการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสื่อสาร
เจนวาย (Gen Y)
เจนวาย เกิดระหว่างปี 1981 และ 1996 ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันเป็นทีม มีเป้าหมาย และความรับผิดชอบต่อสังคม ต้องการทำงานที่มีความหมายสอดคล้องกับค่านิยมและเป้าหมายส่วนตัว
คนรุ่นนี้ชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่สร้างความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ให้ความสำคัญกับการสื่อสารอย่างเปิดเผย มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คาดหวังความโปร่งใสและการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ต้องการทำงานกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืน
คนรุ่นนี้เติบโตมากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จึงสามารถประยุกต์เทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวันและการทำงาน มีทักษะในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ คาดหวังในการทำงานโดยมีเครื่องมือและทรัพยากรทันสมัยเพื่อสนับสนุนการทำงาน
เจนซี (Gen Z)
เจนซี เกิดระหว่างปี 1997 และ 2012 ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ความจริงใจ เติบโตขึ้นในโลกที่มีการเชื่อมต่อกันทางการสื่อสารตลอดเวลา มีความตระหนักทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะจัดการกับปัญหาส่วนรวมในระดับโลก ต้องการใช้ชีวิตที่สมดุลและเติมเต็มทั้งในด้านส่วนตัวและอาชีพ
คนรุ่นนี้เติบโตมากับสมาร์ทโฟน สื่อสังคมออนไลน์ และการเข้าถึงข้อมูลได้ทันที มีทักษะสูงในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้ และการแก้ปัญหา จึงคาดหวังในการประยุกต์เทคโนโลยีในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนรุ่นนี้ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความยืดหยุ่นและมีโอกาสเติบโต ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในความสำเร็จ ยอมรับความหลากหลาย โอกาสที่เท่าเทียมให้กับพนักงานทุกคน ชื่นชอบการทำงานทั้งแบบทางไกลและแบบพบหน้ากัน ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกวิธีและสถานที่ทำงาน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานและความพึงพอใจในงาน
ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานระหว่างรุ่น
ผู้อาวุโสและเบบี้บูมเมอร์มองสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานผ่านเลนส์ของความมุ่งมั่นในอาชีพและความมั่นคง จึงให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นหลัก เนื่องจากความรู้สึกถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ ในขณะที่เบบี้บูมเมอร์นิยมทำงานหนัก อาจประสบปัญหาในการบรรลุสมดุล คนทั้งสองรุ่นนี้ ชื่นชมตารางการทำงานแบบมีโครงสร้างและมีขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว
เจนเอ็กซ์ เจนวาย และเจนซี ให้ความสำคัญกับการบรรลุสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานมากกว่า เจนเอ็กซ์ต้องการความยืดหยุ่นเพื่อจัดการความรับผิดชอบในครอบครัวและความสนใจส่วนตัว ในขณะที่ เจนวายและเจนซี ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจส่วนตัว สุขภาพ และประสบการณ์ที่มีความหมาย คนทั้งสองรุ่นสนับสนุนนโยบายการจัดการงานที่ยืดหยุ่น เช่น การทำงานทางไกล เวลาทำงานที่ยืดหยุ่น เพื่อรักษาสมดุลที่ดีระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1
รูปแบบและความชื่นชอบในการสื่อสาร
ผู้อาวุโสและเบบี้บูมเมอร์ ชื่นชอบการสื่อสารแบบพบหน้ากัน ให้คุณค่ากับการพบปะกันแบบตัวต่อตัวและการประชุมแบบเป็นทางการ ในทางตรงกันข้าม เจนเอ็กซ์ เจนวาย และเจนซี นิยมการสื่อสารแบบดิจิทัลมากกว่า ใช้ email instant message และ teleconference ในการติดต่อสื่อสาร การสร้างความเข้าใจเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1
ข้อเสนอแนะและการยอมรับ
ผู้อาวุโสและเบบี้บูมเมอร์ ให้ความสำคัญกับข้อเสนอแนะและการยอมรับอย่างเป็นทางการ เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงานและการยอมรับในที่สาธารณะ ขณะที่ เจนเอ็กซ์ ให้ความสำคัญกับข้อเสนอแนะแบบสร้างสรรค์ ที่ช่วยปรับปรุงทักษะและผลการปฏิบัติงาน เจนวายและเจนเอ็กซ์ ให้ความสำคัญกับข้อเสนอแนะที่มีความต่อเนื่องและเรียลไทม์ และการยอมรับแบบไม่เป็นทางการ เช่น คำชมเชยและการชื่นชมจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา ความเข้าใจในวิธีการให้ข้อเสนอแนะนำที่แตกต่างกันนี้ ช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมระหว่างรุ่น
สภาพแวดล้อมแบบร่วมมือร่วมใจในการทำงาน
เจนวายและเจนซี เติบโตในสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างความร่วมมือร่วมใจกัน สนับสนุนการทำงานเป็นทีม การสื่อสารที่เปิดเผย และการตัดสินใจร่วมกัน ชื่นชอบโครงสร้างองค์กรแนวราบ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมจากสมาชิกทีมทุกคน ในทางตรงกันข้าม ผู้อาวุโสและเบบี้บูมเมอร์ คุ้นเคยกับโครงสร้างแบบมีลำดับชั้น บทบาทการทำงานที่ชัดเจน ดั้งนั้น การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สมดุล สามารถตอบสนองการทำงานร่วมกันของคนทุกรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการความแตกต่างระหว่างรุ่น
องค์กรต้องสร้างความเข้าใจ สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังเฉพาะของพนักงานแต่ละรุ่น ความท้าทาย รวมถึงอุปสรรคในการสื่อสาร ครอบคลุมค่านิยมการทำงานที่แตกต่างกัน และความสามารถทางเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน มีนโยบายที่สามารถช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างพนักงานในแต่ละรุ่น
สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่กลมกลืนและใช้ประโยชน์จุดเด่นและความสามารถของแต่ละรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมั่นใจว่าทุกคนมีคุณค่า ได้รับความเคารพ ทำงานแบบยืดหยุ่น พัฒนาตนเองได้ ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ยอมรับความแตกต่าง สร้างความมีส่วนร่วม เพื่อความสำเร็จขององค์กรโดยรวม
โฆษณา