แนวคิดจาก Warren Buffett 100 ข้อ
1. กฎข้อที่ 1 คือ อย่าขาดทุน
กฎข้อที่ 2 คือ อย่าลืมกฎข้อที่ 1
2. การกระจายความเสี่ยงเป็นการป้องกันความไม่รู้
มันแทบไม่มีเหตุผลเลยสำหรับผู้ที่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร
3. อย่าใส่ใจผลประกอบการรายปีมากเกินไป
ให้มองเฉลี่ยระยะยาวสี่ถึงห้าปีจะดีกว่า
4. แก่นแท้ของการลงทุน คือการเลือกซื้อหุ้นดีในช่วงเวลาที่เหมาะสม และถือไว้ตราบใดที่บริษัทยังคงเป็นบริษัทที่ดี
5. ธุรกิจอเมริกัน — และในที่สุดก็คือตะกร้าหุ้น — มีแนวโน้มเกือบแน่นอนว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต
6. นักลงทุนควรปฏิบัติตนเสมือนว่ามีบัตรสิทธิ์ในการตัดสินใจลงทุนตลอดชีวิตเพียง 20 ครั้ง
7. สิ่งสำคัญที่เราทำกับผู้บริหารคือ การหาคนที่มีความสามารถ และไม่ไปแทรกแซงวิธีการทำงานของเขา
8. คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของนักลงทุนคือ “ความมั่นคงทางอารมณ์” ไม่ใช่ “สติปัญญา”
คุณต้องมีจิตใจที่ไม่หวั่นไหวไปกับฝูงชน ไม่ว่าจะตามหรือสวนกระแส
9. Bitcoin ไม่มีคุณค่าเฉพาะตัวใด ๆ เลย
10. ซื้อหุ้นในลักษณะเดียวกับที่คุณจะซื้อบ้าน
คุณต้องเข้าใจและชื่นชอบมันมากพอ จนยินดีที่จะถือครองแม้ว่าจะไม่มีตลาดให้ซื้อขายเลยก็ตาม
11. ในอนาคตอาจมีเหตุการณ์ที่ตลาดตกหนัก หรือแม้กระทั่งตื่นตระหนก ซึ่งจะกระทบหุ้นแทบทุกตัว
ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด
12. ผมให้ความสำคัญกับการใช้เวลา — แทบทุกวัน — เพื่อการนั่งคิดอย่างสงบ
ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในแวดวงธุรกิจอเมริกัน
13. ซื้อบริษัทที่มีประวัติการทำกำไรที่แข็งแกร่ง และมีอำนาจในการแข่งขันเหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน
14. สำหรับนักลงทุน การซื้อหุ้นของบริษัทที่ดีแพงเกินราคาที่เหมาะสม
อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ดีในช่วงสิบปีหลังจากนั้นไร้ความหมาย
15. ผมเชื่อในการให้ลูกมีมากพอที่จะทำอะไรก็ได้
แต่อย่าให้มากจนเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย
16. โลกเคยเสียสติไปแล้ว และบทเรียนจากประวัติศาสตร์ก็คือ “คนส่วนใหญ่ไม่เคยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์”
17. หัวใจของการลงทุนไม่ใช่การประเมินว่าอุตสาหกรรมใดจะเติบโตหรือเปลี่ยนโลก แต่คือการประเมินความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทนั้น และความยั่งยืนของข้อได้เปรียบนั้น
18. ถ้าคุณลงทุนในกองทุนดัชนีต้นทุนต่ำแบบเฉลี่ยเงินลงทุนในช่วง 10 ปี คุณจะทำผลงานได้ดีกว่า 90% ของนักลงทุนที่เริ่มในเวลาเดียวกัน
19. ถ้าคุณเดาผิดและดอกเบี้ยไปที่ 2% (ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้) คุณก็จ่ายคืนได้ ถือเป็นข้อตกลงฝ่ายเดียวที่ดีสำหรับเจ้าของบ้าน
20. เงินสดเปรียบเสมือนออกซิเจนสำหรับธุรกิจ — ไม่มีใครพูดถึงตอนมันยังมีอยู่ แต่จะพูดถึงทันทีเมื่อมันหมดไป
21. อย่าหมกมุ่นกับการทำตามหรือขัดแย้งกับฝูงชน คุณควรแยกอารมณ์ออกจากสิ่งที่คนอื่นทำ
22. ตลอด 240 ปีที่ผ่านมา การลงทุนสวนทางกับอเมริกาเป็นความผิดพลาด — และวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น
23. ผมไม่เคยพยายามทำกำไรจากตลาดในระยะสั้น ผมลงทุนโดยสมมุติว่าตลาดจะปิดไป 5 ปีหลังจากซื้อ
24. ผมไม่สามารถบอกได้ว่าทองจะขึ้นหรือลง แต่ผมรู้ว่าทองจะไม่สร้างรายได้ในระหว่างรอ ในขณะที่ Coca-Cola หรือ Wells Fargo จะสร้างรายได้ต่อเนื่อง
25. ผมใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศและอ่านหนังสือทั้งวัน
26. ผมไม่พูดว่าถ้าผู้สมัครที่ผมชอบแพ้ ผมจะเลิกเล่นเกม — เพราะจริง ๆ แล้วครึ่งหนึ่งของเวลาพวกเขาก็แพ้
27. ถ้าคุณจ่ายค่าธรรมเนียม 1% ต่อปีในพอร์ตที่ให้ผลตอบแทน 7–8% มันจะทำให้ความมั่งคั่งคุณลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว
28. เราควรสร้างสินค้าให้คนรู้สึก “ชื่นชม” มากกว่ารู้สึก “ถูกบังคับ”
29. ถ้าคุณไม่พร้อมจะถือหุ้นนั้น 10 ปี ก็อย่าซื้อมันแม้แต่ 10 นาที
30. การลงทุนที่สำคัญที่สุด คือการลงทุนในตัวคุณเอง
31. ถ้าคุณซื้อของที่ไม่จำเป็น ในที่สุดคุณจะต้องขายของที่จำเป็น
32. ถ้าคุณไม่สามารถประมาณการรายได้ในอนาคตของสินทรัพย์นั้นได้ ก็จงมองข้ามมันไป
33. ถ้าคุณมีเวลา 6–8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการศึกษาการลงทุน จงทำมัน แต่ถ้าไม่มี ก็ลงทุนในกองทุนดัชนีแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน
34. ถ้าคุณอยู่ในกลุ่ม 1% ที่โชคดีที่สุดของโลก คุณมีหน้าที่ต้องนึกถึงอีก 99% ด้วย
35. ถ้าคุณฉลาดพอ คุณจะสร้างความมั่งคั่งได้โดยไม่ต้องกู้เงิน
36. ตลอดศตวรรษที่ 20 แม้อเมริกาจะผ่านสงคราม วิกฤตเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนทางการเมือง หุ้น Dow Jones ก็ยังขึ้นจาก 66 ไปถึง 11,497 จุด
37. ตลอด 54 ปีที่ผมทำงานร่วมกับ Charlie Munger เราไม่เคยตัดสินใจซื้อหุ้นเพราะปัจจัยเศรษฐกิจ การเมือง หรือความเห็นของคนอื่นเลย
หัวข้อเหล่านี้ไม่เคยถูกพูดถึงในการตัดสินใจของเรา
38. ในโลกธุรกิจ กระจกมองหลังมักจะชัดเจนกว่ากระจกหน้ารถเสมอ
(หมายถึง การมองย้อนอดีตง่ายกว่าการคาดการณ์อนาคต)
39. นักลงทุนควรจำไว้ว่าความตื่นเต้นและค่าธรรมเนียม คือศัตรูของพวกเขา
40. นักลงทุนระยะยาวไม่ควรใช้สัดส่วนพันธบัตรกับหุ้นเป็นตัววัดความเสี่ยง
เพราะอาจทำให้ตัดสินใจผิด
41. คุณไม่จำเป็นต้องทำสิ่งพิเศษเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
42. การสร้างชื่อเสียงใช้เวลา 20 ปี แต่สามารถพังได้ใน 5 นาที
หากคุณคิดถึงเรื่องนี้ก่อน คุณจะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างระมัดระวังมากขึ้น
43. เงินสดเป็นการลงทุนที่แย่ที่สุดในระยะยาว
แม้ทุกคนจะพูดว่า “เงินสดคือราชา” แต่ธุรกิจดี ๆ จะเติบค่าได้มากกว่าเมื่อเวลาผ่านไป
44. ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความกลัวเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน
คนที่รอซื้อเฉพาะตอนข่าวดี มักจ่ายแพงเกินจริง
45. คบหาคนที่ดีกว่าตัวคุณเอง
เลือกอยู่กับคนที่มีพฤติกรรมดี แล้วคุณจะเติบโตตามพวกเขา
46. ดีกว่าที่จะมีหุ้นของสิ่งล้ำค่าเล็กน้อย ดีกว่าครอบครองสิ่งไร้ค่าทั้งหมด
47. การซื้อบริษัทชั้นเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม ย่อมดีกว่าซื้อบริษัทธรรมดาในราคาที่ดีเกินจริง
48. ลงทุนในดัชนีกว้าง ๆ เช่น S&P 500
อย่าเทเงินทั้งหมดทีเดียว ให้ทยอยลงทุนทีละส่วน
49. รักษาความเรียบง่าย และอย่าโลภเกินไป
ถ้ามีใครเสนอผลตอบแทนสูงผิดปกติ จงตอบปฏิเสธทันที
50. ถ้าคุณทำให้บริษัทขาดทุน ผมอาจให้อภัยได้
แต่ถ้าคุณทำลายชื่อเสียงบริษัทแม้แต่น้อย ผมจะไม่ยอมเด็ดขาด
51. ผู้บริหารบางคนซื้อหุ้นคืนเพราะเป็นแผน ไม่ได้ประเมินมูลค่าที่แท้จริง
คุณควรซื้อหุ้นเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าเสมอ
52. ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
คือคนกลุ่มหลัง “กล้าปฏิเสธ” กับทุกสิ่งที่ไม่จำเป็น
53. คนส่วนใหญ่มักสนใจหุ้นตอนที่มันได้รับความนิยม
แต่ช่วงเวลาที่ควรสนใจคือก่อนที่มันจะดัง
54. อย่าลงทุนในธุรกิจที่คุณไม่เข้าใจ
55. ถ้าแบรนด์ของคุณเป็นพรีเมียมจริง ต้องส่งมอบความพิเศษได้จริงด้วย
ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีใครอยากซื้อ
56. การลงทุนในความรู้ของตนเองเป็นวิธีเตรียมอนาคตที่ดีที่สุด
ถ้าคุณเริ่มต้นตั้งแต่อายุน้อย คุณจะมีอนาคตที่มั่นคงยิ่งขึ้น
57. สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อคุณตกอยู่ในหลุม คือ “หยุดขุดต่อ”
58. วิธีหนึ่งที่ช่วยได้คือ เขียนเหตุผลที่คุณจะซื้อหุ้นก่อนซื้อ
59. เมื่อน้ำลด เราจะเห็นว่าใครว่ายน้ำโดยไม่ใส่ชุด
(หมายถึง ความจริงจะเปิดเผยเมื่อเกิดวิกฤต)
60. โอกาสดีไม่ได้มาบ่อย ๆ
เมื่อฝนทองตกลงมา จงถือถังไปรอง ไม่ใช่แค่ถ้วยเล็ก ๆ
61. ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย มูลค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ
62. อ่านวันละ 500 หน้า นี่คือวิธีที่ความรู้เติบโต — แบบดอกเบี้ยทบต้น
ทุกคนทำได้ แต่แทบไม่มีใครทำจริง
63. ความเสี่ยงเกิดจากการที่คุณไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร
64. ถ้าธุรกิจดำเนินไปได้ดี ราคาหุ้นจะตามมาเองในภายหลัง
65. เพราะผมไม่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างแม่นยำ ผมแนะนำให้คุณซื้อหุ้น Berkshire เฉพาะเมื่อคุณตั้งใจจะถืออย่างน้อย 5 ปี นักลงทุนที่หวังกำไรระยะสั้นควรไปหาที่อื่น
66. คนที่ได้นั่งในร่มไม้วันนี้ ก็เพราะมีคนปลูกต้นไม้มานานแล้ว
67. สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเรา คือเวลาที่บริษัทชั้นยอดประสบปัญหาชั่วคราว… เราอยากซื้อในตอนที่มัน “นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด”
68. การเก็งกำไรอันตรายที่สุดในตอนที่มันดูง่ายที่สุด
69. อยู่ห่างจากมันไว้ มันเป็นแค่ภาพลวงตา… ความคิดที่ว่ามันมีคุณค่าที่แท้จริงมากมายเป็นเรื่องน่าขันสำหรับผม
70. โอกาสที่ดีที่สุดในการลงทุนคือช่วงที่ตลาดตกลง
71. ตลาดหุ้นไม่ใช่เกมที่คุณต้องตีลูกทุกครั้งที่ถูกโยนมา — คุณสามารถรอจังหวะที่ใช่ของคุณได้
72. การเป็นนักลงทุนที่ “ไม่รู้อะไรเลย” ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณรู้ตัวเองว่าไม่รู้
ปัญหาคือคุณไม่รู้อะไรเลยแต่คิดว่าตัวเองรู้
73. สิ่งนี้ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมหรือ Charlie เรากลับยินดีเสียด้วยซ้ำเวลาราคาหุ้นตก เพราะเราจะได้ซื้อเพิ่ม
74. เราไม่เคยพึ่งนโยบาย “ใหญ่เกินจะล้ม”
เราวางแผนการเงินไว้ให้มีสภาพคล่องมากพอเสมอ
75. มีหลายธุรกิจที่ผมและ Charlie ไม่เข้าใจ แต่นั่นไม่ทำให้เรานอนไม่หลับ
เราก็แค่ข้ามไปลงทุนตัวถัดไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วไปก็ควรทำเช่นกัน
76. คุณไม่มีทางทำกำไรได้ดีจากการซื้อสิ่งที่ “กำลังเป็นที่นิยม”
77. เราไม่เคยหวังพึ่งความเมตตาของผู้อื่นเพื่อให้ผ่านพ้นภาระทางการเงินในอนาคต
ผมจะไม่ยอมแลกแม้แต่คืนเดียวของการนอนหลับเพื่อโอกาสในการทำกำไรพิเศษ
78. เราจะยอมพลาดโอกาสดี ๆ ถ้ามันทำให้เราต้องก่อหนี้เกินตัว
79. ผมเชื่อมาตลอดว่าการพยากรณ์ตลาดหุ้นนั้นมีค่าแค่ทำให้ผู้ทำนายดูดี
ผมและ Charlie เชื่อว่าการคาดการณ์ตลาดระยะสั้นเป็นพิษ และควรเก็บไว้ให้ห่างจากเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจตลาด
80. สิ่งที่ดูชาญฉลาดในราคาหนึ่ง อาจกลายเป็นเรื่องโง่ในอีกราคา
81. สิ่งที่เราเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ก็คือ… คนเราไม่ค่อยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์
82. เมื่อคุณสามารถซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง นั่นอาจเป็นการใช้เงินที่ดีที่สุด
83. เมื่อมีเงินนับล้านล้านดอลลาร์บริหารโดยคนที่คิดค่าธรรมเนียมสูง
กำไรส่วนใหญ่มักไปอยู่ที่ผู้จัดการ ไม่ใช่นักลงทุน
84. เมื่อเราถือครองธุรกิจที่ยอดเยี่ยม พร้อมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยม
ระยะเวลาที่เราจะถือไว้ก็คือ “ตลอดไป”
85. ถ้าคุณมีผู้บริหารที่มีความสามารถและมีคุณธรรม แม้จะมีรายงานโดยตรงถึงสิบคน คุณก็ยังมีเวลางีบ
แต่ถ้าคุณมีคนเดียวที่ไม่น่าไว้ใจหรือไม่มีความสามารถ คุณจะจัดการไม่ไหว
86. ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้าหรือหุ้น ผมชอบซื้อของคุณภาพดีในเวลาที่มันลดราคา
87. ความกลัวอย่างกว้างขวางคือเพื่อนของนักลงทุน เพราะมันทำให้เกิดของถูก
88. คุณไม่ได้ผิดเพียงเพราะคนหมู่มากไม่เห็นด้วยกับคุณ
คุณถูก ถ้าข้อมูลและเหตุผลของคุณถูกต้อง
89. คุณไม่มีทางชนะ หากกู้ยืมเงินมาในอัตราดอกเบี้ย 18–20%
90. คุณไม่สามารถผลิตเด็กหนึ่งคนในหนึ่งเดือน ด้วยการจ้างผู้หญิงเก้าคนตั้งท้องพร้อมกัน นั่นคือ บางสิ่งต้องใช้เวลา
91. คุณสมบัติสำคัญที่สุดของนักลงทุนไม่ใช่ “สติปัญญา” แต่คือ “วินัยทางอารมณ์”
ต้องไม่หวั่นไหวตามหรือสวนกระแสมากเกินไป
92. คุณไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์จรวดเพื่อจะเป็นนักลงทุนที่ดี
แค่เข้าใจบริษัทที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของคุณก็พอ
93. ขอบเขตนั้นไม่ต้องกว้างมาก แต่คุณต้องรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน
94. ถ้าคุณซื้อหุ้นเพราะหวังว่าจะขายให้คนถัดไปในราคาสูงกว่า
คุณไม่ได้ลงทุน — คุณกำลังเก็งกำไร
95. ซื้อหุ้นเพราะคุณอยากเป็นเจ้าของ ไม่ใช่เพราะคุณหวังว่าราคาจะขึ้น
96. เรามองหุ้นที่ถืออยู่เหมือนเป็น “ความเป็นเจ้าของธุรกิจ”
ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ที่ขึ้นลงตามการวิเคราะห์หรือการคาดการณ์
97. นักโยนเหรียญครึ่งหนึ่งจะชนะในครั้งแรก
แต่ไม่มีใครคาดหวังว่าจะชนะต่อเนื่องถ้ายังเล่นเกมต่อไปเรื่อย ๆ
98. การพยากรณ์ฝนไม่สำคัญเท่ากับการลงมือสร้างเรือ
99. Wall Street เป็นที่เดียวในโลกที่คนขับ Rolls-Royce ขับไปถามคำแนะนำจากคนที่นั่งรถไฟใต้ดิน
100. ความสำเร็จในการลงทุนไม่เกี่ยวกับ IQ
สิ่งที่คุณต้องการคือ “วินัยทางอารมณ์” เพื่อไม่ตกหลุมพรางที่ทำให้คนส่วนใหญ่ล้มเหลว
- 22
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
