5 ม.ค. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ทำความรู้จัก “Ciabatta” (เซียบัตต้า) ขนมปังสไตล์อิตาเลียนแบบดั้งเดิม

อิตาลีเป็นดินแดนที่มีชื่อเสียงในด้านอาหารที่หลากหลาย นอกเหนือจากพิซซ่าและพาสต้าแล้วก็ยังมีขนมปังอีกหลายรูปแบบที่ได้รับความนิยม หนึ่งในนั้นก็คือ Ciabatta (เซียบัตต้า) ขนมปังแบบดั้งเดิมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับขนมปังบาแกตต์ของฝรั่งเศส
.
ต้นกำเนิดของ Ciabatta มีประวัติย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ตำนานเล่าว่าในยุคที่ขนมปังบาแกตต์ของฝรั่งเศสเริ่มเฟื่องฟูในอิตาลี Arnaldo Cavallari นักทำขนมปังจากเมือง Adria ในภูมิภาค Veneto จึงพยายามพัฒนาขนมปังสไตล์อิตาเลียนที่สามารถทัดเทียมกับขนมปังบาแกตต์ขึ้นมา เนื่องจากกลัวว่าความนิยมของบาแกตต์แบบฝรั่งเศสจะเข้ามาแทนที่ขนมปังอิตาเลียนแบบดั้งเดิม
.
Cavallari ใช้ส่วนผสมหลักในการทำ Ciabatta เหมือนกับขนมปังบาร์แกตต์ คือ แป้งสาลี น้ำ ยีสต์ และเกลือ แต่จะใช้เวลาในการหมัก และอบแตกต่างกัน โดย Ciabatta จะใช้เวลาในการหมักนานกว่า รวมถึงใช้อุณหภูมิที่สูงกว่าในการอบ ด้วยเหตุนี้ Ciabatta จึงมีความชื้นมากกว่า มีรูพรุนที่ไม่สม่ำเสมอ และเนื้อสัมผัสจะมีความนุ่มกว่าบาแกตต์ นอกจากนี้รูปทรงของ Ciabatta ยังแตกต่างออกไปเป็นทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างอีกด้วย
.
ชื่อ “Ciabatta” แปลว่า “รองเท้าแตะ” ในภาษาอิตาลี ทั้งนี้เนื่องจาก Cavallari เห็นว่าขนมปังชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับรองเท้าแตะของภรรยาเขาที่มีรูปทรงแบนและยาว ดังนั้นเขาจึงเรียกขนมปังนี้ว่า Ciabatta นั่นเอง
เมื่อเวลาผ่านไปขนมปัง Ciabatta ก็ได้รับความนิยมไปทั่วอิตาลี จนนำไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ในปี 1980 ร้านเบเกอรี่และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ตามเมืองต่าง ๆ เริ่มตระหนักถึงศักยภาพของ Ciabatta จึงเริ่มผลิตจำหน่ายกันอย่างล้นหลาม นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Ciabatta ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก
.
Ciabatta ได้รับการเผยแพร่ไปสู่สหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1985 โดย Marks & Spencer จากนั้นก็เริ่มเผยแพร่ไปยังสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1987 โดย Orlando Bakery บริษัทในคลีฟแลนด์ ซึ่งบริษัทแห่งนี้ได้นำคนทำขนมปังจากอิตาลีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และเกิดการผลิตจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากพวกเขาจะพัฒนาขนมปังสดแล้ว พวกเขายังประสบความสำเร็จในการพัฒนา Ciabatta แบบแช่แข็งอีกด้วย
.
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Ciabatta ได้รับการดัดแปลงมามากมาย เพื่อให้เหมาะกับรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกัน แม้ว่าสูตรดั้งเดิมจะใช้ส่วนผสมง่าย ๆ เช่น แป้ง น้ำ ยีสต์ และเกลือ แต่นักทำขนมปังสมัยใหม่ก็ทดลองเติมส่วนผสมต่าง ๆ ลงไป เช่น สมุนไพร ชีส มะกอก รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ เพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย
.
Ciabatta สามารถรับประทานได้หลากหลายรูปแบบ แต่ในอิตาลีส่วนใหญ่จะนิยมทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยจิ้มกับน้ำมันมะกอก แต่อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ Panini แซนด์วิชที่สอดไส้ด้วยเนื้อสัตว์และชีส
โฆษณา