Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สันติ ผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ
•
ติดตาม
19 พ.ย. 2024 เวลา 01:13 • ครอบครัว & เด็ก
พระเจ้าไม่ทำงานด้วย..ไม่มี
มาระโก 2:1-12 THSV11
[1] หลังจากผ่านไปหลายวัน พระองค์เสด็จเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุมอีก เมื่อคนทั้งหลายได้ยินว่าพระองค์ประทับอยู่ที่บ้าน [2] คนจำนวนมากก็มาชุมนุมกันจนล้นออกไปถึงนอกประตู ขณะที่พระองค์กล่าวพระวจนะให้พวกเขาฟังอยู่นั้น [3] มีคนสี่คนหามคนง่อยคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์
[4] แต่เมื่อพวกเขาไม่สามารถเข้าไปถึงตัวของพระองค์เพราะมีคนมาก พวกเขาจึงเจาะดาดฟ้าตรงที่พระองค์ประทับนั้น และเมื่อทำเป็นช่องแล้ว พวกเขาก็หย่อนแคร่ที่คนง่อยนอนอยู่ลงไป [5] เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นความเชื่อของพวกเขา พระองค์จึงตรัสกับคนง่อยว่า “ลูกเอ๋ย บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว”
[6] แต่มีพวกธรรมาจารย์บางคนนั่งอยู่ที่นั่นและคิดในใจว่า [7] “ทำไมคนนี้พูดอย่างนี้ หมิ่นประมาทพระเจ้านี่ ใครจะอภัยบาปได้นอกจากพระเจ้าองค์เดียว” [8] พระเยซูทรงทราบในพระทัยทันทีว่าพวกเขาสนทนากันในหมู่พวกเขาอย่างนั้น จึงตรัสว่า “ทำไมพวกท่านถึงคิดในใจอย่างนี้ [9] การที่พูดกับคนง่อยว่า ‘บาปต่างๆ ของท่านได้รับการอภัยแล้ว’ กับการพูดว่า ‘จงลุกขึ้นยกแคร่เดินไปเถิด’ แบบไหนจะง่ายกว่ากัน
[10] ทั้งนี้เพื่อให้พวกท่านรู้ว่าบุตรมนุษย์มีสิทธิอำนาจในโลกที่จะอภัยบาปได้” พระองค์จึงตรัสสั่งคนง่อยว่า [11] “เราสั่งท่านว่า จงลุกขึ้นยกแคร่แล้วกลับบ้านของท่าน” [12] คนง่อยก็ลุกขึ้น แล้วยกแคร่ของตนทันที เดินออกไปต่อหน้าคนทั้งหลาย ทุกคนก็ประหลาดใจและสรรเสริญพระเจ้ากล่าวว่า “เราไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้เลย”
https://bible.com/bible/174/mrk.2.1-12.THSV11
ประมาณว่าความบังเอิญไม่มีจริงนั่นแหล่ะครับ ก็มีช่วงเวลาที่ผมรู้สึกทุกข์ทรมานกับสภาพชีวิตของตัวเอง ไม่สามารถขอบคุณหรือสรรเสริญพระเจ้าได้กับสภาพที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะเป็นคนที่คนทั่วไปถือนับว่าเป็นผู้เผยแพร่เรื่องราวของพระเจ้าครับ
ก็มีโอกาสได้คิดได้คุยกับผู้รับใช้ของพระเจ้าหลายคน แล้วผมก็ได้กลับมาคิดแบบนี้ครับว่าผมเองก็ไม่ได้เชื่อพระคำที่บอกว่าผมนั้นสมบูรณ์แล้วโดยพระเยซู ไม่มีความจำเป็นที่ผมจะต้องทำอะไรอีกเพื่อจะให้ตัวเองนั้นสมบูรณ์ ครับ กับทุกสภาพที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผมไม่ว่าจะดีหรือร้ายไม่ได้เปลี่ยนแปลงกับความจริงนี้ครับ
การเผยแพร่ประกาศความจริงนี้ให้กับคนอื่นที่ยังไม่รู้ผมก็ทำ เพราะมันรู้สึกอึดอัดอดไม่ได้ที่จะต้องบอกกับคนอื่นที่ยังไม่รู้กับความจริงนี้ เหมือนเห็นคนที่กำลังพากันเดินไปลงเหวครับ แต่ความจริงมันเป็นจิตใจที่พระเจ้าให้กับผมเรื่อยๆ
แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนประกาศยากขึ้นเพราะมันมีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะกว่าแต่ก่อนที่ผมเป็นเด็กๆมากเลยครับ ต้องปรับแนวทางการประกาศ ต้องหาวิธีการรูปแบบใหม่ๆ ไม่งั้นผู้คนก็จะไม่สนใจติดตามมาเลยครับ
ผมมองกับหลายโบสถ์ก็พยายามปรับรูปแบบให้น่าสนใจเพื่อจะดึงดูดผู้คนให้เข้ามาในโบสถ์ของตน แต่สุดท้ายผมก็ได้ข้อสรุปครับว่ายังไงก็ต้องพามาให้ถึงข่าวประเสริฐของพระเจ้าซึ่งออกมาจากคริสตจักรของพระเจ้าครับ ผมเห็นว่าปัญหาใหญ่ของหลายโบสถ์คือตรงนี้ครับ คือไม่นำคนมาถึงคริสตจักร แค่นำคนมาถึงจุดที่แค่ได้รู้ว่ามีพระเจ้าที่รักมนุษย์จริงๆ แต่ไม่สามารถจะนำผู้คนให้กลับเข้าไปถึงพระเจ้าได้ครับ เหมือนส่งคนไปให้ถึงฝั่งไม่ได้ แค่ให้รู้เฉยๆว่าควรจะข้ามไปฝั่งตรงข้าม หลายๆโบสถ์ก็กำลังทำได้แค่นี้จริงๆ
ก็จนกว่าพวกเขาจะนำคนไปส่งให้ถึงคริสตจักรเท่านั้น คนเหล่านั้นที่พวกเขาพามาจึงจะสามารถไปถึงพระเจ้าได้ครับ คริสตจักรก็เปรียบเหมือนกับชายสี่คนหามในพระคำตอนนี้ที่สามารถจะพาคนง่อยไปส่งให้ถึงพระเยซูผู้สามารถจะรักษาให้หายโรคได้แบบนี้ครับ
หลายโบสถ์ตอนนี้ก็เลยเหนื่อยครับกับการพยายามจะเก็บรักษาเองกับผู้คนที่เผยแพร่พามา คิดแต่ว่าจะยื้อคนเอาไว้กับโบสถ์ตัวเองได้ยังไง หมดเวลาไปกับเรื่องแบบนี้ คนใหม่มาคนเก่าไปเพราะเห็นว่าอยู่ที่นี่แล้วไม่ได้ดั่งใจ สุดท้ายเสียเวลาชีวิตไปเฉยๆ จบที่ปิดตัวลง
แต่ทั้งตัวเองทั้งคนเหล่านั้นจะคนใหม่คนเก่าก็ยังจมอยู่กับความบาป สภาพจึงเหมือนคนตาบอดจูงนำคนตาบอดครับ สุดท้ายจึงได้แต่พากันไปตายด้วยกันเท่านั้นครับ
เพราะถ้ายังมาไม่ถึงคริสตจักร มนุษย์ก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นออกจากการเป็นทาสของบาปได้เลยครับ ต่อให้ท่องจำรู้พระคัมภีร์ได้ทั้งเล่มก็ได้แค่ความรู้เท่านั้นครับ
หลายโบถส์ตอนนี้จึงเหมือนคนที่กำลังหอบไฟหอบระเบิดเวลาไว้กับตัวครับ กับการพยายามจะดูแลรับผิดชอบกับคนที่หาเข้ามาเป็นสมาชิกครับ กับมนุษย์ที่ยังมาไม่ถึงพระเจ้ายังมาไม่ถึงคริสตจักร ยังเป็นคนบาปมันน่ากลัวแบบนั้น
ก่อนจะถึงวันนั้น รีบกลับใจก็ดีกว่า ตอนนี้พระเจ้าก็ให้คริสตจักรของพระองค์ลงมาตั้งแต่กว่าสองพันปีที่แล้ว ก็ควรจะรีบเข้ามา จะหอบเก็บรักษาสิ่งต่างๆเอาไว้ด้วยตัวเองให้เป็นภาระต่อไปทำไมครับ สุดท้ายก็ได้แต่เผาไหม้ตัวเองให้พินาศไปเท่านั้น
ใช่ครับ ผมเข้าใจนะว่าทุกวันนี้การล่อลวงมันเยอะมาก จนทำให้ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง แม้กับพระนามพระเจ้า พระเยซูหรือคริสตจักร ก็มีคนใช้ชื่อเหล่านี้หาเลี้ยงปากท้องตัวเอง แต่มันก็ต้องเปิดใจเผื่อด้วยว่าเผื่อเจอกับความจริง ได้เจอกับคนของพระเจ้าจริงๆ ไม่ใช่ไม่ฟังเลย ปิดหมดไม่ฟังเลยมันก็เกินไป
ทุกวันนี้ก็มีคนของพระเจ้าจากคริสตจักรออกประกาศเผยแพร่ความจริงจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลด้วย ไม่ใช่มีแต่ผู้เผยพระวจนะเท็จอย่างเดียว ถ้าบ้านคุณเคยถูกไฟไหม้แล้วคุณจะปิดใจกับไฟ ไม่เอาไม่ใช้ประโยชน์จากไฟเลยเหรอมันก็ไม่ใช่ใช่ไหมครับ เหมือนกัน เคยถูกหลอกมามาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกหลอกไปตลอด ถ้าอยากจะพบกับความจริงแท้ พระเจ้าให้ได้พบแน่นอนครับ
ก็สามารถที่จะตรวจสอบได้จากสิ่งที่พวกเขาสอนอ้างมาจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลไหม ดูจากชีวิตของพวกเขาว่ากำลังติดตามสิ่งที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลสอนไว้ไหม ฟังแล้วมันช่วยให้เป็นอิสรจากบาปหรือภาระหนักไหม?
ตอนนี้ในโลกกับกลุ่มผู้ที่บอกว่าเชื่อพระเจ้าก็มีหลายกลุ่มมากเลย ก็ใช้พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับเดียวกันเลยก็มาก แต่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ทำไมล่ะ? เพาะรากจริงๆ ของพวกเขาคืออยากทำตามใจตัวเอง อยากเป็นพระเจ้าเสียเอง จึงอยู่ร่วมกับคนอื่นที่ไม่ตามใจตัวเองไม่ได้ครับ คนพวกนี้ความคิดตัวเองใหญ่กว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ล แค่เอาพระคัมภีร์ฯ มาประดับมาอ้างเฉยๆ แต่ไม่ได้ติดตามครับ
พอมีใจแบบนี้ แม้ได้เจอกับคนของพระเจ้าที่มาจากคริสตจักรจริงๆ เขาก็ไม่ยอมทิ้งครับกับตัวเอง เหมือนพวกฟาริสีสะดูสีในสมัยพระเยซู เขาเกลียดเขาต่อต้านกับพระเยซูก็เพราะรากปัญหาจริงๆของพวกเขาก็คือเรื่องนี้ คือความจริงกำลังเป็นทาสเป็นเครื่องมือให้กับมารซาตานต่อต้านพระเจ้าครับ
มนุษย์น่ะกลายเป็นคนบาป เป็นทาสของมารซาตานไปแล้ว ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นออกจากอำนาจของเขาได้ด้วยกำลังความสามารถของตัวเอง คริสตจักรเท่านั้นที่สามารถจะช่วยด้วยพระคัมภีร์ฯ ให้หลุดพ้นออกมาได้ครับ ภาพของคนง่อยกำลังเปรียบเทียบถึงมนุษย์ทุกคนและภาพของเพื่อนสี่คนที่สามารถช่วยกันหามพาไปส่งให้กับพระเยซูรักษาให้หาย กำลังเปรียบเหมือนกับคนของพระเจ้าหรือคริสตจักรนี้ครับ
พัฒนาตัวเอง
ข่าวรอบโลก
เรื่องเล่า
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย