30 ก.ย. 2024 เวลา 10:58 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 163

ล้างแค้นโลกบาล (1) ห้าทัพบุกตลาด
กวนเสิ้งนำทัพกลับมาจากหลิงโจว กำลังทยอยข้ามน้ำไปยังหาดทรายทอง พลันพบหมาขนทองต้วนจิ่งจู้รีบร้อนกลับมา หลินชงจึงถามว่า
“ท่านกับหยางหลิน สือหย่งไปหาซื้อม้ากันทางเหนือ ทำไมจึงลุกลี้ลุกลนกลับมาเช่นนี้”
ต้วนจิ่งจู้ว่า “ข้ากับหยางหลิน สือหย่งไปซื้อม้าดีมาได้สองร้อยกว่าตัว ขากลับผ่านมาทางชิงโจว มีโจรกลุ่มหนึ่ง ตัวหัวหน้าเรียกว่า เทพส่งคติภพวี่เป่าสื้อ 险道神郁保四 ลิ่วล้อสองร้อยกว่าคนปล้นเอาม้าทั้งหมดไปให้ตลาดใหม่ตระกูลเจิง 曾头市 (เจิงโถวสื้อ) สือหย่ง หยางหลินไม่ทราบตอนนี้อยู่ที่ไหน ผู้น้องรีบหนีกลับมารายงาน”
กวนเสิ้งให้กลับค่ายกันก่อนแจ้งท่านพี่แล้วค่อยหารือกัน
ทัพยกข้ามน้ำมา แล้วขึ้นมาร่วมชุมนุมกันที่หอธรรมภักดิ์ กวนเสิ้งแนะนำตัวซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อ ส่วนหลี่ขุยเล่าเรื่องราวนับแต่ลงเขาสังหารหันป๋อหลง ได้มาพบเจียวถิ่ง เป้าสวี้แล้วพากันไปตีเมืองหลิงโจว ซ่งเจียงยินดียิ่งนักได้พี่น้องมาเพิ่มอีกสี่คน
ต้วนจิ่งจู้เล่าเรื่องที่ถูกปล้นม้าไป ซ่งเจียงโกรธจัดว่า “คราวที่แล้วขโมยม้าข้าไป คราวนี้ยังลงมืออีก แค้นของท่านโลกบาลเฉายังไม่ได้ชำระ ทุกข์ใจอยู่ทุกวัน หากไม่อาจล้างแค้นนี้ คงต้องถูกคนเย้ยหยัน”
อู๋ย่งว่า “ขณะนี้เป็นวสันตฤดูเหมาะแก่การสงคราม ยกทัพครั้งก่อนเสียเปรียบเรื่องชัยภูมิ ในครั้งนี้ต้องรุกด้วยปัญญา”
ซ่งเจียงว่า “แค้นนี้ฝังแน่นถึงกระดูก ไม่ชำระไม่กลับค่าย”
อู๋ย่งว่า “ให้สือเชียน ชำนาญการไต่รั้วปีนกำแพงไปสอดแนมดูก่อน แล้วค่อยมาหารือ”
สือเชียนไปได้สองสามวัน หยางหลิน สือหย่ง ก็เล็ดลอดกลับมาถึง รายงานว่า สื่อเหวินกง 史文恭 ตลาดใหม่ตระกูลเจิงคุยคำโตว่า ไม่ขออยู่ร่วมโลกกับพวกเขาเหลียงซาน ซ่งเจียงฟังแล้ว ใคร่ยกทัพทันที
อู๋ย่งว่า “รอสือเชียนกลับมารายงานก็ยังไม่สาย”
ซ่งเจียงคับแค้นแน่นอก ใคร่ล้างแค้นโดยไว จึงใช้ให้ไต้จงไปสอดแนมอีกคน แล้วรีบกลับมารายงาน
ผ่านไปไม่กี่วัน ไต้จงกลับมาถึงก่อนรายงานว่า “ทางเจิงโถวสื้อมีเจตนาล้างแค้นให้เมืองหลิงโจว เกณฑ์กำลังทหาร มาตั้งค่ายอยู่ปากทางเข้าตลาด ทั้งยังตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ที่วัดฝ่าหัว 法华寺 รอบตลาดปักธงทิวนับร้อยลี้ หาทางเข้าไปไม่ได้”
วันรุ่งขึ้น สือเชียนกลับมารายงานว่า “ผู้น้องเข้าไปถึงในตลาด สืบได้ความว่า ปัจจุบันมีค่ายทั้งหมดห้าค่าย ที่ปากทางด้านหน้ามีทหารรักษาการอยู่สองพันกว่าคนอยู่ใต้บังคับบัญชาของครูฝึกสื่อเหวินกง ค่ายทางทิศเหนือเจิงถู 曾涂 กับรองครูฝึกซูติ้ง 苏定 ค่ายทางทิศใต้ชายรองเจิงมี่ 曾密 ค่ายทางทิศตะวันตกชายสามเจิงสว่อ 曾索 ค่ายทางทิศตะวันออกชายสี่เจิงขุย 曾魁 ค่ายกลางชายห้าเจิงเซิง 曾升 กับบิดาเจิงน่ง 曾弄 ส่วนเจ้าคนชิงโจววี่เป่าสื้อ ร่างสูงหนึ่งจ้าง เอวใหญ่หนา มีฉายาเทพส่งคติภพ 险道神 นำม้าที่ปล้นพวกเราไป เลี้ยงไว้ในวัดฝ่าหัว”
อู๋ย่งเรียกชุมนุมเหล่าขุนพลว่า “เมื่อทางฝ่ายนั้นมีห้าค่าย ทางเราจะจัดทัพห้าสายเข้าตีแต่ละค่าย”
หลูจวิ้นอี้ลุกขึ้นกล่าวว่า “ผู้แซ่หลูนับแต่ได้รับความช่วยเหลือขึ้นเขามายังไม่มีโอกาสสร้างผลงาน บัดนี้ยินดีพลีชีพเป็นทัพหน้า มิทราบท่านเห็นเช่นไร”
ซ่งเจียงยินดียิ่ง “เมื่อเจ้าสัวยอมลงเขา ก็ให้เป็นทัพหน้า”
อู๋ย่งว่า “ท่านเจ้าสัวเพิ่งมาร่วมกับค่ายเรา อาจยังไม่คุ้นกับค่ายกลพยุหะ อีกทั้งเส้นทางภูเขาขี่ม้าไม่สะดวก ยังไม่สมควรเป็นทัพหน้า ให้นำกองกำลังไปซุ่มยังที่ราบ รอฟังบัญชาทัพ แล้วยกเข้าหนุน”
เจตนาของอู๋ย่งนั้น ไม่ต้องการเปิดโอกาสให้หลูจวิ้นอี้มีโอกาสจับตัวสื่อเหวินกงได้ แล้วซ่งเจียงจะปฏิบัติตามคำสั่งเสียของเฉาไก้ ยกตำแหน่งประมุขให้ จึงขัดขวางไม่ให้หลูจวิ้นอี้ได้เป็นทัพหน้า
ซ่งเจียงกลับมีเจตนาจะให้หลูจวิ้นอี้ได้สร้างผลงาน จะได้ใช้โอกาสนี้สร้างบารมี ทำทียกตำแหน่งประมุขให้
(ซ่งเจียงนั้นรู้ดีว่า การสละตำแหน่งนั้นยากที่จะเกิดขึ้น แม้หลูจวิ้นอี้จะจับสื่อเหวินกงได้ เพราะเหล่าพี่น้องย่อมต้องคัดค้าน และหลูจวิ้นอี้เองก็ไม่กล้ารับ)
อู๋ย่งจึงให้หลูจวิ้นอี้กับเอี้ยนชิงนำทัพพลห้าร้อยไปซุ่มยังที่ราบตำบลหนึ่งรอคำสั่งต่อไป
ส่วนทัพห้าสายทางนั้นจัดดังนี้
ทัพที่เข้าตีค่ายทิศใต้ของเจิงโถวสื้อ ใช้ทัพม้า แม่ทัพอสนีบาตฉินหมิง หลีกว่างน้อยฮวาหยง รองแม่ทัพหม่าหลิน เติ้งเฟย ทหารสามพัน
ค่ายทิศตะวันออกของเจิงโถวสื้อ ใช้ทัพราบ แม่ทัพสงฆ์ลงลายหลู่จื้อเซิน ผู้จาริกอู่ซง รองแม่ทัพข่งหมิง ข่งเลี่ยง ทหารสามพัน
ค่ายทิศเหนือของเจิงโถวสื้อ ใช้ทัพม้า แม่ทัพสัตว์หน้าครามหยางจื้อ มังกรเก้าลายสื่อจิ้น รองแม่ทัพหยางชุน เฉินต๋า ทหารสามพัน
ค่ายทิศตะวันตกของเจิงโถวสื้อ ใช้ทัพราบ แม่ทัพเจ้าเครางามจูถง เสือติดปีกเหลยเหิง รองแม่ทัพโจวยวน โจวยุ่น ทหารสามพัน
ค่ายกลางค่ายหลักของเจิงโถวสื้อ แม่ทัพซ่งกงหมิง เสนาธิการอู๋ย่ง กงซุนเสิ้ง รองแม่ทัพหลวี่ฟาง กวอเสิ้ง เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า ไต้จง สือเชียน ทหารห้าพัน
ทัพหนุนเป็นทัพราบ แม่ทัพพายุหมุนดำหลี่ขุย จอมมารป่วนโลกาฝานยุ่ย รองแม่ทัพเซี่ยงชง หลีกุ่น ทหารห้าพัน
เหล่าหัวหน้าที่เหลืออยู่รักษาค่ายบนเขา
ทางฝ่ายเจิงโถวสื้อหน่วยสอดแนมรายงานเรื่องทัพเหลียงซาน ผู้อาวุโสเจิงจึงเชิญครูฝึกสื่อเหวินกง ซูติ้งมาหารือการศึก
สื่อเหวินกงว่า “พวกเหลียงซานยกกันมามาก เราจะใช้วิธีขุดหลุมพรางดักจับพวกนายทัพ รับมือพวกโจร”
ผู้อาวุโสเจิง ให้ทหารไปขุดหลุมไว้ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านทางทิศใต้และทิศเหนือ ด้านละสิบกว่าหลุมแล้วปูดินพรางไว้ด้านบน
ทางด้านอู๋ย่งให้สือเชียนเข้ามาสอดแนม ไม่กี่วันให้หลังก็กลับมารายงานเรื่องหลุมพรางที่ขุดรอไว้ อู๋ย่งหัวเราะแล้วว่า “ไม่น่าแปลกใจ” แล้วให้เดินทัพต่อไปจนเข้าใกล้ตลาดใหม่ตระกูลเจิง
เวลาราวเที่ยงวัน ทัพส่วนหน้าเห็นชายชุดขาวโพกผ้าเขียวถือทวนสั้นขี่ม้าผูกกระพรวน ผูกรวบหาง จึงเตรียมไล่จับ อู๋ย่งสั่งห้าม แล้วให้ตั้งค่ายขุดคูโดยรอบ โปรยขวากหนามเหล็กลงในคู แล้วสั่งการให้ทัพทั้งห้าตั้งค่ายในลักษณะเดียวกัน ขุดคูรอบโปรยขวากหนามเหล็ก
ตั้งค่ายอยู่สามวัน ไม่เห็นทางเจิงโถวสื้อยกทัพออกรบ อู๋ย่งจึงให้สือเชียนปลอมตัวเข้าไปสืบข่าว และสำรวจตำแหน่งหลุมขุดซุ่มพลว่ามีกี่แห่ง ตั้งอยู่จุดใด สือเชียนเข้าไปสืบข่าว และทำเครื่องหมายลับตามหลุมขุดที่พบแล้วเสร็จในหนึ่งวัน กลับมารายงานกุนซือ
วันรุ่งขึ้น ให้ทหารทัพหน้าแบ่งเป็นสองขบวนนำเครื่องมือไปหากกอ้อและไม้แห้งมาใส่เกวียนเสบียงร้อยคันซ่อนไว้ในค่าย ตกเย็นมีคำสั่งไปยังทุกค่ายนัดหมายให้เตรียมพร้อม เวลายามสื้อ 巳牌 (10:00 น.)วันรุ่งขึ้น ให้ทัพราบทั้งสองทางตะวันออกและตะวันตกเข้าโจมตีค่าย ให้หยางจื้อ สื่อจิ้น นำทัพม้าทางเหนือตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ตีกลองโบกธงโห่ร้อง แต่อย่าเข้าตี
ทางฝ่ายเจิงโถวสื้อ สื่อเหวินกงมีเจตนารอทัพเหลียงซานเป็นฝ่ายเข้าตีค่าย ล่อให้มาตกหลุม เนื่องด้วยหน้าค่ายนั้นเป็นทางแคบยากที่จะเลี่ยง
ยามสื้อวันถัดมา มีเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นที่หน้าค่าย ทัพใหญ่เหลียงซานยกมาตั้งอยู่หน้าประตูทิศใตั
ถัดมา มีรายงานมาจากค่ายตะวันออกว่า “สงฆ์รูปหนึ่งใช้ไม้ขักขระเหล็ก ผู้แสวงบุญใช้มีดศีลคู่ นำทัพเข้าตีค่าย”
สื่อเหวินกงว่า “สองคนนี้ต้องใช่หลู่จื้อเซิน อู่ซงแห่งเหลียงซาน” เกรงว่าจะเพลี่ยงพล้ำ จึงแบ่งกำลังไปช่วยเจิงขุย
ทางค่ายตะวันตกก็รายงานมาว่า
“มีชายฉกรรจ์ไว้เครายาวผู้หนึ่ง ส่วนโจรอีกคนหน้าเหมือนเสือ บนธงเขียนชื่อว่าเจ้าเครางามจูถง เสือติดปีกเหลยเหิง นำทัพเข้าตี”
สื่อเหวินกงจึงแบ่งกำลังอีกส่วนหนึ่งไปช่วยเจิงสว่อ
ด้านหน้าค่ายมีเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง สื่อเหวินกงไม่เคลื่อนพล รอให้อีกฝ่ายรุกเข้ามา จะได้ตกลงในหลุมให้ทหารที่ซุ่มจับมัด
อู๋ย่งให้ทหารม้าแบ่งเป็นสองกอง ออกมาจากหลังเขาโอบเป็นสองปีกมายังหน้าค่าย ให้ทหารราบตรึงแนวด้านหน้าไว้ ไม่ให้รุก ทหารเจิงโถวสื้อที่ซุ่มอยู่หน้าค่าย ถูกทัพม้ารุกไล่มาจากด้านหลัง จึงแตกถอยมาลงหลุมที่ตัวเองขุดรอไว้ทั้งสิ้น
สื่อเหวินกงจะยกทัพออกมาช่วย อู๋ย่งยกแส้ม้าชี้ เสียงม้าล่อดังขึ้น ทหารเข็นเกวียนเชื้อไฟออกมา จุดไฟ แล้วเข็นไปขวางหน้าค่ายเอาไว้ สื่อเหวินกงนำทหารออกมาพบแถวเกวียนไฟเข้าต้องถอยกลับ กงซุนเสิ้งกวัดแกว่งกระบี่ร่ายคาถาเรียกลมโหมไฟพัดใส่ประตูค่ายทางใต้ เผาหอรบและกำแพงค่ายลุกไหม้ เป็นฝ่ายได้ชัย แล้วลั่นม้าล่อให้ถอยทัพกลับค่าย ทางสื่อเหวินกงก็ให้ทหารซ่อมแซมประตูค่าย ต่างฝ่ายต่างตั้งมั่นรักษาค่าย
วันรุ่งขึ้น เจิงถูมาหารือสื่อเหวินกงว่า “หากไม่ตัดหัวแม่ทัพศัตรูบ้าง คงไม่อาจขับไล่ไป” จึงให้สื่อเหวินกงเฝ้าค่าย ส่วนตนนำทหารออกไปท้ารบ
ซ่งเจียงอยู่ที่ทัพหลวง รู้ว่าเจิงถูมาท้ารบ จึงนำหลวี่ฟาง กวอเสิ้งมายังทัพหน้า พอมองเห็นเจิงถู ก็หวนนึกถึงความแค้นที่ยังไม่สะสาง เอาแส้ม้าชี้ว่า 
“ใครจะอาสาจับหมอนี่มาชำระแค้น”
เวินโหวน้อยหลวี่ฟางถือทวนฟางเทียนจี่โผนม้าเข้าหาเจิงถู รบกันได้สามสิบกว่าเพลง กวอเสิ้งยืนม้าดูอยู่เห็นว่าหลังจากผ่านไปสามสิบเพลง เพลงทวนหลวี่ฟางเริ่มรวน ได้แต่ปัดป้อง จึงถือทวนฟางเทียนจี่ควบม้าเข้าช่วยรุมรบ
บนทวนของหลวี่ฟางและกวอเสิ้งต่างมีพู่หางเสือดาว 豹子尾 ทั้งสองใช้ทวนแทงมายังเจิงถู เจิงถูใช้ทวนปัดพู่แดงบนทวนพันติดกับพู่หางเสือดาวทั้งสอง ทวนสามเล่มพันติดกัน ต่างกระชากกันอยู่
หลีกว่างน้อยฮวาหยงมองเห็นดังนั้น เกรงสองคนฝ่ายตนจะพลาดท่า จึงควบม้าขึ้นหน้ามา มือซ้ายคว้าคันธนู มือขวาหยิบดอกศรพาดสาย น้าวธนูเล็งยิงมายังเจิงถู เจิงถูกระชากทวนของตนหลุดออกมาได้ ส่วนทวนอีกสองเล่มยังพันติดกันอยู่ เจิงถูเงื้อทวนแทงใส่ต้นคอของหลวี่ฟาง แต่ลูกธนูของฮวาหยงถึงก่อน พุ่งเสียบแขนซ้ายของเจิงถู จนผงะตกม้า หมวกศึกกระเด็น สองขาชี้ฟ้า หลวี่ฟาง กวอเสิ้ง เสือกทวนคู่แทงเข้าใส่เจิงถูตายคาที่ ทหารของเจิงถูแตกหนีกลับเข้าค่ายแจ้งแก่สื่อเหวินกง แล้วรายงานต่อไปยังค่ายกลาง
ผู้อาวุโสเจิงรู้ข่าวถึงกับปล่อยโฮร่ำไห้ยกใหญ่ ชายห้าเจิงเซิงโกรธจัด ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตวาดลั่น “เตรียมม้า ข้าจะไปล้างแค้นให้พี่” ผู้เฒ่าเจิงห้ามก็ไม่ฟัง เจิงเซิงถือดาบคู่ขึ้นม้าพาทหารมายังค่ายหน้า
สื่อเหวินกงออกมารับเข้าไปในค่ายแล้วกล่าวโน้มน้าวว่า
“ท่านขุนพลน้อยอย่าได้ดูแคลนศัตรู ซ่งเจียงมีทหารกล้าปัญญาดีจำนวนมาก ตามความเห็นอันโง่เขลาของผู้แซ่สื่อ ควรตั้งมั่นรักษาค่ายทั้งห้าให้มั่นคง ให้คนไปยังเมืองหลิงโจว ขอให้ช่วยถวายฎีกาแก่ราชสำนัก ขอให้จัดแม่ทัพฝีมือดีคุมสองกองทัพ ทัพหนึ่งเข้าตีเขาเหลียงซาน อีกทัพหนึ่งมาคุ้มครองเจิงโถวสื้อ ทำให้พวกโจรพะวักพะวน จนต้องถอยทัพกลับเขา ถึงเวลานั้น ผู้แซ่สื่อจะร่วมกับพวกท่านพี่น้องตามล่าสังหาร นับเป็นผลดี”
พูดไม่ทันจบ รองครูฝึกซูติ้งก็มาถึงจากค่ายเหนือ ได้ฟังข้อหารือถึงการตั้งมั่นรักษาค่ายจึงกล่าวเสริมว่า “อู๋ย่งแห่งเหลียงซานผู้นี้เจ้าเล่ห์แสนกล มิอาจดูเบา ควรตั้งมั่นรักษาค่ายจนทัพช่วยเหลือมาถึงจึงค่อยหารือกันใหม่”
เจิงเซิงตะโกนขึ้นมาว่า “ความแค้นฆ่าพี่ ไม่ไปชำระจะให้รอถึงเมื่อไร รอจนโจรมันย่ามใจ ยิ่งไล่กลับลำบาก”
สื่อเหวินกง ซูติ้งพยายามห้ามก็ไม่ฟัง เจิงเซิงนำทหารม้าสิบกว่านายควบออกจากค่ายไปท้ารบ
ซ่งเจียงจึงสั่งให้ทัพหน้ายกออกรบ อสนีบาตฉินหมิง นำทหารออกจากค่าย รำกระบองเตรียมเข้ารบกับเจิงเซิง ก็เห็นหลี่ขุยถือสองขวาน ไม่พูดพล่ามทำเพลง ชิงออกหน้า
 
ฝ่ายตรงข้ามมีคนจำได้บอกว่า “นี่คือพายุหมุนดำหลี่ขุย”
เจิงเซิงคว้าธนูยิงใส่หลี่ขุย
หลี่ขุยนี้ห้าวนัก ออกรบไม่นิยมใส่เสื้อ ที่รอดมาตลอดก็อาศัยโล่หวายของเซี่ยงชง หลีกุ่น มาคราวนี้เสนอหน้าคนเดียว จึงถูกธนูของเจิงเซิงเข้าที่น่อง ถึงเป็นเขาไท่ซานก็ล้มดัง
ทหารม้าด้านหลังเจิงเซิงควบม้ากรูกันเข้ามาจับตัวหลี่ขุย ฉินหมิง ฮวาหยงทุ่มสุดกำลังรบต้านไว้ หม่าหลิน เติ้งเฟย หลวี่ฟาง กวอเสิ้ง เข้ารบพาตัวหลี่ขุยกลับค่าย
เจิงเซิงเห็นขุนพลฝ่ายซ่งเจียงมีมาก จึงไม่รบต่อ รีบนำทหารกลับค่าย
ตอนก่อนหน้า : ขุนพลน้ำไฟ
ตอนถัดไป : สังหารสื่อเหวินกง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา