2 พ.ย. 2024 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Sandwich” (แซนด์วิช) อาหารที่มีจุดเริ่มต้นจากการเล่นพนัน

Sandwich (แซนด์วิช) เป็นหนึ่งในอาหารฟาสฟู้ดที่คนทั่วโลกน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งทำมาจากการนำขนมปัง 2 แผ่นมาประกบกัน โดยมีเนื้อสัตว์หรือผักต่าง ๆ อยู่ตรงกลาง แต่หลายคนน่าจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าแซนด์วิชมีความเป็นมาอย่างไร วันนี้ริมปิงจึงมีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
.
เรื่องราวต้นกำเนิดของแซนด์วิชนั้นมีประวัติศาสตร์ค่อนข้างคลุมเครือ แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือแซนด์วิชมีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งเดิมทีแซนด์วิชไม่ได้เป็นชื่อของอาหารแต่อย่างใด แต่เป็นชื่อของเมืองท่าแห่งหนึ่งในอังกฤษ
.
โดยขณะนั้นพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 2 แห่งอังกฤษ (Charles II of England) ได้แต่งตั้ง จอห์น มองตากู ( John Montagu) ให้ดำรงตำแหน่งเอิร์ลที่ 4 (ตำแหน่งขุนนาง) ที่เมืองท่าแห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นที่รู้จักในชื่อเอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 จอห์น มองตากู (Earl of Sandwich IV John Montague)
.
ส่วนเรื่องราวของแซนด์วิชที่เป็นอาหารเกี่ยวข้องกับเอิร์ลที่ 4 แห่งแซนด์วิชได้อย่างไรกล่าวกันว่า ท่านเอิร์ลคนนี้เป็นที่รู้จักในทางเสีย ๆ หาย ๆ มักจะดื่มเหล้าเมามายและติดการพนันเป็นอย่างมาก โดยว่ากันว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อังกฤษแพ้สงครามปฏิวัติของสหรัฐอเมริกา เพราะเมาจนไม่สามารถนำกองทัพเรือใต้บังคับบัญชาไปสมทบกับกองเรืออื่น ๆ ได้
.
มีอยู่วันหนึ่งขณะที่เขาเล่นพนันอยู่ก็ได้รับสั่งให้คนรับใช้นำขนมปัง 2 แผ่นมาประกบกับเนื้อเค็ม เพื่อทานระหว่างเล่นการพนัน เนื่องจากการทานแบบนี้ทำให้เขาไม่ต้องละมือจากการเล่นไพ่ มีความสะดวกไม่ต้องใช้ส้อม และสามารถทานเนื้อสัตว์ได้โดยที่มือไม่สกปรก เมื่อเห็นเช่นนั้นเหล่าขุนนางคนอื่น ๆ ก็เลยทำตามแล้วมักจะสั่งให้คนรับใช้ทำมาให้ โดยสั่งว่าเอาแบบแซนด์วิช จนในที่สุด “แซนด์วิช” ก็กลายมาเป็นชื่อเรียกของอาหาร
.
ต่อมาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้คนเริ่มมีเวลาทานอาหารน้อยลง แซนด์วิชจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน ด้วยความที่เป็นอาหารที่ให้พลังงานมาก พกพาสะดวก และเมื่อชาวอังกฤษเริ่มอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาก็ได้นำไอเดียการทำแซนด์วิชไปเผยแพร่ด้วย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาก็ได้พัฒนาต่อมาเป็นแซนด์วิชเนยถั่วและเยลลี่ หรือ PB & J
.
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แซนด์วิชก็มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศอื่น ๆ โดยผสมผสานวัตถุดิบและรสชาติในท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เช่น ในเม็กซิโกเรียกว่า Torta มักมีไส้เนื้อสัตว์ ถั่ว และอะโวคาโด, ในเวียดนาม เรียกว่าบั๋นหมี่ (Bánh Mì) ทำมาจากบาแก็ตหรือขนมปังฝรั่งเศสสอดไส้ด้วยปาเต้และผักต่าง ๆ และ Cubano จากคิวบา มักทำมาจากชีสและแฮม
.
ปัจจุบันแซนด์วิชกลายเป็นปรากฏการณ์การทำอาหารระดับโลก ซึ่งยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความชอบด้านอาหารและแนวโน้มการทำอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพก็สามารถเลือกทานแซนด์วิชในแบบที่ตัวเองชอบได้ โดยสามารถออกแบบได้ตามใจ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ อย่างประเทศไทยเราเองแซนด์วิชก็เข้ามามีอิทธิพลด้วยเช่นกัน ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เช่นแซนด์วิชโบราณที่ทำมาจากหมูหยองและน้ำสลัดรสหวาน
.
อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องราวของแซนด์วิชมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง ก็มีการกล่าวว่าจริง ๆ แล้วอาหารรูปแบบนี้มีมาตั้งแต่โบราณ การนำขนมปังมาประกบกับเนื้อสัตว์และผักนั้นมีมานานหลายยุคสมัยแล้ว เพียงแต่ชื่อ “แซนด์วิช ” พึ่งจะถูกนำมาเรียกตามเรื่องราวที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
โฆษณา