Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปันสุข
•
ติดตาม
17 ก.ย. 2024 เวลา 09:14 • การศึกษา
หยุดทับถมตัวเองด้วยความทุกข์เสียที
ในชีวิตประจำวันของคนทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงชีวิตได้หรือสถานการณ์แบบใดก็ตาม ความทุกข์เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่คุณไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้
แม้คุณจะพยายามหลีกหนีมันสักเท่าใด คุณก็ต้องเผชิญกับความทุกข์อยู่ดี ไม่ว่าความทุกข์นั้นจะมาจากการทำงาน สุขภาพ ปัญหาครอบครัวหรือแม้กระทั่งความกดดันจากสังคมภายนอก
หากนำความทุกข์เก็บไว้จะกลายเป็นขยะรกสมอง เมื่อคุณปล่อยให้ความทุกข์เข้ามาครอบงำและสะสมอยู่ภายในจิตใจเป็นระยะเวลายาวนาน โดยที่ไม่หาทางจัดการ เหมือนการปล่อยใบไม้ให้เลื่อนกลาดพื้นบริเวณรอบบ้าน ไม่ทำการกวาดใบไม้ทิ้งแต่ประการใดฉะนั้น
ร่างกายและจิตใจก็จะเริ่มมีการแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา บางคนก็อาจจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิดง่ายหรือไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพ
การโฟกัสแต่ความทุกข์มากเกินไปจนเกิดความเครียด ความเครียดนั้นก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาทางด้านจิตใจได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า ซึ่งจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ลดลง
ความรู้สึกเหล่านี้ จึงสามารถที่จะทับถมและกดทับจิตใจของคุณให้หนักขึ้น จนกระทั่งคุณอาจรู้สึกเหมือนไม่สามารถอดทนต่อไปได้ ต้องมีการทำร้ายตัวเองหรือพยายามฆ่าตัวตายเพื่อให้หลุดจากความทุกข์เหล่านี้
ดังนั้น การดูแลจิตใจและการจัดการกับความทุกข์จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่คุณจะต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก เมื่อความทุกข์เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ หากปล่อยไว้นานโดยไม่มีการจัดการ ก็อาจจะลุกลามกลายเป็นบาดแผลทางจิตใจที่ยากต่อการรักษา จึงต้องค้นหาวิธีที่จะชะล้างหรือคลายความทุกข์เหล่านั้น
โดยคุณต้องพยายามพาตัวเองออกมาด้วยการหาคนคุยที่คุณไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนหรือคนรัก เป็นต้น การได้ระบายความรู้สึกให้คนอื่นฟัง อาจช่วยบรรเทาความทุกข์ของคุณให้เบาบางลง เพราะการที่ได้พูดคุยกับคนอื่น ๆ เป็นเหมือนกันเปิดมุมมองใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้คิดมาก่อน หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้รู้สึกว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรือแบกรับความทุกข์เพียงลำพัง
การหาคนคุยนั้น คุณควรเลือกประเภทคนคุยให้ดีเพราะการหาคนคุยที่ไว้วางใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่การเลือกคนที่จะพูดคุยด้วยก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยผู้เขียนมองว่า การหาคนคุยที่ดีจะต้องเป็นกัลยาณมิตรคือ มิตรดี[1] ไม่ใช่ปาปมิตรคือ มิตรชั่ว[2] เพราะกัลยาณมิตรจะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำและการสนับสนุนไปในทางที่ดี เข้าใจและสามารถช่วยให้มองปัญหาจากมุมมองที่กว้างขึ้น กระตุ้นให้เกิดการคิดไปในทางที่ดี สร้างแรงบันดาลใจและช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อเผชิญกับความทุกข์
โดยการค้นหาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นกัลยาณมิตรให้ดูลักษณะ ได้แก่ 1 ผู้ที่น่ารักและน่าเคารพ 2 มีความรู้และเป็นแบบอย่างที่ดี 3 ให้คำแนะนำที่ดีและเป็นผู้คอยรับฟังเสมอ 4 อธิบายเรื่องที่ยากให้เข้าใจให้ได้ 5 ไม่แนะนำไปในทางที่ผิด[3] นอกจากนี้ การทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิ การฝึกโยคะหรือแม้แต่การออกกำลังกายอย่างการเดินเล่น เป็นต้น ก็สามารถช่วยให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายและปล่อยวางความเครียดได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับความทุกข์ไหมที่จะเข้ามาในชีวิตต่อจากนี้ ควรที่จะใช้การพิจารณาด้วยปัญญาสืบสาวไปถึงเหตุหรือต้นตอของความทุกข์นั้น โดยใช้หลักของอริยสัจ กล่าวคือ ๑ ทุกขอริยสัจ-รู้ถึงความทุกข์ ๒ สมุทัยอริยสัจ-ละเหตุแห่งความทุกข์ ๓ นิโรธอริยสัจ-ทำให้ปราศจากซึ่งความทุกข์ ๔ มรรค-ลงมือทำให้ความทุกข์หายไป (อย่างถูกต้อง)
การที่จะปล่อยวางความทุกข์ให้ออกไปได้
สิ่งสำคัญคือ อยู่ที่ตัวของคุณเอง ถึงแม้จะมีกัลยาณมิตรและทำกิจกรรมต่าง ๆ.ก็ตาม แต่ภายในจิตใจยังไม่สามารถก้าวข้ามจากความทุกข์ ความพยายามนั้นก็สูญเปล่า ดังนั้น นอกจากการคบหากัลยาณมิตรและการออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้วก็อย่าลืมกำจัดความทุกข์ภายในจิตใจด้วยตัวของคุณเองโดยใช้หลักอริยสัจที่ผู้เขียนได้ยกขึ้น
การกระทำ ๒ ประการ ควบคู่กันไปก็จะทำให้ความทุกข์เหล่านั้นที่ทับถมอยู่ภายในจิตใจจางคลายลงไปจากจิตใจได้ แม้จะไม่ได้เห็นผลในเร็ววัน แต่เชื่อผมเถอะว่ามันจะค่อย ๆ ดีขึ้นไปตามลำดับ และเมื่อสามารถปล่อยวางความทุกข์ได้แล้ว จิตใจก็จะเข้มแข็งขึ้น พร้อมต่อการเผชิญกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
เอกสารอ้างอิง
[1] พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๓ อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต เทวตาวรรค ปฐมโสวจัสสตาสูตร.
[2] พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๒ อังคุตตรนิกาย อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ตติยปัณณาสก์ คิลานวรรค ทุติยอนายุสสาสูตร.
[3] เดิมกัลยาณมิตรมี 7 ข้อ ผู้เขียนย่อให้เหลือ 5 ข้อ เพื่อสะดวกต่อการทำความเข้าใจ กัลยาณมิตรมี 7 ข้อ ได้แก่ (1) เป็นที่รักเป็นที่พอใจ (2) น่าเคารพ (3) เป็นที่ยกย่อง (4) เป็นนักพูด (5) เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ (6) เป็นผู้พูดถ้อยคำลึกซึ้งได้ (7) ไม่ชักนำในอฐานะ จาก พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๓ อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต เทวตาวรรค ทุติยมิตตสูตร.
ไลฟ์สไตล์
ความรู้รอบตัว
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย