13 มี.ค. เวลา 03:08 • ดนตรี เพลง

The Black Box / Aivi & Surasshu: กล่องดำแห่งเสียงเพลงที่หลอมรวมอดีตและอนาคต

ดนตรีคือการเดินทางของเสียงที่ไร้ขีดจำกัด และ "The Black Box" คือสมุดบันทึกของการเดินทางครั้งหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดผ่านสองนักดนตรีที่มีวิสัยทัศน์อันเฉียบคม aivi (นักเปียโน) และ surasshu (นักดนตรีชิปจูน) ได้นำเอาจิตวิญญาณแห่งการทดลองมาหลอมรวมกับความรักในดนตรีเกมยุคคลาสสิก สร้างสรรค์ออกมาเป็นอัลบั้มที่เป็นเหมือนการบันทึกเสียงแห่งความทรงจำ อารมณ์ และการสำรวจดินแดนใหม่ ๆ ของเสียงเพลง
อัลบั้มนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรวมตัวของสองแนวเพลงที่แตกต่าง แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าดนตรีสามารถข้ามพรมแดนของยุคสมัยและเทคนิคได้อย่างไร เปรียบเสมือนกล่องดำที่บันทึกเสียงแห่งการเดินทางครั้งนี้เอาไว้ รอให้ผู้ฟังได้ไขปริศนาและค้นพบความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใน
ตั้งแต่โน้ตแรกของ "Nucleus" ผู้ฟังก็จะรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปสู่ศูนย์กลางของจักรวาลเสียงที่ aivi & surasshu กำลังสร้างขึ้น เปียโนที่ไหลลื่นราวกับกระแสน้ำ ผสานเข้ากับท่วงทำนองชิปจูนที่มีความเป็นกลไก ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการจุดประกายของสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น มันเป็นเพลงเปิดที่สร้างฉากหลังให้กับการเดินทางครั้งนี้
Aivi Tran (เปียโน) และ Steven "Surasshu" Velema (ชิปจูน) สองดูโอ้สมาชิกวง
ความคลุมเครือระหว่างดนตรีออร์แกนิกและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ความรู้สึกของโลกที่ขยายตัวและแปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ถูกสะท้อนผ่าน "Shapeshifter" ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เปรียบได้กับการเดินทางที่ผ่านวิวทิวทัศน์ที่พลิ้วไหวไม่หยุดนิ่ง ดนตรีของพวกเขาไม่ใช่แค่เพียงการจัดเรียงเสียงที่ไพเราะ แต่เป็นการออกแบบพื้นที่ทางเสียงที่มีชีวิต ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนกำลังเคลื่อนผ่านมิติใหม่ของดนตรี
หาก "The Black Box" เป็นกล่องแห่งความทรงจำ การเรียบเรียงใหม่ของ "Lonely Rolling Star" จาก Katamari Damacy – เกมอินดี้ฮิตจากปี 2004 ว่าด้วยเรื่องราวการสร้างโลกด้วยการกลิ้งเก็บของไปเรื่อย ๆ นี้ ก็เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจถึงอดีตที่เคยงดงาม
พวกเขาไม่ได้เพียงแค่รักษาเสน่ห์ของต้นฉบับไว้ แต่ยังเพิ่มมิติใหม่ที่เต็มไปด้วยสัมผัสที่ละเอียดอ่อน เปียโนของ aivi นำเสนอความรู้สึกของความหวานอมขมกลืน ขณะที่ชิปจูนของ surasshu เสริมจังหวะที่ขับเคลื่อนให้เพลงนี้กลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดีตกับอนาคต ระหว่างดนตรีที่เป็นอะคูสติกและดนตรีที่เกิดจากอัลกอริธึม
Katamari Damacy REROLL จากปี 2018 ที่ลงให้กับเครื่องเกม Nintendo Switch
ในขณะที่เพลงอย่าง "Diamond Dove" และ "Here's How!" แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดของทั้งคู่ เปียโนที่นุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยพลัง ให้ความรู้สึกเหมือนเสียงของหัวใจที่กำลังเต้น ขณะที่ชิปจูนที่เปล่งประกายเป็นเหมือนแสงสะท้อนจากอนาคต เป็นบทสนทนาระหว่างสองเสียงที่แตกต่างกันแต่กลมกลืนกันอย่างน่าทึ่ง เพลงเหล่านี้ไม่ได้พยายามให้ชิปจูนเป็นเพียงแค่แบ็คกราวด์ให้เปียโน หรือให้เปียโนเป็นเพียงองค์ประกอบตกแต่งให้ชิปจูน พวกเขาทั้งสองอยู่ในบทสนทนาที่สมดุล ซึ่งทำให้เสียงของทั้งสองโลกมีพลังเท่าเทียมกัน
ท่ามกลางอัลบั้มที่เต็มไปด้วยไอเดียและอารมณ์ เพลงที่มีชื่อสั้น ๆ อย่าง "38" กลับให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเป็นพิเศษ มันเป็นเหมือนข้อความที่ซ่อนอยู่ในกล่องดำของเครื่องบิน เป็นเบาะแสของความคิดและแรงบันดาลใจที่ aivi & surasshu ได้บันทึกไว้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ระหว่างที่ฟังเพลงนี้ เราอาจรู้สึกถึงการรำลึกถึงบางสิ่งที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ทั้งหมด เป็นเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำที่ลอยอยู่ในห้วงอากาศ
"Distance" อีกหนึ่งเพลงเปิดอัลบั้มที่ถูกเรียบเรียงใหม่จาก Cryptogam Illusion – อัลบั้มปี 1993 โดยวงโปรเกรสซีฟร็อกญี่ปุ่น Asturias เพลงนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่พวกเขานำดนตรีเก่ามาหลอมรวมกับแนวคิดใหม่ เพื่อสร้างความรู้สึกของระยะห่างทางกาลเวลาแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความผูกพัน เป็นการใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางของความทรงจำและอารมณ์ที่ทอดยาวออกไปเหมือนสายใยที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน
เพลงนี้ยังถือเป็นตัวอย่างของการนำองค์ประกอบเดิมจากโปรเกรสซีฟร็อกมาประยุกต์เข้ากับความเป็นอิเล็กทรอนิกส์ที่สดใสร่าเริงอันเป็นเสน่ห์ของชิปจูน แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมของตัวเองไว้ได้ โดยมีความซับซ้อนทางเมโลดี้ เทคนิคและเสียงตามแบบฉบับของดนตรีโปรเกรสซีฟ ผสมผสานกับจังหวะที่เร็วและติดหูของชิปจูนได้อย่างลงตัว
Asturias วงโปรเกรสซีฟร็อกญี่ปุ่น จากปี 1987
เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางของอัลบั้ม "Pocket Universe" และ "Exosphere" เราจะพบว่าดนตรีของพวกเขาไม่ได้มีจุดสิ้นสุด แต่เหมือนเป็นการเปิดประตูไปสู่พื้นที่ใหม่ เสียงที่โปร่งเบาเหมือนลอยไปในอวกาศ คล้ายกับว่าผู้ฟังกำลังเดินทางออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ สู่ขอบเขตใหม่ของเสียงเพลง และทิ้งกล่องดำใบนี้ไว้ให้เป็นบันทึกของการเดินทางที่ผ่านมา
สิ่งที่ทำให้ "The Black Box" เป็นอัลบั้มที่พิเศษ คือการนำเอาเสียงเปียโนที่มีชีวิตชีวาและอารมณ์ลึกซึ้งของ aivi มาหลอมรวมเข้ากับเสียงชิปจูนของ surasshu ที่มีความเป็นกลไกและดิจิทัล ซึ่งเมื่อทั้งสององค์ประกอบนี้มาพบกัน มันไม่ใช่แค่การเล่นไปตามท่วงทำนอง แต่เป็นการสร้างบทสนทนาผ่านเสียงดนตรี หากเปรียบเปียโนเป็นภาษาของหัวใจ ชิปจูนก็คงเป็นภาษาของเครื่องจักร และเมื่อทั้งสองมาบรรจบกัน เราจึงได้สัมผัสถึงอารมณ์ที่อยู่ระหว่างความเป็นมนุษย์และเทคโนโลยี เป็นเหมือนบทกวีที่ถูกเล่าเรื่องผ่านโค้ดและคีย์เปียโน
ชื่อของอัลบั้ม "The Black Box" เอง ก็ทำให้เรานึกถึงกล่องดำที่บันทึกข้อมูลสำคัญที่ซ่อนอยู่ภายใน ดนตรีในอัลบั้มนี้ก็เช่นกัน มันเป็นเสมือนบันทึกของความรู้สึก แรงบันดาลใจ และความทรงจำของศิลปิน ปกอัลบั้มที่ออกแบบโดย Diana Jakobsson ก็เป็นองค์ประกอบที่สะท้อนถึงความหลากหลายและการผสมผสานของสไตล์ดนตรีที่แตกต่างกันได้อย่างงดงาม
"The Black Box" จึงไม่ใช่เพียงแค่อัลบั้มดนตรี แต่เป็นบันทึกเสียงของการเดินทางทางดนตรีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นพื้นที่ที่อดีตและอนาคตมาบรรจบกัน เป็นบทสนทนาระหว่างมนุษย์กับจักรกล และเป็นบทกวีที่เล่าผ่านเสียงเปียโนและชิปจูน มันเป็นอัลบั้มที่ต้องฟังด้วยหัวใจ เปิดรับทุกเสียง ทุกท่วงทำนอง และอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในกล่องดำใบนี้ แล้วปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปกับมัน
Cr. Bandcamp
Support the Artist @Bandcamp
---
โฆษณา