Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MarketThink
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
2 ต.ค. เวลา 03:00 • การตลาด
สรุป 8 ไอเดียสร้าง “Call to Action” ในคอนเทนต์ ให้คนอยากกด โดยไม่บังคับ
Call to Action ในวงการโฆษณาหรือคอนเทนต์ออนไลน์ หมายถึง คำหรือวลีสั้น ๆ หรืออะไรก็ตามที่กระตุ้นให้คนอ่านเกิดการตอบสนอง และทำอะไรบางอย่างตามที่แบรนด์หรือคนทำคอนเทนต์ต้องการ
เช่น การให้กด “See More”, “Learn More”, “Add to Cart” หรือ “แช็ตเลย”
ซึ่งคำเหล่านี้ ก็มีจุดประสงค์ เช่น
- เข้าไปอ่านคอนเทนต์เพิ่มเติม
- เข้าไปดูโฆษณา
- คลิกเพิ่มสินค้าลงตะกร้าและซื้อสินค้า
- สมัครสมาชิกกับแบรนด์
ความสำคัญของ Call to Action คือทำให้ผู้ชมรู้ว่า พวกเขาต้องทำอะไรต่อไป หลังจากที่ได้ดูโฆษณาหรือคอนเทนต์ แล้วเกิดความสนใจ ไม่ว่าจะอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากซื้อสินค้า
ลองจินตนาการว่า เราดูโฆษณาสินค้าชิ้นหนึ่งที่ทำออกมาดีมาก แล้วเกิดอยากซื้อสินค้าชิ้นนั้นทันที
แต่ไม่มีปุ่มหรือข้อความบอกเราเลยว่า ให้กดซื้อสินค้าตรงไหนหรือต้องทำอะไรต่อ
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราก็คงทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่รู้จะซื้อสินค้าตรงไหนหรือติดต่อกับคนขายอย่างไร
ซึ่งในมุมของผู้ขายสินค้าก็คงเป็นการเสียโอกาสขายสินค้าไปอย่างน่าเสียดาย
หรือร้านค้านั้นอาจจะมีข้อความหรือปุ่มบอกให้ทำแล้ว แต่ไม่มีความน่าดึงดูดใจให้คลิกเลย
เราก็อาจจะเลือกไม่คลิกเข้าไปดูเพื่อซื้อสินค้าชิ้นนั้นก็ได้
ดังนั้น การทำ Call to Action จึงต้องอาศัยความเข้าใจทางจิตวิทยา ผสมผสานกับการตลาดควบคู่ไปด้วยกัน
แล้วเทคนิคการเขียน CTA ให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ชมอยากคลิกเข้าไปต่อ ต้องทำอย่างไร ?
1. ทำความเข้าใจผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา
Call to Action ก็เป็นกิจกรรมทางการตลาดอย่างหนึ่งที่ควรทำความเข้าใจผู้ชมก่อนเป็นอันดับแรก
ไม่ว่าจะเป็น Pain Point, ความชื่นชอบ, ความต้องการ
รวมถึงเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาต้องทำตามที่เราต้องการ และพอทำแล้ว พวกเขาจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง
2. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ เราต้องเข้าใจเป้าหมายของตัวเองก่อนว่า เราจะทำ Call to Action แต่ละอัน ขึ้นมาเพื่ออะไร
โดย 1 Call to Action ควรมีแค่ 1 ประเด็นเท่านั้น ซึ่งตัวอย่างเป้าหมาย เช่น
- ขายสินค้า
- ให้ผู้ชมสมัครสมาชิก
- แนะนำให้ผู้ชมรู้จักสินค้ามากขึ้น
- แสดงความคิดเห็นหรือเขียนรีวิวเกี่ยวกับสินค้า
หลังจากที่เรารู้เป้าหมายที่แน่ชัดแล้ว จึงค่อยหาไอเดียทำ Call to Action ในภายหลัง
ซึ่งจะทำให้เราสร้าง Call to Action ได้อย่างตรงประเด็น และไม่สับสน วกวน
3. ใช้คำที่สั้น ๆ กระชับ แต่ได้ใจความ
CTA ที่ดีจะต้องใช้คำสั้น ๆ กระชับ ได้ใจความ แต่ยังสื่อความหมายได้ชัดเจนและทรงพลัง หลีกเลี่ยงรายละเอียดที่ไม่จำเป็นหรือคำเชื่อมที่มากเกินความจำเป็น
เพื่อทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ทันทีว่า ข้อความนี้ต้องการให้ทำอะไรต่อไป เช่น หยิบใส่ตะกร้า, ซื้อเลย
4. ใช้คำกริยาที่แสดงถึงการกระทำ
คำกริยาคือตัวอย่างคำที่ทรงพลังและทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ทันทีว่า ข้อความหรือปุ่มนั้นต้องการให้ทำอะไรต่อ
เช่น Shop, Buy Now, Add to Cart, Chat, คลิกเลย, อ่านต่อ
5. สร้างความรู้สึกว่าต้องกดทันที
กลยุทธ์นี้คือ การนำ Scarcity Marketing หรือกลยุทธ์การตลาดแบบขาดแคลนเข้ามาช่วย
ทั้งการจำกัดเวลา, การจำกัดจำนวนสินค้า, การจำกัดสถานที่ หรือการนับเวลาถอยหลัง
ซึ่งการสร้างความจำกัดจะทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า ตัวเองจะต้องคลิกทันที ไม่อย่างนั้นอาจพลาดโอกาสดี ๆ ไป
เช่น สมัครสมาชิกวันนี้ รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว หรือรับส่วนลดทันที 20% เมื่อซื้อสินค้าในไลฟ์นี้เท่านั้น
6. ใช้ Call to Action ที่เหมาะสมกับคอนเทนต์
Call to Action ก็ต้องมีความสอดคล้องกลมกลืนกับโฆษณาหรือคอนเทนต์ก่อนหน้าเช่นเดียวกัน
เช่น ถ้าโฆษณาหรือคอนเทนต์มีความวิชาการ แสดงถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญ
Call to Action ก็ควรใช้ภาษาและน้ำเสียงของแบรนด์ที่ไปในทางเดียวกันด้วยอย่าง คลิกเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม
แต่ถ้าโฆษณาหรือคอนเทนต์มีความเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย แสดงถึงความเฟรนด์ลี
Call to Action ก็ควรใช้ภาษาและน้ำเสียงในเชิงเป็นมิตร สร้างความสนิทสนม เช่น อยากได้ข้อมูลเพิ่ม คลิกเลย !
7. วาง Call to Action ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ตำแหน่งการวาง Call to Action ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะตำแหน่งการวางที่ไม่ดี ก็อาจทำให้ผู้ชมหา Call to Action ไม่เจอ หรือรู้สึกรำคาญได้
ส่วนใหญ่ตำแหน่งของ Call to Action มักจะเป็นส่วนท้ายของคอนเทนต์หรือด้านล่างของหน้าจอ
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ยังมองเห็นได้ง่าย และไม่รบกวนสายตาของผู้ชมมากจนเกินไป
8. ทดสอบและทำซ้ำ
Call to Action ที่เราเลือกใช้อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดก็ได้ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้เราควรทำ A/B Testing ด้วย คือหมายความว่า ทดลองทางเลือก A กับทางเลือก B หรือหลาย ๆ ทางเลือก ว่าทางไหนให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน
ทั้งหมดนี้ก็คือ เทคนิคการเขียน Call to Action ที่มีประสิทธิภาพและทำให้ผู้ชมอยากคลิกเข้าไปต่อ
ใครที่กำลังทำคอนเทนต์ หรือขายสินค้าบนโลกออนไลน์อยู่ก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กันได้
1.
https://www.grammarly.com/blog/call-to-action/
2.
https://thedigitaltips.com/blog/news/what-is-cta/
การตลาด
การตลาดออนไลน์
7 บันทึก
8
9
7
8
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย