ตอนที่ 2 ความลับของเจ้ากระต่ายน้อย
หลังจากที่เจ้าหญิงโมดาร์ได้พบกับกระต่ายน้อยพูดได้
กระต่ายน้อยแนะนำตนเองว่าเป็นผู้พิทักษ์แห่งป่าศักดิ์สิทธิ์
ชื่อว่า "มูนโรว์" ซึ่งมีหน้าที่ในการคุ้มครองป่า
และสิ่งมีชีวิตในนั้น โมดาร์รู้สึกประหลาดใจ
แต่ก็โล่งใจที่พบเพื่อนร่วมทางในสถานการณ์ที่น่ากลัวนี้
มูนโรว์เล่าให้โมดาร์ฟังว่าป่าศักดิ์สิทธิ์มีพลังลึกลับ
ที่สามารถปกป้องผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ได้
แต่จะลงโทษผู้ที่มีเจตนาร้ายให้หลงทางตลอดกาล
ทั้งนี้ มูนโรว์ยังบอกว่าในป่านี้มีสมบัติลับ
ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้
แต่ผู้ที่ต้องการครอบครองสมบัตินั้น
ต้องผ่านการทดสอบของป่า
เจ้าหญิงโมดาร์เริ่มรู้สึกว่าเส้นทางในป่าศักดิ์สิทธิ์นี้
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่นางก็ไม่มีทางเลือก
นอกจากเดินหน้าต่อไปเพื่อตามหาวิธีที่จะกลับไปราชวัง
และปกป้องอาณาจักรจากการโจมตีของโจร
กระต่ายมูนโรว์นำโมดาร์ไปยังจุดเริ่มต้นของการทดสอบ
ซึ่งเป็นลานกว้างที่รายล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่
ที่ดูเหมือนกำลังมองมาที่พวกเขา ในขณะเดียวกัน
เจ้าหญิงเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่กำลังเตรียม
ทดสอบความกล้าหาญและความฉลาดของเธอ
สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นเป็นภาพลวงตาที่ทำให้โมดาร์
เห็นตนเองอยู่ในราชวังอีกครั้ง
แต่คราวนี้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนกลับหัวกลับหาง
และโจรที่เข้ามาบุกราชวังกำลังยืนรอเธออยู่ที่ปลายทาง
เจ้าหญิงต้องหาวิธีแก้ไขภาพลวงตานี้เพื่อเดินหน้าต่อ
เมื่อเจ้าหญิงโมดาร์เผชิญหน้ากับภาพลวงตา
ที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและสับสน
นางเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของตนเอง
พลังที่เธอไม่เคยรู้ว่ามีมาก่อน เมื่อเธอพยายามสงบจิตใจ
และเพ่งสมาธิ เสียงกระซิบที่คุ้นเคยดังก้องในหัวใจ
เป็นเสียงของมารดาของเธอที่เคยบอกว่า
"เจ้ามีพลังในตัวเองมากกว่าที่เจ้าคิด
จงเชื่อมั่นในตัวเองและพลังนั้นจะปรากฏ"
โมดาร์หลับตาลง ลมหายใจเริ่มช้าลง
และนางปล่อยให้ความกลัวที่มีอยู่ไหลออกไปจากจิตใจ
ความรู้สึกอุ่นๆ เริ่มต้นจากหัวใจและแผ่ขยายไปทั่วร่างกาย ภาพลวงตาที่เคยเห็นกลับเริ่มจางหายไป
ราชวังที่เคยกลับหัวกลับหางเริ่มกลับคืนสู่สภาพปกติ
และโจรที่เคยคุกคามก็ละลายหายไปเป็นเพียงหมอกควัน
เมื่อโมดาร์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
เธอก็พบว่าตนเองยืนอยู่ในลานกว้างเหมือนเดิม
แต่คราวนี้เธอรู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ในตัว
นางเริ่มเข้าใจว่าพลังนี้ไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น
แต่ยังเป็นพลังที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง
และปกป้องผู้คนได้
มูนโรว์ที่อยู่ใกล้ๆ เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยิ้มด้วยความยินดี
"เจ้าค้นพบพลังของตนเองแล้ว เจ้าหญิง
พลังที่สามารถทำให้ความจริงและจินตนาการ
หลอมรวมกันได้ ใช้มันอย่างชาญฉลาด
แล้วเจ้าและอาณาจักรของเจ้าจะปลอดภัย"
โมดาร์รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น
และพร้อมที่จะเผชิญกับการทดสอบต่อไป
เธอถามมูนโรว์ว่า "การทดสอบครั้งต่อไปคืออะไร?"
กระต่ายน้อยเพียงแต่ยิ้มและกล่าวว่า
"จงตามหาความจริงที่ซ่อนอยู่ในเงามืด แล้วเจ้าจะพบทางออก"
โมดาร์รู้แล้วว่าพลังของเธอ
คือกุญแจสำคัญในการผ่านการทดสอบนี้
และเธอพร้อมจะใช้มันเพื่อนำทางเธอไปสู่เป้าหมาย
หลังจากที่มูนโรว์พาเจ้าหญิงโมดาร์
ผ่านการทดสอบแรกสำเร็จแล้ว
ทั้งสองได้เดินทางลึกเข้าไปในป่าศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
แต่คราวนี้ โมดาร์รู้สึกถึงความรู้สึกที่คุ้นเคย
แต่แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในใจของเธอ
นางไม่สามารถสลัดความรู้สึกนี้ออกไปได้
มันเหมือนกับว่ามีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความรู้สึกนี้
บางสิ่งที่สำคัญต่อเธอมากกว่าที่นางเคยรู้
ขณะที่เดินทางต่อ มูนโรว์ก็เริ่มแสดงท่าทีแปลกๆ
เขาดูเหมือนมีความลับที่ไม่กล้าบอกโมดาร์
และในขณะเดียวกันก็พยายามปกป้องเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุด พวกเขาก็มาถึงน้ำพุแห่งความจริง
ซึ่งเป็นจุดที่สองในการทดสอบ
น้ำพุนี้มีพลังพิเศษที่สามารถ
เผยความจริงทุกอย่างที่ถูกซ่อนไว้ได้
โมดาร์รู้สึกถึงความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างน้ำพุ
กับความรู้สึกที่เธอมีต่อมูนโรว์
เมื่อเธอมองลงไปในน้ำพุ ภาพของเธอเริ่มเบลอ
และแปรเปลี่ยนเป็นภาพของชายหนุ่มผู้หนึ่ง
ที่เธอจำได้อย่างแม่นยำ นั่นคือ "เจ้าชายเอเรน"
คนรักที่หายไปนานแสนนานของเธอ
โมดาร์ไม่เชื่อสายตาของตนเอง
เธอหันไปหามูนโรว์ด้วยความตกใจและทันใดนั้นเอง
กระต่ายน้อยก็เริ่มแปรเปลี่ยนรูปร่างต่อหน้าต่อตาเธอ
มูนโรว์กลายเป็นชายหนุ่มรูปงามที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน
และดวงตาสีเขียว เขาคือเจ้าชายเอเรนที่เธอคิดถึงมาตลอด
แต่กลับถูกสาปให้กลายเป็นกระต่ายน้อย
และต้องเฝ้าดูแลเธอจากระยะไกล
"โมดาร์ ข้าขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงกับเจ้า
ข้าถูกสาปโดยศัตรูของเราเพื่อป้องกัน
ไม่ให้ข้าได้กลับมาหาเจ้า แต่ข้าไม่สามารถทิ้งเจ้าได้
ข้าจึงเลือกที่จะอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อปกป้องเจ้า
และช่วยให้เจ้าค้นพบพลังของตนเอง"
เจ้าชายเอเรนพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก
และความเสียใจ
เจ้าหญิงโมดาร์น้ำตาคลอ
เธอไม่เชื่อว่าคนรักของเธอ
จะอยู่กับเธอตลอดเวลานี้ในรูปแบบของกระต่ายน้อย
เธอเดินเข้าไปใกล้เอเรนและจับมือเขา
"เอเรน ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร
ข้าแค่ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง ข้าไม่ต้องการให้เจ้าจากข้าไปอีก"
เมื่อเจ้าหญิงโมดาร์และเจ้าชายเอเรน
ได้พบกันและกอดกันด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม จู่ๆ
ร่างของเอเรนก็เริ่มสั่นไหวและแปรเปลี่ยน
กลับเป็นกระต่ายน้อยอีกครั้ง
โมดาร์ตกใจและพยายามจับมือเอเรนไว้
แต่ก็ไม่สามารถหยุดการแปลงร่างได้
เมื่อเอเรนกลายเป็นกระต่ายน้อย มูนโรว์อีกครั้ง
เขาก็อธิบายด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้า
"โมดาร์ คำสาปนี้ยังไม่ถูกทำลาย
ข้าสามารถกลายเป็นมนุษย์ได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น
หลังจากนั้น ข้าจะกลับมาเป็นกระต่ายอีกครั้ง
ถ้าพวกเราต้องการทำลายคำสาปนี้
ข้าจะต้องหาเส้นทางในการแก้มัน
ซึ่งอาจต้องเผชิญกับอันตรายและความท้าทายมากมาย"
เจ้าหญิงโมดาร์รู้สึกหนักใจ
แต่ก็มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเจ้าชายเอเรน
ให้กลับมาเป็นมนุษย์อย่างถาวร
เธอตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปกับเอเรน
เพื่อค้นหาวิธีการแก้คำสาป
ทั้งสองเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่
มูนโรว์หรือเอเรนในร่างกระต่ายนำทาง
ไปยังสถานที่ที่คำสาปถูกสร้างขึ้นในอดีต
ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายและปริศนามากมาย
โมดาร์ใช้พลังที่เธอค้นพบในการเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ
และเอเรนก็ใช้เวลาช่วงที่เขาเป็นมนุษย์เพื่อช่วยเหลือ
และให้คำแนะนำในทุกวิถีทาง
ทั้งสองต้องเผชิญกับการทดสอบทางจิตใจและทางกาย
ที่ต้องการความกล้าหาญ ความมั่นคงในจิตใจ
และความรักที่ไม่อาจแตกหักได้
การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ด้วยความรักและความมุ่งมั่น
ทั้งสองคนรู้ว่าพวกเขาสามารถทำลายคำสาปนี้ได้
แสงจันทร์ส่องสว่างผ่านกิ่งไม้สูงส่ง
เผยให้เห็นทางเดินที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ
โมดาร์เดินเคียงคู่กับกระต่ายน้อยมูนโรว์
ผู้ที่เธอเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วคือเจ้าชายเอเรน
คนรักที่เธอเคยคิดว่าสูญหายไปตลอดกาล
หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความเศร้า
และความหวังในเวลาเดียวกัน
“เอเรน… ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้” โมดาร์กระซิบเสียงสั่น เธอเอื้อมมือไปลูบขนสีขาวนุ่มของกระต่ายน้อย มูนโรว์เงยหน้าขึ้นจ้องตาเธอ
และพยายามยิ้มให้กำลังใจ
“โมดาร์ ที่รักของข้า” มูนโรว์เอ่ยเสียงเบา
“คำสาปนี้มันอาจโหดร้าย แต่ข้าก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้
ขอเพียงเรายังมีกันและกัน
ข้าก็พร้อมจะต่อสู้ทุกอย่างไปพร้อมกับเจ้า”
โมดาร์พยักหน้า
ทั้งสองตัดสินใจออกเดินทางไปยังใจกลางของป่าศักดิ์สิทธิ์
เพื่อตามหาพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าจะสามารถคลายคำสาปได้ แต่การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
เพราะป่าศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยดักและภัยอันตราย
ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องพลังเหล่านั้น
ในระหว่างที่เดินผ่านต้นไม้สูงใหญ่
ทันใดนั้นก็มีเถาวัลย์สีดำพลันพันธนาการขาโมดาร์ไว้แน่น
มูนโรว์รีบกระโดดขึ้นไปกัดเถาวัลย์ด้วยฟันเล็กๆ ของเขา
แต่เถาวัลย์ก็กลับฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว
เหมือนไม่เคยถูกทำลาย
“เจ้าปล่อยโมดาร์เดี๋ยวนี้นะ!”
มูนโรว์ตะโกนด้วยความกล้าหาญ
แต่เถาวัลย์เพียงกระชับแน่นขึ้น
โมดาร์มองลงไปที่มูนโรว์และพูดว่า
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะใช้พลังที่ข้าเพิ่งค้นพบเอง!”
โมดาร์หลับตาและเริ่มทำสมาธิ
เธอหายใจเข้าลึกๆ รับรู้ถึงพลังที่ไหลเวียน
อยู่ในร่างกายของเธอ พลังแห่งแสงที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
ว่ามีอยู่ภายใน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น
และทันใดนั้นแสงสว่างจากภายในตัวเธอ
ก็เริ่มเปล่งประกายออกมา
เถาวัลย์ค่อยๆ คลายจากขาของเธอฝเมื่อสัมผัสถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงนั้น เมื่อโมดาร์ลืมตาขึ้น
เธอก็พบว่าแสงจากตัวเธอเองสลายเถาวัลย์
ให้หายไปจนหมดสิ้น มูนโรว์มองโมดาร์ด้วยความประหลาดใจ
“โมดาร์… พลังของเจ้า… นี่คือพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าจริงๆ หรือ?” มูนโรว์เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ข้าเองก็ไม่เคยรู้ว่าข้ามีพลังเช่นนี้… แต่ดูเหมือนว่า
พลังนี้จะตอบสนองเมื่อข้าต้องการปกป้อง”
โมดาร์กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
เธอเริ่มเข้าใจว่าพลังนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญ
ในการช่วยเหลือประชาชนของเธอ
รวมทั้งช่วยเหลือเอเรนจากคำสาปนี้
ทั้งสองเดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางรออะไรอยู่
แต่พวกเขาทั้งสองรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
โมดาร์พร้อมที่จะใช้พลังที่เธอค้นพบ
เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคไปให้ถึงเส้นชัย ในใจของเธอ
เธอสาบานกับตัวเองว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้คำสาปนี้หายไป และคืนความสุขให้แก่ทั้งราชอาณาจักรและคนที่เธอรัก
ตอนนี้การเดินทางของพวกเขาเพิ่งเริ่มต้น
แต่สิ่งที่รออยู่ข้างหน้าอาจยิ่งใหญ่
และอันตรายยิ่งกว่าที่พวกเขาคาดคิด
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
