2 มี.ค. เวลา 01:00 • ข่าวรอบโลก

วาระประวัติศาสตร์ เมื่ออเมริกาจะมีภาษาประจำชาติเป็นของตนเอง

“อเมริกา ต้องมาก่อน” คำขวัญประจำตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่มาของนโยบายชาตินิยมมากมายที่ทรัมป์กำลังเร่งดำเนินการ ทรัมป์เห็นว่าอเมริกาต้องเป็นหนึ่งเดียว แต่กลับพบว่า “อเมริกาไม่มีภาษาประจำชาติ”
.
สหรัฐอเมริกาไม่เคยมีภาษาประจำชาติในระดับรัฐบาลกลางเลยตลอดประวัติศาสตร์เกือบ 250 ปี สหรัฐอเมริกาไม่มีภาษาทางการ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในสหรัฐอเมริกา และบางรัฐก็กำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ แต่ก็มีบางรัฐใช้ภาษาพื้นเมืองเป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาอังกฤษ เช่น รัฐฮาวายมีภาษาฮาวายที่เรียกว่า Ōlelo Hawaiʻi ซึ่งเป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาอังกฤษ ส่วน รัฐอลาสก้ามีภาษาพื้นเมือง 20 ภาษาเป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาอังกฤษ ส่วนเซาท์ดาโกต้านั้นใช้ภาษาพื้นเมืองอย่างเป็นทางการ
.
เมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของสหรัฐอเมริกา ในการรับผู้อพยพจากทั่วโลก จึงมีการพูดภาษาต่างๆ หลายร้อยภาษาในบ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาสเปน
.
สำนักงานสำมะโนประชากรระบุว่ามีการพูดภาษาต่างๆ มากกว่า 350 ภาษาในสหรัฐอเมริกา โดยภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ได้แก่ สเปน จีน ตากาล็อก เวียดนาม และอาหรับ
.
แม้ว่าคนอเมริกันมากกว่าสามในสี่คนจะพูดเฉพาะภาษาอังกฤษที่บ้าน แต่ในประเทศมีผู้พูดภาษาสเปนประมาณ 42 ล้านคน และผู้พูดภาษาจีนประมาณ 3 ล้านคน
1
ทรัมป์วางแผนลงนามคำสั่งกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสหรัฐอเมริกา คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้จะเป็นการกำหนดภาษาประจำชาติของสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ และคำสั่งดังกล่าวยังถือเป็นการเพิกถอนคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันที่กำหนดให้รัฐบาลและองค์กรที่ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือด้านภาษาแก่ผู้ที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ
.
การมีภาษาทางการหมายถึงอะไร?
สถาบันระหว่างประเทศเพื่อประชาธิปไตยและความช่วยเหลือการเลือกตั้ง ให้คำจำกัดความว่า ภาษาทางการคือ ภาษาที่รัฐบาลใช้ในการทำธุรกิจอย่างเป็นทางการในชีวิตประจำวัน การมีภาษาทางการอย่างน้อยหนึ่งภาษาสามารถช่วยกำหนดลักษณะเฉพาะของประเทศและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นได้ และการให้ความสำคัญกับภาษาใดภาษาหนึ่งอาจทำให้คนบางคนมีอำนาจและกีดกันคนบางคนที่ไม่ยอมรับภาษานั้นออกไป
.
ทำเนียบขาวระบุว่า การประกาศให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาตินั้น “ช่วยส่งเสริมความสามัคคี สร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงานของรัฐบาล และสร้างช่องทางสำหรับการมีส่วนร่วมของพลเมือง”
กลุ่มเยาวชน United We Dream ซึ่งเป็นเครือข่ายเยาวชนผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่ทรัมป์กำลังพยายามทำอยู่ เบื้องหลังนโยบายนี้เป้าหมายอยู่ที่ผู้อพยพและคนผิวสี ซึ่งเป็นชุมชนที่พูดภาษาอื่น นอกจากนี้ คำสั่งที่วางแผนไว้นี้ยังอาจทำให้เกิดการต่อต้านจากดินแดนเปอร์โตริโกของอเมริกา ซึ่งผู้อยู่อาศัยร้อยละ 94 พูดภาษาสเปน
คำสั่งของประธานาธิบดีที่ประกาศให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการเพียงภาษาเดียวของสหรัฐฯ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอัตลักษณ์อเมริกันที่ขัดแย้งกับอัตลักษณ์ชาวเปอร์โตริโกของเรา
ปาโบล โฮเซ เอร์นันเดซ ริเวรา กรรมาธิการประจำเปอร์โตริโกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีสิทธิออกเสียง  กล่าว
รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์กำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ รัฐบาลทรัมป์ได้ลบเว็บไซต์ทำเนียบขาวเวอร์ชันภาษาสเปนออกเกือบจะทันที
.
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นคำสั่งฝ่ายบริหารชาตินิยมเชิงสัญลักษณ์ล่าสุดในชุดคำสั่งต่างๆ รวมทั้งคำสั่งเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกาในเอกสารอย่างเป็นทางการของรัฐบาล และการเปลี่ยนชื่อภูเขาเดนาลี ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในอเมริกาเหนือ เป็นภูเขาแมกคินลีย์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนชื่อพื้นเมืองอเมริกันเป็นชื่อของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา.
โฆษณา