หยุดยิงไหม อยู่ที่รัสเซียแล้ว…แต่บอกเลยว่ายาก
การคุยกันของสหรัฐและยูเครนล่าสุด
ได้ข้อตกลงที่ดูไม่เลวนักสำหรับยูเครนเอง
คืออย่างน้อยก็ได้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรอง
จากสหรัฐกลับมา ถึงอาจเป็นแค่ในส่วนของการป้องกัน
ภัยทางอากาศ ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียของพลเรือนก็ตาม
แลกกับต้องยอมรับข้อเสนอหยุดยิง”เบื้องต้น” 30 วัน
เพื่อดูท่าที ถ้าทุกอย่างโอเค ก็จะขยายเวลาออกไป
จนนำไปสู่การหยุดยิงถาวร และการรับประกันสันติภาพ
ส่วนสหรัฐ ก็ได้รับโอกาสครั้งใหม่ ในการเข้าไปลงทุน
ทำเหมืองแร่หายาก หากทุกอย่างจบลง
…ซึ่งถึงตอนนี้ ทุกอย่างอยู่ที่รัสเซียแล้ว ว่าจะหยุดด้วยไหม…
…เพราะถ้าไม่หยุด ยูเครนก็คงหยุดไม่ได้เช่นกัน…
ข่าวกรองสหรัฐ คือที่สุด และไม่สามารถมีใครทดแทนได้
ในระยะเวลาอันสั้น สำหรับพันธมิตรของพวกเขาทุกชาติ
จะอิสราเอล ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ พวกนี้ทั้งนั้นแหละ
ถ้าพวกเขาเสียข่าวกรองสหรัฐ
พวกเขาจะเหมือนถูกลดศักยภาพลงมากมาย
เหตุผลอยู่บนชั้นบรรยากาศ สหรัฐมีดาวเทียมที่ใช้งาน
ทางการทหารมากที่สุดในโลก นับพันดวง กระจายทั่วโลก
ยังไม่ต้องไปนับดาวเทียมไฮบริดของรัฐที่ปกติใช้งานอื่น
แต่ก็มีประโยชน์ทางการทหาร เช่น ดาวเทียมสำรวจทางธรณีวิทยา ที่เคยช่วยอิสราเอลถล่มอิหร่าน
และยังมีดาวเทียมเอกชนที่สหรัฐเรียกใช้ข้อมูล
ได้ตลอดเวลาตามกฎหมายด้านความมั่นคง อีกเพียบ
ไม่ชัดเจน ว่าสหรัฐมีเท่าไหร่ แต่มีรายงานว่าดาวเทียม
90% ที่อยู่ในชั้นบรรยากาศตอนนี้ เป็นของสหรัฐ
หรือเป็นดาวเทียมที่สหรัฐเรียกข้อมูลได้ ถ้าต้องการ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เมื่อสหรัฐสั่งระงับความช่วยเหลือ
ด้านข่าวกรองแค่ไม่กี่วัน ทำให้ยูเครนนั้นเสียเปรียบ
และสูญเสียมากทั้งในแง่การรุก และรับ แบบไม่เคยเกิดมาก่อน
หลังจากช่วงแรกของสงคราม
การกลับลำของสหรัฐนั้น คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการเมือง
ภายในของสหรัฐเอง
เพราะรัฐบาลทรัมป์ ถูกระหน่ำจากทุกทาง
แม้แต่ฝ่ายที่ต้องการให้สงครามจบ
ไม่นับเรื่องข่าวการเป็นสหาย Krasnov ของทรัมป์เองนะ
แต่ฝ่ายยุทธศาสตร์ให้เหตุผลว่า การบีบยูเครน
โดยการตัดไปเลยในทุกแง่มุมนั้นไม่สามารถกดดัน
ทั้งยูเครนและรัสเซียได้
กล่าวคือ ถ้าต้องการกดดันยูเครน แต่ถนอมน้ำใจรัสเซีย
เพื่อให้ขึ้นโต๊ะเจรจารับเงื่อนไข
ก็ควรจะตัดแต่ข่าวกรองในการรุกของยูเครน
โดยยังสนับสนุนด้านการป้องกันตัวเองของยูเครน
เช่น การแจ้งเตือนการอพยพ หรือล็อกเป้าอาวุธต่อต้าน
เพื่อรับมือกับการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายนอกสมรภูมิ
อธิบายง่ายๆ คือ ถ้ารัสเซียยิงมา สหรัฐตัองเตือน ชี้เป้า
ให้ยูเครนป้องกันตัวเพื่อเซฟพลเรือน
เพราะรัสเซียโจมตีเป้าหมายพลเรือน ระบบสาธารณูปโภค
ค่อนข้างเยอะกว่าในสมรภูมิเสียอีก
แต่สหรัฐไม่จำเป็นต้องชี้เป้าให้ยูเครนจู่โจมเป้าหมายในรัสเซีย
เหตุผลในทางการเมืองสหรัฐ คือ การที่ทรัมป์ตัดทั้งหมด
เขาถูกด่ายับเยิน ว่ายอมรัสเซียมากไป และเป็นตัวการ
ให้ยูเครนสูญเสียพลเรือนมากขึ้น ในการโจมตีช่วงนี้
ทำให้คนสหรัฐเองมองว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
และเริ่มกดดันให้สนับสนุนยูเครนต่ออีกแล้ว
ซึ่งมันไม่ดีนักทางการเมืองของทรัมป์เอง
เนื่องจากฝ่ายขวาในอเมริกาซึ่งสนับสนุนทรัมป์เอง
ต้องการให้บีบรัสเซียด้วยไม่ใช่แค่ยูเครน
ไม่ใช่ยอมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนกลายเป็นที่ครหา
และถูกโลกมองเป็นคนทรยศแบบนี้
ส่วนเหตุผลในสงคราม คือ ถ้าสหรัฐทิ้งไปเลยทุกทาง
รัสเซียจะชนะได้ง่ายขึ้นแบบเด็ดขาด
ซึ่งแบบนั้นยูเครนก็คงไม่ยอมในการเจรจาใดๆ
และสหรัฐเองก็จะไม่ได้อะไรเลยไปด้วย
…ดังนั้น การที่สหรัฐจะช่วยในการป้องกันเพียงอย่างเดียว
หรือการรุกในระดับที่เหมาะสม จะให้ผลดีที่สุดในทุกทาง
สำหรับผลประโยชน์ของสหรัฐ….
ยูเครนยอมแล้ว แต่กับรัสเซีย ไม่ง่าย!
การที่สหรัฐตัดความช่วยเหลือด้านข่าวกรองเพียงไม่กี่วัน
ทำให้รัสเซียสามารถรุกคืบ กดดันยูเครนได้มากที่สุด
ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
ไม่มีความชัดเจนว่า มันมากพอจะเปลี่ยนสมรภูมิ
ในแบบที่รัสเซียได้เปรียบสุดๆหรือไม่
ซึ่งถ้าการเปลี่ยนแปลงมันมากขนาดนั้น
ก็เป็นไปได้ว่ารัสเซียจะรบต่อ โดยไม่สนใจการหยุดยิง
เพราะในแง่หนึ่ง ต้องไม่ลืมว่า 30 วัน
เป็นเวลามากพอที่อีกขั้วคือพวกยุโรปนั้นแทรกแซง
เข้ามาอุดช่องว่างต่างๆ เพื่อรองรับกรณีสหรัฐ
เล่นแง่อีกได้มากพอสมควร ทั้งอาวุธ และงานข่าวกรอง
พูดง่ายๆ ถ้าหยุด หน้างานในสมรภูมิ รัสเซียจะค่อนข้าง
ไม่ได้ประโยชน์เท่ากับการรบต่อไป
แม้จะเสี่ยงทำใหสหรัฐมีความจำเป็น
ต้องหนุนยูเครน แบบเต็มที่เหมือนเดิมก็ตาม
…ถ้ารัสเซียมองว่า รบต่อคุ้มกว่า พวกเขาก็จะไม่หยุด…
และถ้าพวกรัสเซียไม่หยุด การหยุดจากฝั่งของยูเครน
มันก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นธรรมชาติของสงคราม
ที่ไม่สามารถหยุดยิงฝ่ายเดียวได้
…เนื่องจากการทำแบบนั้น คือการยอมแพ้โดยไร้เงื่อนไข….
ถ้าเริ่มหยุดยิงไม่ได้ สงครามก็คงไม่จบ
แล้วทรัมป์จะเอาไงกับตัวเอง ?
สมมุติว่าถ้ารัสเซียไม่รับข้อเสนอหยุดยิง
เขื่อว่ากระแสการเมืองทั้งในยุโรปและสหรัฐ
จะถูกบีบให้สนับสนุนยูเครนมากขึ้น
เนื่องจากการที่ยูเครนแสดงออกว่ายอมหยุด
แล้วรัสเซียไม่หยุดเอง
จะทำให้ผู้คนมองว่า รัสเซียนั่นแหละตัวปัญหาที่ต้องจัดการ
แม้แต่กับผู้สนับสนุนให้หยุดสงครามก็จะมีท่าทีเปลี่ยนไป
ซึ่งมันก็ไม่ได้ดีนักกับรัสเซียเช่นกัน เพราะพวกเขาสนับสนุน
ฝ่ายขวาจัดในหลายประเทศอยู่ ถ้าพวกโปรรัสเซียเหล่านี้
เสียคะแนนนิยม มันจะกระทบกับเป้าหมายทางการเมือง
ในยุทธศาสตร์ภาพรวมในอนาคตของรัสเซียเอง
ในอีกทาง คะแนนสงสาร จะกลับไปอยู่ที่ฝั่งยูเครน
มันเสี่ยงสำหรับรัสเซียในอนาคตถ้าเป็นแบบนั้น
เพราะชาวบ้านในยุโรป สหรัฐ และที่อื่นๆ
อาจเลือกสนับสนุนพรรคที่มีท่าทีกร้าวต่อรัสเซียมากขึ้น สนับสนุนให้มีงบด้านการทหารมากขึ้น
รวมถึงไม่ขัดขวาง ไม่วิจารณ์รัฐบาลตนเองในการช่วย
ยูเครนมากเหมือนที่ผ่านมา
รวมถึงการไม่สนับสนุนแนวคิดขวาจัดอีกแล้ว
และทรัมป์เองก็จะถูกกดดันมากขึ้น จากสิ่งที่หาเสียงไว้
และอาจเสียภาพลักษณ์ ว่ายอมรัสเซียมากจนเกินไป
และไม่พยายามบีบรัสเซีย จนพวกนั้นไม่ยอมขึ้นโต๊ะเจรจา
เป็นก้าวแรกสู่การยุติสงคราม ที่ดูแล้วอาจไม่ได้ไปต่อ
จนถึงตอนนี้ รัสเซียก็ยังไม่ตอบรับว่าเอาด้วยไหม
ในส่วนของรัสเซีย ปัญหาจริงๆของพวกเขา
คือยังไม่ได้ดินแดนมากตามที่ต้องการ โดยเฉพาะ
ทางใต้คือ โอเดสซ่า
ปัจจุบัน เคอร์ซอนถูกรัสเซียยึดครองแบบเบ็ดเสร็จก็จริง
สิ่งนี้กลับยิ่งทำให้การเจรจายากมากสำหรับทุกฝ่าย
ในความเป็นจริงแล้ว รัสเซียต้องการไปให้ถึงโอเดสซ่าที่สุด
เพื่อปิดทางออกทะเลทั้งหมดของยูเครน
แต่มันก็ไม่สำเร็จและไม่มีแนวโน้มที่จะคืบหน้าเลย
เนื่องจากยูเครนเองวางกำลังตรงนี้ไว้หนาแน่นที่สุดในทุกด้าน
รัสเซียอาจยิงจรวดเข้าไปในโอเดสซ่าได้
แต่กำลังทางบกของพวกเขา ถูกตรึงไว้ที่เคอร์ซอนแบบไม่นิ่ง
มามากกว่าสองปีครึ่งแล้ว หลังถูกถีบออกมาจากโอเดสซ่า
ในช่วงปีแรกของสงคราม แล้วไม่สามารถเข้าไปได้อีกเลย
สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ลืม ในกรณีว่าเลิกทุกอย่างตอนนี้
ด้วยการเอาดินแดนที่แต่ละฝ่ายยึดอยู่เป็นเขตแดนใหม่
โดยให้รัสเซียได้เคอร์ซอน และยูเครนได้โอเดสซ่าไว้
( ทางขวาและซ้ายของรูปประกอบด้านล่าง (1) ตามลำดับ )
นั่นจะเท่ากับระเบิดเวลาลูกใหม่ ที่พร้อมจะระเบิดได้ง่ายๆ
เหตุผล คือ ลักษณะทางภูมิประเทศที่ต่างฝ่ายต่าง
ถือครองคนละฝั่งของอ่าวแคบๆ
มันจะทำให้มีปัญหาทันทีในการอ้างเขตแดนทางทะเล
จากทั้งสองฝั่งคู่ขัดแย้ง
คือ มันอาจกลายเป็นบนดินจบ แต่ในน้ำมันไม่จบ
และอาจรุนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ
นี่คือสิ่งที่เซเลนสกี้รู้และยอมไม่ได้
หากไม่มีการตกลงในส่วนนี้ และรับประกันจากสหรัฐ
ยูเครนคงยอมสู้ตายแน่ๆ เพื่อให้ส่วนที่เหลือยังมีทางออกทะเล
หรือถึงเสียไปแล้ว สงครามกองโจร วินาศกรรมก็ต้องทำ
เพื่อเอาคืนมาให้ได้ ซึ่งนั่นจะเท่ากับสงครามที่ไม่จบสิ้น
และนี่คือสิ่งที่ทำให้ปูตินต้องการโอเดสซ่าอย่างที่สุด
เพราะในมุมรัสเซีย หากไปถึงโอเดสซ่าได้
ก็เท่ากับปิดล้อมทางทะเลยูเครนได้ และพวกเขาน่าจะชนะได้
อย่างเด็ดขาด โดยไม่ต้องไปยึดเคียฟให้เสียเวลา
ปูตินเชื่อว่า ยูเครนจะยอมจำนน เมื่อถึงจุดนั้น
…โอเดสซ่า คือเดิมพันสำคัญที่เสียไม่ได้ของทั้งสองฝ่าย
มันจึงเป็นอุปสรรคอย่างมากของการเจรจา แม้แต่ในขั้นแรก
เพื่อการหยุดยิงนี้ก็ตาม…
…รัสเซียนั้นใกล้มากแล้วที่จะถึงโอเดสซ่า แม้จะไม่คืบออก
จากเคอร์ซอนมานาน แต่เชื่อว่าพวกเขาจะยอมเดิมพัน
ไม่คุยอะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะสำเร็จ แล้วได้ทุกอย่าง…
…แต่ถ้าสหรัฐรักษาสัญญาแค่ส่วนของข่าวกรองในการตั้งรับ
และมียุโรปเข้ามาช่วยมากขึ้น โอเดสซ่าก็จะยังตีให้แตกได้
ยากมากเหมือนเดิม และอาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ หากยูเครน
ได้พักหายใจ 30 วัน…
…เพราะงั้น ผมเชื่อว่ารัสเซียไม่ยอมหยุดครับ….
คู่ขัดแย้ง ต่างฝ่ายต่างมีเดิมพันที่เสียไม่ได้อยู่
ทรัมป์เองก็โดนกระหน่ำหนักทุกทาง
และกำลังโดนขุดคุ้ยอดีต จากผลของพฤติกรรมในปัจจุบัน
จนเสี่ยงติดคุกตอนแก่ ในข้อหาร้ายแรงอย่างการขายชาติ
ทางพรรครีพับลิกันเอง ก็ชักไม่ไหวกับกระแสของชาวบ้าน
ที่ตีกลับมาให้สนับสนุนยูเครนแน่นในช่วงนี้เหมือนกัน
…ดูทุกฝ่ายแล้ว ยาก หรือโคตรยากเลยแหละ ที่จะจบน่ะนะ…
…เอาแค่เริ่มนี่ก็ยากแล้ว…
เซเลนสกี้รู้ครับ ผมว่าพี่เลี้ยงจากยุโรป ที่น่าจะเป็นอังกฤษ
เค้าอ่านเกมส์ขาด ที่จะโยนบอลไปทางรัสเซียให้เตะทิ้ง
เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ที่จะย้อนกลับมาให้ตัวเอง
พวกอังกฤษเก่งครับ กับเกมส์ลักษณะนี้ บีบทุกฝ่าย
ผมถึงเชื่อว่าเป็นพวกเขานั่นแหละที่อยู่ข้างหลังเซเลนสกี้
ในตอนนี้มากที่สุด หลังเขาไปอังกฤษมา
…รอดูครับ รัสเซียจะว่าไง ตอนนี้บอลอยู่ที่พวกเขาแล้ว….
…ไม่น่านานนะ บางทีตอนเขียนนี่ก็ชัดแล้วมั้ง…
( ผมมักเขียนช่วงบ่ายสาม ที่ว่างๆก่อนขับรถกลับบ้าน
แต่ตั้งเวลาโพสต์ราวหกโมงทุ่มนึงเสมอ )
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
