Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดาหลายามเย็น
•
ติดตาม
10 เม.ย. เวลา 15:53 • ประวัติศาสตร์
ชาติกำเนิด
ชื่อสกุลมาแต่เดิม ทิม พรหมประดู่ เกิดที่บ้านนาประดู่ ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2455 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 บิดาชื่อ นายอินทอง พรหมประดู่ มารดาชื่อ นางนุ่ม พรหมประดู่ เป็นบุตรคนที่ 2 จากพี่น้อง(รวมถึงตัวท่าน)ร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 6 คน
ชีวิตในวัยเด็ก
พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมมฺธโร)
ชีวิตในวัยเด็ก
อาจารย์ทิมได้รับการเลี้ยงดูตามวิถีชาวบ้านในชนบท เมื่ออายุได้ 9 ขวบ บิดามารดาได้นำท่านไปฝากไว้กับ พระครูภัทรกรณ์โกวิท (หลวงพ่อแดง ธมฺมโชโต) เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ ซึ่งเป็นพระเถระที่ทรงคุณธรรมและวิทยาคม เพื่อให้ได้รับการศึกษาเบื้องต้นทั้งทางโลกและทางธรรม ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนอักษรไทยและอักขระขอม รวมถึงได้รับการอบรมสั่งสอนด้านศีลธรรมและจริยวัตรจากหลวงพ่อแดง
การบรรพชาและอุปสมบท:
เมื่ออายุ 18 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดนาประดู่ แต่ไม่นานก็ลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดนาประดู่ ในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2476 โดยมี พระครูพิบูลย์สมณวัตร (หลวงพ่อชุม จนฺทสุวณฺโณ) วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์แดง วัดนาประดู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์แก้ว วัดนาประดู่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า "ธมฺมธโร"
การมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช้างให้
ประมาณปี พ.ศ. 2497 อาจารย์ทิมได้รับการนิมนต์จากชาวบ้านให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดช้างให้ ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ในขณะนั้น วัดช้างให้อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม เสนาสนะต่างๆ ชำรุด อาจารย์ทิมได้เริ่มพัฒนาและบูรณะวัดช้างให้อย่างจริงจัง ด้วยความศรัทธาและความสามารถของท่าน ทำให้วัดช้างให้ค่อยๆ เจริญรุ่งเรืองขึ้น
คุณูปการและเกียรติคุณ
อาจารย์ทิมท่านได้สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อพระพุทธศาสนาและสังคม ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณธรรมและวิทยาคม เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทุกชนชั้น วัตถุมงคลหลวงปู่ทวดที่ท่านสร้างยังคงเป็นที่นิยมและมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ต้องการของผู้ศรัทธามาจนถึงปัจจุบัน และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ "สร้างหลวงปู่ทวดให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง" ในยุคปัจจุบัน
กล่าวตามข้อเท็จจริงคือก่อนหน้านี้เรื่องราวของหลวงปู่ทวดดูจะเลือนลางไม่ประติดประต่อว่าขานกันไปคนละทางตามหลักฐานที่แต่ละชุมชนยึดถือจนแทบจะเป็นแค่เรื่องนิทานเทพนิยาย
ครั้งหนึ่งผู้เขียนเองก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เล่าว่าเคยได้มีโอกาสใกล้ชิดดูแลอาจารย์ทิมในการเดินทางผ่านชุมชนเขาแดงเพื่อธุดงค์สืบค้นอย่างเป็นจริงเป็นจังเกี่ยวกับที่มาของเรื่องเล่าตำนานหลวงปู่ทวด
จนเจอหลักฐานทางวัตถุสถานที่ที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันทำให้ตำนานกลายเป็นเรื่องที่มีมูลความจริง และทำให้ประวัติศาสตร์เหตุการณ์การแห่สรีระสังขารของหลวงปู่ทวดซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ช้างให้" ก็ชัดเจนมาจนถึงปัจจุบัน นับว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ วัดช้างให้ กลายเป็นวัดที่สำคัญและมีผู้คนเดินทางมาสักการะอย่างไม่ขาดสาย
การบูรณะเจดีย์เก็บอัฐิหลวงปู่ทวด และการเดินทางตามหาเรื่องราวของหลวงปู่ทวด
เมื่ออาจารย์ทิมมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช้างให้ สิ่งหนึ่งที่ท่านให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือการ สืบค้น(อย่างที่เคยได้เล่าให้ท่านผู้อ่านได้ทราบไปก่อนหน้า)และบูรณะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวด ซึ่งรวมถึง เจดีย์เก็บอัฐิของหลวงปู่ทวด
ซึ่งในขณะนั้น เจดีย์เก็บอัฐิของหลวงปู่ทวดภายในวัดช้างให้อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ด้วยความเคารพศรัทธาอย่างแรงกล้าที่อาจารย์ทิมมีแก่องค์หลวงปู่ทวด ท่านจึงตั้งใจที่จะ บูรณะเจดีย์ให้สมกับความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่สักการะของผู้ศรัทธา
การสำรวจและวางแผน
อาจารย์ทิมได้ทำการสำรวจสภาพเจดีย์อย่างละเอียด พิจารณาถึงโครงสร้างและความเสียหายที่เกิดขึ้น ท่านได้วางแผนการบูรณะอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงรูปแบบศิลปะเดิมและความแข็งแรงของโครงสร้างในระยะยาว
การระดมทุนและดำเนินการ
การบูรณะเจดีย์เป็นงานที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก อาจารย์ทิมได้เริ่มดำเนินการระดมทุนจากบรรดาศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธา ท่านได้บอกเล่าถึงความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด รวมถึงความตั้งใจในการบูรณะเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน
การควบคุมดูแลการบูรณะ
อาจารย์ทิมได้ควบคุมดูแลการบูรณะเจดีย์ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้การบูรณะเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสถาปัตยกรรมและสมพระเกียรติ
การสร้างความสง่างาม
ภายใต้การนำของอาจารย์ทิม เจดีย์เก็บอัฐิหลวงปู่ทวดได้รับการบูรณะให้มีความสง่างาม มั่นคง และสวยงาม เป็นที่เคารพสักการะของผู้ที่เดินทางมายังวัดช้างให้จนถึงปัจจุบัน
สภาพองค์เจดีย์บรรจุอัฐิหลวงปู่ทวดในปัจจุบัน
การบูรณะเจดีย์เก็บอัฐิหลวงปู่ทวดของอาจารย์ทิม ไม่เพียงแต่เป็นการทำนุบำรุงวัด แต่ยังเป็นการ แสดงออกถึงความกตัญญูและความเคารพศรัทธาอันสูงสุดต่อบูรพาจารย์ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีงามแก่ศิษยานุศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสในหลวงปู่ทวด
การเดินทางตามหาเรื่องราวของหลวงปู่ทวด(เท่าที่มีรายละเอียด)
ความเคารพศรัทธาในหลวงปู่ทวดของอาจารย์ทิมนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่การบูรณะวัดและการสร้างวัตถุมงคลเท่านั้น ท่านยัง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสืบค้นและรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติชีวิตและอภินิหารของหลวงปู่ทวด เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้และเกิดความศรัทธามากยิ่งขึ้น ซึ่งเท่าที่มีบันทึกและคำบอกเล่าจากผู้ใกล้ชิด อาจารย์ทิมท่านได้ พยายามสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดจากหลายช่องทาง ดังนี้
*การสอบถามผู้สูงอายุและคนในท้องถิ่น: อาจารย์ทิมได้สอบถามข้อมูลจากผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งอาจมีเรื่องราวหรือความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดที่สืบทอดกันมา
*การศึกษาเอกสารโบราณและตำนานท้องถิ่น: ท่านได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารโบราณ ตำนานพื้นบ้าน และบันทึกต่างๆ ที่อาจมีการกล่าวถึงหลวงปู่ทวด แม้ว่าหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยตรงเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดในยุคสมัยนั้นอาจมีจำกัด
*การธุดงค์และแสวงหาความรู้: มีคำบอกเล่าว่าอาจารย์ทิมได้มีการธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวด เพื่อแสวงหาความรู้และข้อมูลเพิ่มเติม
*การนิมิตและการสื่อญาณ: ด้วยความที่ท่านเป็นผู้มีจิตใจที่บริสุทธิ์และมีการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด อาจารย์ทิมอาจมีการนิมิตหรือการสื่อญาณเพื่อรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่ทวด (ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางตามหาเรื่องราวของหลวงปู่ทวดของอาจารย์ทิมนั้น อาจไม่ได้มีบันทึกไว้อย่างชัดเจนและเป็นทางการมากนัก ส่วนใหญ่เป็นคำบอกเล่าจากศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพศรัทธา ซึ่งอาจมีการผสมผสานกับความเชื่อและตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
สิ่งที่ชัดเจนคือ ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของอาจารย์ทิมในการสืบสานและเผยแผ่เกียรติคุณของหลวงปู่ทวด การบูรณะเจดีย์และการพยายามรวบรวมเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับหลวงปู่ทวด เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดเป็นที่ประจักษ์และได้รับการเคารพศรัทธาอย่างกว้างขวางมาจนถึงปัจจุบัน
อาจกล่าวได้ว่า แม้รายละเอียดการเดินทางตามหาเรื่องราวของหลวงปู่ทวดของอาจารย์ทิมอาจไม่ชัดเจนนัก แต่ ความศรัทธาและความมุ่งมั่นของท่านเอง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการ "สร้าง" เรื่องราวและตำนานของหลวงปู่ทวดให้กลับมาเป็นที่รู้จักและเลื่อมใสอีกครั้ง ในยุคสมัยของท่าน
ปั้นปลายชีวิตจนถึงการมรณภาพ
อาจารย์ทิมเริ่มอาพาธด้วยโรคมะเร็งที่หลอดอาหารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้มรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 สิริอายุได้ 57 ปี พรรษา 36
จากผู้เขียนถึงท่านผู้อ่านที่รัก
เรียนท่านผู้ที่อ่านมาจนถึงเวลานี้ ผู้เขียนมีความเคารพศรัทธาในหลวงปู่ทวดมาก จะกราบหลวงปู่ทวดทีไรก็คิดถึงแต่คุณความดีของท่านอาจารย์ทิม เพราะถ้าไม่มีท่านก็คงไม่มีทางรู้เลยว่าโลกใบนี้เคยมีหลวงปู่ทวด ไว้ผู้เขียนมีเวลาจะรวบรวมเรื่องราวของหลวงปู่ทวดในแบบปุถุชนมาให้ท่านผู้อ่านได้ทราบเพื่อพิจารณา แต่ขอเรียนท่านพูดอ่านจากใจสักนิดหนึ่งว่าแม้ท่านจะเหยียบน้ำทะเลให้จืดหรือมีอิทธิปาฏิหาริย์ใด ก็ไม่เท่าความเพียรและความดีที่ผู้เขียนได้สืบรู้มาเลย โปรดรอติดตาม
เนื้อหา/เรียบเรียง/ภาพ : ดาหลายามเย็น
ประวัติศาสตร์
พุทธศาสนา
บุคคลสำคัญ
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย