2 พ.ย. 2024 เวลา 14:43 • นิยาย เรื่องสั้น

ตอนที่ 3 บททดสอบจิตวิญญาณ

เมื่อเดินทางลึกเข้าไปในป่าศักดิ์สิทธิ์
โมดาร์และมูนโรว์พบกับบรรยากาศที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป
รอบตัวพวกเขามีหมอกหนาปกคลุม และความเงียบงัน อันน่าขนลุกทำให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมอง โมดาร์รู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่ธรรมดา ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังทดสอบความมุ่งมั่นของเธอ
“โมดาร์ ระวังตัวด้วยนะ ข้ารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ไม่คุ้นเคย” มูนโรว์กระซิบเตือน หูเล็กๆ ของเขาตั้งชันราวกับเตรียมพร้อมรับมือกับอันตราย
ทันใดนั้น หมอกก็เคลื่อนตัวออกจากกัน เผยให้เห็นทางเดินที่มีแสงสีเงินส่องสว่าง จากต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง เบื้องหน้าของพวกเขาคือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ รากที่บิดเบี้ยวแผ่กิ่งก้าน ลงดินสร้างวงกลมคล้ายกรงขัง
“เจ้าคือใคร ที่กล้าล่วงล้ำดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ราวกับมาจากทุกทิศทาง โมดาร์เงยหน้าขึ้นและเห็นเงามืดของหญิงชราผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในอากาศ
“ข้าโมดาร์ เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรโซลฟารี
ข้าต้องการพลังเพื่อช่วยประชาชนและคนที่ข้ารัก
ข้าขอให้ท่านช่วยเหลือข้า!”
โมดาร์กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
หญิงชรามองเธอด้วยสายตาที่คมกริบ
ราวกับกำลังอ่านจิตใจของเธอ
“การที่เจ้าจะได้รับพลังที่ต้องการ
เจ้าต้องผ่านบททดสอบแห่งจิตใจก่อน”
หญิงชรากล่าว ก่อนที่จะแบมือขึ้นมา
พลันอากาศรอบตัวพวกเขาเปลี่ยนไป
โมดาร์พบว่าตนเองยืนอยู่กลางราชวังที่ลุกเป็นไฟ
เห็นประชาชนของเธอกรีดร้องและหนีตายจากกองเพลิง ทุกอย่างดูสมจริงราวกับเธออยู่ในฝันร้าย
โมดาร์รีบพยายามเข้าไปช่วยประชาชนที่กำลังทุกข์ทรมาน แต่ทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้ ผู้คนก็กลับกลายเป็นภาพลวงตา แล้วหายไปในอากาศ
“เจ้าคิดว่าเจ้าพร้อมจะปกป้องพวกเขาหรือไม่
ในเมื่อเจ้าก็อาจจะไม่รอดด้วยเช่นกัน?”
เสียงของหญิงชราดังขึ้นอีกครั้ง
โมดาร์หลับตา สูดหายใจลึก แล้วตอบกลับอย่างหนักแน่น “ข้าพร้อม ข้าจะไม่ยอมละทิ้งพวกเขา ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของข้า ข้าเชื่อว่าพลังแห่งความรักและความหวังของข้าจะนำทางพวกเขาออกจากความมืดมิดได้”
ทันใดนั้น ภาพฝันร้ายก็สลายไป หญิงชรายิ้มเล็กน้อยด้วยความพอใจ “เจ้าได้ผ่านบททดสอบแรกแล้ว” เธอเอ่ย
หญิงชราหายตัวไปเหลือเพียงแสงสว่างที่ค่อยๆ หลอมรวมกลายเป็นสัญลักษณ์รูปหัวใจซึ่งเปล่งแสง อยู่ในฝ่ามือของโมดาร์
“พลังแห่งจิตใจที่มั่นคงและเสียสละ เจ้าจงเก็บมันไว้ เพราะมันจะนำพาเจ้าไปสู่ทางออกในยามที่เจ้าต้องการที่สุด” เสียงหญิงชราดังขึ้นแผ่วเบาในอากาศ ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
มูนโรว์กระโดดเข้ามาข้างๆ โมดาร์ มองเธอด้วยสายตา ที่เปล่งประกายด้วยความหวัง “โมดาร์ เจ้าไม่เพียงผ่านบททดสอบเท่านั้น แต่เจ้าได้พิสูจน์แล้วว่าเจ้ามีพลังแห่งหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ข้าเชื่อว่าเราจะสามารถคลายคำสาปนี้ได้”
โมดาร์พยักหน้า หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและพลังอันใหม่ที่ได้รับ เธอรู้ว่าเธอต้องเผชิญกับบททดสอบที่หนักหน่วงกว่านี้ แต่เธอพร้อมแล้วที่จะฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อนำความสงบสุขกลับสู่ประชาชนและคนที่เธอรัก
การเดินทางของพวกเขายังไม่สิ้นสุด แต่แสงสว่างแห่งความหวังในหัวใจของเธอได้จุดประกายอย่างชัดเจน
หลังจากโมดาร์และมูนโรว์ผ่านบททดสอบแห่งจิตใจ
พวกเขาได้พลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างที่ช่วยเสริมความมั่นใจในการเดินทางสู่ใจกลางป่าศักดิ์สิทธิ์
ทั้งคู่เดินหน้าต่อโดยไม่หยุดพัก
ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาพร้อมกับเสียงลึกลับที่กระซิบมาจากทุกทิศทาง ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูน่าขนลุกขึ้นทุกที
เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงแอ่งน้ำสีเงินขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยหินเรียงรายที่มีแสงสีฟ้าสลัวส่องออกมาอย่างอ่อนโยน โมดาร์และมูนโรว์หยุดอยู่ตรงนั้น จ้องมองน้ำที่ใสจนเห็นภาพสะท้อนของตัวเอง
“โมดาร์ เจ้ารู้สึกไหมว่าสถานที่นี้มีบางอย่างแปลกๆ?” มูนโรว์กระซิบถาม โมดาร์พยักหน้าอย่างเงียบๆ เธอสัมผัสได้ถึงพลังที่ไม่คุ้นเคยซึ่งค่อยๆ เข้ามาแผ่ซ่านในจิตใจของเธอ
จู่ๆ ก็เกิดเสียงลึกลับดังขึ้นจากกลางแอ่งน้ำ “ผู้ที่ปรารถนาจะข้ามผ่านต้องผ่านการทดสอบแห่งปัญญา หากเจ้าคิดว่าเจ้าพร้อม ให้ก้าวเข้ามาในแอ่งน้ำนี้”
โมดาร์หันมองมูนโรว์ ซึ่งพยักหน้าให้กำลังใจ โมดาร์จึงค่อยๆ ก้าวเข้าไปในแอ่งน้ำอย่างมั่นใจ ทันทีที่เท้าเธอสัมผัสผิวน้ำ โลกทั้งใบพลันเปลี่ยนแปลงไป เธอพบว่าตนเองอยู่กลางทะเลทรายที่กว้างใหญ่ราวไม่มีที่สิ้นสุด แสงอาทิตย์แผดจ้าจนแสบตา แต่รอบๆ ตัวเธอกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของมูนโรว์อยู่ข้างๆ
“ที่นี่มันอะไรกัน? ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” โมดาร์ถามออกมาโดยไม่รู้ว่ามีใครฟังอยู่หรือไม่ แต่แล้วเสียงตอบกลับก็ดังขึ้นในอากาศ
“โมดาร์ เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อตอบคำถามแห่งปัญญา หากเจ้าตอบถูก ความจริงจะปรากฏ หากตอบผิด เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับความลวงที่ไม่สิ้นสุด จงใช้สติปัญญาและหัวใจของเจ้า”
เมื่อเสียงเงียบลง ทันใดนั้นก็ปรากฏเงาชายผู้หนึ่งในชุดสีดำที่ดูท่าทางน่ากลัว เขามองโมดาร์ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความลับ “โมดาร์ เจ้าจงฟังคำถามของข้า สิ่งใดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ แต่ก็เปราะบางที่สุดเช่นกัน?”
โมดาร์นิ่งคิด เธอรู้ว่าคำถามนี้ไม่ง่ายและต้องใช้ความเข้าใจในธรรมชาติของโลก แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ต้องระวังคำตอบของเธออย่างยิ่ง เพราะความผิดพลาดอาจหมายถึงความล่มสลาย
หลังจากพิจารณาคำถาม โมดาร์ก็ตอบกลับอย่างมั่นใจ “ความรัก มันแข็งแกร่งที่สุด เพราะสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้ แต่ก็เปราะบางที่สุดเช่นกัน เพราะเมื่อหัวใจแตกสลาย มันก็กลายเป็นสิ่งที่อ่อนแอและเจ็บปวด”
เงาชายในชุดดำยิ้มเล็กน้อยด้วยความพอใจ “เจ้าตอบถูกแล้ว ความรักคือทั้งความแข็งแกร่งและความเปราะบางในคราเดียวกัน จงก้าวต่อไปเพื่อพบกับบททดสอบแห่งปัญญาขั้นต่อไป”
ทันใดนั้น ทะเลทรายรอบตัวโมดาร์ก็สลายไป เธอกลับมายืนอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าแอ่งน้ำอีกครั้ง และพบว่ามูนโรว์กำลังนั่งรอเธออยู่
“โมดาร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ข้าห่วงเจ้าเหลือเกิน” มูนโรว์ถามอย่างร้อนใจ โมดาร์ยิ้มให้เขา
“ข้าเพิ่งผ่านการทดสอบมา ข้าได้เรียนรู้ว่า ความรักไม่ใช่เพียงความแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นสิ่งที่เราต้องปกป้องอย่างทะนุถนอมเช่นกัน” โมดาร์กล่าว เธอรู้สึกว่าพลังและสติปัญญาของเธอได้เติบโตขึ้น
ทั้งคู่ยังต้องผ่านบททดสอบอื่นๆ อีกหลายบท แต่ความมุ่งมั่นในหัวใจของพวกเขาทำให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ย่อท้อ
เมื่อโมดาร์และมูนโรว์เดินทางลึกเข้าไปในป่าศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาได้พบกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและหลอกลวงมากขึ้นทุกที แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาได้ฝึกฝนความเชื่อมั่นในกันและกันและในพลังของตนเอง
หลังจากผ่านบททดสอบต่างๆ ทั้งเรื่องของความเมตตา ความกล้าหาญ และความยุติธรรม โมดาร์ได้ค้นพบอีกหนึ่งพลังสำคัญที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ นั่นคือพลังแห่งการให้อภัย
บททดสอบสุดท้ายคือบททดสอบที่ต้องเผชิญกับอดีตของเธอ ภาพเงาของการทรยศและความเจ็บปวดในอดีตผุดขึ้นมาทำให้เธอเกือบเสียสมาธิ แต่ด้วยพลังแห่งการให้อภัยที่เธอค้นพบ เธอสามารถปล่อยวางอดีตที่ขมขื่นและก้าวผ่านมันไปได้
สุดท้ายแล้ว โมดาร์และมูนโรว์ก็ได้เข้าถึงจุดหมายในใจกลางของป่าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยคลายคำสาปของมูนโรว์ได้
แสงจากอัญมณีส่องสว่างไปทั่วทั้งป่า โมดาร์ถือมันไว้ในมือ เธอรู้สึกถึงพลังที่บริสุทธิ์และอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้าสู่ใจของเธอ มูนโรว์จ้องมองอัญมณีนั้นด้วยความหวัง
“โมดาร์ หากเจ้าใช้พลังนี้ ข้าอาจกลับคืนเป็นมนุษย์ได้ แต่การใช้พลังนี้จะทำให้เจ้าต้องเสียสละบางอย่าง เจ้าต้องตัดสินใจว่าเจ้ายินดีที่จะทำหรือไม่”
โมดาร์รู้สึกถึงความหนักหน่วงของการตัดสินใจนี้ แต่เธอก็มั่นใจว่าเธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนที่เธอรัก
“เอเรน เจ้าคือความหวังและความสุขของข้า ข้ายินดีเสียสละทุกสิ่งเพื่อนำเจ้ากลับมา” โมดาร์กล่าวด้วยความหนักแน่น
เธอค่อยๆ ยื่นมือไปวางอัญมณีไว้บนหัวใจของมูนโรว์ แสงสว่างจากอัญมณีเปล่งประกายจนกลบทุกสิ่งรอบตัว ทันใดนั้น รูปร่างของมูนโรว์ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง กลายเป็นเจ้าชายเอเรน ผู้ที่โมดาร์คิดถึงมาตลอด
เมื่อแสงหายไป โมดาร์เห็นเอเรนยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น โมดาร์จ้องมองไปที่อัญมณีในมือ
แสงสว่างสีขาวอมฟ้าแผ่ซ่านไปทั่ว
เธอรู้ว่าการใช้พลังนี้จะต้องแลกกับบางสิ่ง
ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอเอง
แม้เธอจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นอะไร
แต่ในใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“เอเรน เจ้าคือความหวังและความสุขของข้า
ข้าพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้า
กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง”
โมดาร์เอ่ยพลางจ้องมองเจ้ากระต่ายน้อย
ที่เป็นเจ้าชายผู้เธอรัก
มูนโรว์ หรือเจ้าชายเอเรน
เงยหน้ามองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยน
“โมดาร์ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าต้องเสียสละเพื่อข้า
ถ้ามันหมายถึงการที่เจ้าจะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไป
ข้าก็ยินดีที่จะอยู่เช่นนี้ตลอดไป
ตราบเท่าที่ข้าได้อยู่เคียงข้างเจ้า”
โมดาร์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบหัวมูนโรว์
“ความสุขของข้าคือการเห็นเจ้ากลับมาเป็นมนุษย์
ข้าเชื่อว่าความรักที่ข้ามีต่อเจ้าและพลังที่ข้าได้รับจากบททดสอบแห่งปัญญาจะช่วยให้เราผ่านไปได้”
เธอค่อยๆ หลับตาลงและรวบรวมพลังจากอัญมณีในมือ ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ
ภายในใจของเธอได้ยินเสียงก้องที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ราวกับเสียงของบรรพบุรุษผู้คุ้มครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้
“จงยอมเสียสละสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเจ้า
หากเจ้ายินดีที่จะทำ เจ้าจะได้รับพลังแห่งการปลดปล่อย
ที่จะช่วยคลายคำสาปนี้ได้”
เสียงนั้นกล่าวเบาๆ แต่ชัดเจนในห้วงจิตใจของเธอ
โมดาร์หลับตาพร้อมกับนึกถึงความรัก
ที่เธอมีต่อเจ้าชายเอเรน เธอตระหนักว่าเธอ
พร้อมจะยอมเสียสละความทรงจำทั้งหมดที่เธอมี
เกี่ยวกับเขา หากสิ่งนี้จะช่วยปลดปล่อยคำสาป
และให้เอเรนกลับมาเป็นมนุษย์ได้
“ข้า โมดาร์ ยินดีที่จะเสียสละความทรงจำทั้งหมด
ที่ข้ามีเกี่ยวกับเจ้าชายเอเรน เพื่อให้เขากลับมา
เป็นมนุษย์อีกครั้ง”
โมดาร์เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น
ทันใดนั้น อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ในมือของเธอส่องสว่างเจิดจ้า แสงนั้นสว่างวาบไปทั่วทั้งป่า และโมดาร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ค่อยๆ ถูกดึงออกจากจิตใจของเธอ ความทรงจำอันงดงามทุกฉากทุกตอนที่เธอมีกับเอเรนเริ่มเลือนหายไป เหลือเพียงความรู้สึกบางเบาที่กำลังจะจางลงเรื่อยๆ
มูนโรว์เฝ้ามองเธอด้วยความเจ็บปวด “โมดาร์ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าไม่อยากให้เจ้าลืมเรื่องราวของเรา”
แต่แสงจากอัญมณีก็ได้เริ่มทำงานอย่างเต็มที่ ร่างของมูนโรว์ค่อยๆ ส่องสว่างและเปลี่ยนรูปร่างจากกระต่ายกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ท่ามกลางแสงที่ส่องประกาย ร่างของเจ้าชายเอเรนค่อยๆ ปรากฏขึ้นเป็นชายหนุ่มที่งดงามดังเดิม
เมื่อแสงสว่างค่อยๆ จางลง โมดาร์ลืมตาขึ้น เธอมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แต่ในใจกลับว่างเปล่า ราวกับว่าเธอไม่รู้จักเขา
เอเรนยิ้มด้วยแววตาเศร้า “โมดาร์…ข้าเป็นเจ้าชายเอเรน ผู้ที่เจ้าช่วยเหลือและยอมเสียสละเพื่อข้า ขอบคุณเจ้ามาก แต่ข้าเสียใจที่เจ้าได้ลืมข้าไปแล้ว”
โมดาร์มองเขาด้วยความสับสน เธอจำไม่ได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างประหลาด เธอยกมือขึ้นจับที่หัวใจของตนเอง “ข้าอาจจำไม่ได้ว่าเราเคยรู้จักกันเช่นไร แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นคนที่สำคัญกับข้า”
เอเรนเดินเข้าไปหาเธอ ยื่นมือมาแตะไหล่ของเธอเบาๆ “ไม่เป็นไร โมดาร์ ไม่ว่าเจ้าจะจำข้าได้หรือไม่ ข้าจะยังคงอยู่เคียงข้างเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกถึงความรัก ที่เรามีต่อกันอีกครั้ง”
ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกันท่ามกลางแสงอ่อนๆ ของป่าศักดิ์สิทธิ์ แม้ความทรงจำอาจถูกลบเลือนไป แต่ความผูกพันที่พวกเขามีต่อกันยังคงเหลืออยู่ราวกับสายลมอันอ่อนโยนที่พัดพา ความอบอุ่นเข้ามาในหัวใจ
ด้วยพลังแห่งการเสียสละและความรักที่ไม่มีวันจางหาย โมดาร์และเอเรนตัดสินใจที่จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ไปด้วยกัน พวกเขาตั้งใจที่จะสร้างอนาคตใหม่ และกลับคืนสู่ประชาชนพร้อมความหวังและสันติสุข
การผจญภัยของโมดาร์และเอเรนยังไม่สิ้นสุด บททดสอบในป่าศักดิ์สิทธิ์ได้มอบความเข้มแข็ง ความรัก และการเสียสละให้แก่พวกเขา และพวกเขาจะนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้เพื่อปกป้องอาณาจักรและประชาชนของพวกเขาตลอดไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา