21 เม.ย. เวลา 10:14 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 238 เขาจี้ซาน

หลังจากต้วนเอ้อสั่งการให้มี่เซิงยกทัพออกจากเมืองไปแล้ว คืนวันถัดมา ต้วนเอ้อขึ้นหอคอยบนกำแพงสังเกตการณ์ทัพซ่งเจียง เนื่องจากเป็นคืนจันทร์เพ็ญกลางเดือนแปด แสงจันทร์กระจ่างดุจกลางวัน ต้วนเอ้อเห็นธงทัพซ่งเจียงเคลื่อนไหวสับสนไปทางเหนือ จึงกล่าวกับจว่อโหมวว่า
“คิดว่าซ่งเจียงรู้แล้วว่าที่หว่านโจวคับขัน จึงรีบถอยทัพ”
จว่อโหมวว่า “ต้องใช่แน่ ควรรีบส่งทัพม้าตามตี”
ต้วนเอ้อสั่งการให้เฉียนปิน 钱傧 เฉียนหยี 钱仪 นำทหารสองหมื่นออกจากเมืองตามตีทัพซ่งเจียง
ต้วนเอ้อมองมาทางลำน้ำเซียง 襄水 นอกเมืองทางตะวันตก ประกายคลื่นสะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับ เห็นเรือเสบียงทัพซ่งห้าร้อยลำกำลังถ่อไปทางเหนือ
ต้วนเอ้อพื้นเพเป็นพวกปล้นชิงทรัพย์ บนเรือเสบียงไม่เห็นมีทหารเรือประจำอยู่ มีเพียงลูกเรือลำละหกเจ็ดคนใช้ไม้ถ่อเรือ จึงสั่งให้เปิดประตูน้ำทางตะวันตก ให้จูเหนิง 诸能 นำเรือรบห้าร้อยลำออกไปชิงเรือเสบียง ลูกเรือเสบียงทัพซ่งเห็นเรือรบมา รีบถ่อเรือเข้าฝั่งแล้วหนีขึ้นบกกันหมด จูเหนิงให้คนที่ถ่อเรือเป็นขึ้นประจำเรือเสบียงเพื่อถ่อเรือกลับ
พลันมีเสียงม้าล่อดัง เรือเล็กร้อยกว่าลำแล่นออกมาจากกองเรือทัพซ่งราวกับเหาะ แต่ละลำมีสองฝีพาย และอีกสามสี่คนถือโล่ หอกซัด ดาบพอเตาอาวุธสั้น จูเหนิงให้ยิงธนูไฟ ปืนไฟสกัด ทหารในเรือเล็กทั้งร้อยกว่าลำรับมือไม่ไหว จึงโห่ร้องแล้วโดดน้ำหนีไป ทัพเรือโจรได้ชัย ชิงเรือเสบียงถ่อกลับเมืองไป
พอถ่อเรือผ่านประตูเมืองไปได้ลำเดียว มีคำสั่งจากในเมืองว่าให้ตรวจดูเรือทุกลำก่อน ทหารสิบกว่าคนขึ้นเรือจะเปิดไม้กระดานท้องเรือขึ้นมาตรวจ แต่ยกไม่ขึ้นจึงตกใจร้องบอกกันว่า “ถูกแผนชั่วเล่นงานแล้ว” จูเหนิงสั่งให้หาขวานและสิ่วมาเปิดทัองเรือ พร้อมทั้งตะโกนบอกว่า
“เรือที่เหลือรอนอกเมือง ไม่ต้องเข้ามา”
ทว่ามีเรือสี่ลำไม่มีคนถ่อ ดูเสมือนลอยตามกระแสน้ำเข้ามาเอง
จูเหนิงรู้ตัวว่าต้องอุบาย สั่งทหารให้ขึ้นจากเรือ พลันมีคนสิบกว่าคนโผล่มาจากใต้น้ำ แต่ละคนคาบมีดใบเหลี่ยว 蓼叶刀 (คล้ายใบผักแพว) คือพวกของหลี่จวิ้น สองจาง สามหย่วน สองถง ทหารโจรใช้อาวุธพยายามแทง หลี่จวิ้นเป่าปากเป็นสัญญาน
เรือสี่ลำที่ลอยเข้ามานั้น มีคนซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือ พอได้ยินสัญญานก็เปิดกระดานท้องเรือ ถืออาวุธโห่ร้องกันออกมา คือ เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่น หลี่ขุย หลู่จื้อเซิน อู่ซง หยางสยง สือสิ้ว เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า กงว่าง ติงเต๋อซุน โจวยวน โจวยุ่น หวางติ้งลิ่ว ไป๋เสิ้ง ต้วนจิ่งจู้ สือเชียน สือหย่ง หลิงเจิ้น ยี่สิบตัวนายและทหารอีกพันกว่าคนบุกขึ้นบกพร้อมกันไล่สังหารพวกโจรจนแตกร่นถอยหนี
จูเหนิงถูกถงเวยสังหาร ทหารเรือโจรถูกพวกหลี่จวิ้นฆ่าตายไปกว่าครึ่งจนท้องน้ำแดงฉาน หลี่จวิ้นยึดประตูน้ำไว้ได้ เป้าสวี้คุ้มกันหลิงเจิ้นให้จัดตั้งฐานยิงปืนแม่ลูก ให้พวกทหารออกเผาเมืองจนเกิดโกลาหล ชาวบ้านร้องไห้ระงมกันไปทั่ว
ต้วนเอ้อรีบนำทหารออกมา ก็ปะเข้ากับพวกอู่ซง หยางสยง สือสิ้ว หวางติ้งลิ่ว ต้วนเอ้อถูกหวางติ้งลิ่วใช้ดาบพอเตาฟันใส่ขาจนล้มและจับเป็นได้ พวกหลู่จื้อเซิน หลี่ขุย สิบกว่าตัวนายนำทหารไปยึดประตูทิศเหนือ สังหารทหารเฝ้าประตูแล้วเปิดประตูทอดสะพานรอรับทัพใหญ่
ซ่งเจียงพอได้ยินเสียงสัญญานปืนแม่ลูก ก็สั่งทัพกลับหลังหัน มารบกับทัพเฉียนปิน เฉียนหยีที่ไล่ตามมาตี เฉียนปินถูกเปี้ยนเสียงฆ่า เฉียนหยีรบหม่าหลิงจนตกจากหลังม้า แล้วถูกม้าย่ำจนตาย ทัพม้าสามหมื่นตายไปกว่าครึ่ง ซุนอัน เปี้ยนเสียง หม่าหลิงนำหน้าทัพเข้ายึดเมืองได้แล้ว จึงเชิญซ่งเจียงนำทัพใหญ่เข้ามา
ซ่งเจียงเข้าเมืองเมื่อยามห้า สั่งการให้ทหารช่วยดับไฟ ห้ามทำร้ายราษฎร พอฟ้าสางก็ออกประกาศปลอบขวัญ เหล่านายทัพนำศีรษะข้าศึกมารายงานความชอบ หวางติ้งลิ่วมัดตัวต้วนเอ้อมาส่ง ซ่งเจียงให้ส่งตัวไปให้เฉินอันฝู่ตัดสิน จว่อโหมวถูกทหารฆ่าตอนชุลมุน ซ่งเจียงให้ล้มม้าและวัวจัดเลี้ยงเหล่าทัพ ทำรายงานศึกให้หม่าหลิงนำไปส่งให้เฉินอันฝู่ หม่าหลิงไปส่งแล้วกลับมารายงานซ่งเจียงถึงวีรกรรมของเซียวย่างที่ช่วยเมืองหว่านโจวไว้ได้ในยามคับขัน
ซ่งเจียงหารือกับอู๋ย่งถึงแผนงานถัดไปที่จะจัดทัพไปตีจิงหนาน 荆南 และซีจิง 西京 พร้อมกันสองแห่ง รองแม่ทัพหลูจวิ้นอี้และขุนศึกใหม่จากเหอเป่ยอาสาเข้าตีซีจิง ซ่งเจียงชอบใจยิ่งนัก ให้จัดทัพพลห้าหมื่น ขุนศึกที่ปรึกษายี่สิบสี่นายมี รองแม่ทัพหลูจวิ้นอี้ รองเสนาธิการจูอู่ หยางจื้อ สวีหนิง สว่อเชา ซุนลี่ ซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อ เฉินต๋า หยางชุน เอี้ยนชิง เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า โจวยวน โจวยุ่น เซวียหย่ง หลี่จง มู่ชุน ซือเอิน ขุนศึกเหอเป่ย เฉียวเต้าชิง หม่าหลิง ซุนอัน เปี้ยนเสียง ซานสื้อฉี ถังปิน ยกไปตีซีจิง
ให้สื่อจิ้น มู่ชุน โอวเผิง เติ้งเฟยนำพลสองหมื่นอยู่รักษาเมืองซานหนาน 山南 พร้อมทั้งกำชับว่า “หากมีทัพข้าศึกยกมา ให้ตั้งมั่นรักษาเมืองไว้ก็พอ”
ซ่งเจียงนำขุนศึกที่เหลือ พลแปดหมื่นยกไปตีเมืองจิงหนาน เดินทัพได้วันละหกสิบลี้จนมาถึงเขาจี้ซาน 纪山 จึงตั้งค่ายลง
เขาจึ้ซานตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองจิงหนาน เป็นชัยภูมิสำคัญมีขุนศึกโจรชื่อหลี่ไหวย 李怀 นำพลสามหมื่นตั้งรักษาอยู่ หลี่ไหวยผู้นี้เป็นหลานของหลี่จู้ 李助 หวางชิ่งแต่งตั้งให้เป็นเซวียนฝูสื่อ 宣抚使 (ทูตบำบัดทุกข์)
พอได้ข่าวว่าซ่งเจียงตีเมืองซานหนานแตก จับต้วนเอ้อเป็นเชลย หลี่ไหวยรีบส่งคนมาหนานเฟิงเพื่อรายงานหวางชิ่ง หลี่จู้ว่า
“ทัพซ่งเข้มแข็งยิ่งนัก ตีเมืองเราแตกไปสองเมืองใหญ่ บัดนี้ยกทัพมาตีเมืองจิงหนาน และให้หลูจวิ้นอี้ไปตีเมืองซีจิง”
หลี่จู้รีบเข้าวังเพื่อไปทูลรายงานหวางชิ่ง แจ้งมหาดเล็กให้เข้าไปทูลยังพระราชฐานชั้นใน ทรงมีรับสั่งว่า “ให้ท่านเสนาธิการรอสักครู่ ไต้อ๋องจะเสด็จออกมา”
หลี่จู้เฝ้ารออยู่สองชั่วโมง ไม่เห็นวี่แววจะเสด็จ จึงถามมหาดเล็กที่รู้จักคุ้นเคย มหาดเล็กว่า
“ท่านอ๋องทรงวิวาทกับพระมเหสีต้วน”
หลี่จู้ถามว่า “เหตุใดจึงทรงวิวาทกับพระมเหสี”
มหาดเล็กแอบกระซิบข้างหูว่า “ทรงไม่พอพระทัยสิริโฉมพระมเหสี จึงไม่ได้เสด็จมาหานานแล้ว พระมเหสีไม่พอพระทัย”
หลี่จู้รออีกพักใหญ่ มีมหาดเล็กออกมาจากด้านในถามว่า “ท่านอ๋องทรงถามว่า ท่านเสนาธิการยังอยู่ที่นี่ไหม”
หลี่จู้ว่า “ยังเฝ้ารออยู่”
มหาดเล็กหายเข้าไปสักพัก ขบวนมหาดเล็กนางกำนัลแวดล้อมท่านอ๋องเสด็จมาประทับบนบัลลังก์ หลี่จู้กราบถวายบังคมแล้วทูลว่า
“หลานของกระหม่อมหลี่ไหวยทูลรายงานว่า กำลังทหารของซ่งเจียงเข้มแข็งนัก ตีเมืองหว่านโจว เมืองซานหนานแตกไปสองแห่ง บัดนี้ซ่งเจียงยกทัพมาตีเมืองซีจิงทางหนึ่ง ตีเมืองจิงหนานอีกทางหนึ่ง ขอไต้อ๋องทรงโปรดส่งทหารมาช่วยด้วย”
หวางชิ่งได้ฟังก็โกรธว่า “เจ้าพวกซ่งเจียงเป็นแค่โจรไพร่หนองน้ำ บังอาจถึงเพียงนี้”
จึงมีบัญชาให้ตู้ป๋อ 杜壆 นำสิบสองขุนพล ทหารสองหมื่นยกไปช่วยเมืองซีจิง ให้เซี่ยหวี่ 谢宇 นำสิบสองขุนพล ทหารสองหมื่นยกไปช่วยเมืองจิงหนาน
ทางด้านซ่งเจียงตั้งค่ายอยู่ที่เขาจี้ซานให้ทหารไปสอดแนมกลับมารายงาน ปรึกษากับอู๋ย่งแล้วกล่าวกับเหล่าขุนศึกว่า
“หลี่ไหวยมีลูกน้องห้าวหาญ เขาจี้ซานเป็นชัยภูมิสำคัญของจิงหนาน พวกเราถึงจะมีทหารมากกว่าหลายเท่าแต่พวกโจรได้เปรียบที่อยู่สูงข่มกว่าเรา หลี่ไหวยเองก็เป็นคนมากเล่ห์ การศึกครานี้มิอาจดูเบาเหมือนที่เคยผ่านมา วินัยทัพจึงสำคัญยิ่ง แม่ทัพสัญจรจักต้องเปิดทาง ขวางทางประหาร ขึ้นเสียงประหาร คำสั่งแม่ทัพไม่สั่งซ้ำสอง ต้องสั่งซ้ำประหาร ขัดขืนประหาร”
เหล่าทหารฟังแล้วต่างนิ่งขรึม ซ่งเจียงสั่งการต่อให้ไต้จงถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพเรือหลี่จวิ้นดูแลเรือเสบียงให้จงดีและขนส่งสู่แนวหน้าให้ทันเวลา จากนั้นสั่งให้คนส่งสารท้ารบนัดหมายหลี่ไหวยในวันรุ่งขึ้น
ให้ฉินหมิง ต่งผิง ฮูหยันจว๋อ สวีหนิง จางชิง ฉยงอิง จินติ่ง หวงเยว่นำพลสองหมื่นออกทำการรบ
ให้เจียวถิ่ง วี่เป่าสื้อ ต้วนจิ่งจู้ สือหย่งนำพลเดินเท้าสองพันตัดไม้ เปิดทางให้สะดวกสำหรับทำการรบ
วันรุ่งขึ้น ยามห้าลุกมาหุงหาอาหารเสร็จ พอฟ้าสางออกทำการรบ หลี่ไหวยนำขุนพลหม่าเจี้ยง 马勥 หม่าจิ้ง 马劲 หยวนหล่าง 袁朗 เถิงขุย 滕戣 เถิงคัน 滕戡 พลสองหมื่นลงเขามา ทั้งห้าขุนพลนี้เป็นผู้ห้าวหาญในทัพโจร หวางชิ่งแต่งตั้งเป็นขุนพลพยัคฆ์ ฉินหมิงนำทัพตั้งประจัญหน้าทัพโจร ทัพโจรตั้งกระบวนอยู่บนพื้นราบเชิงเขาข้างเหนือ มีกองหนุนอึกจำนวนมากอยู่บนเขา
สองทัพยิงธนูหน้าไม้ตรึงแนวกันไว้ โบกธงรัวกลอง ธงกระบวนทัพโจรแหวกออก หยวนหล่างขี่ม้าขึ้นมาหน้ากระบวน ใบหน้าแดงเคราเหลือง ร่างสูงเก้าฉื่อ ใช้ตะขอกรงเล็บมือคู่ 钢挝 เป็นอาวุธ ตะขอข้างซ้ายหนักสิบห้าชั่ง ข้างขวาหนักสิบหกชั่ง ตะโกนลั่นมาว่า
“โจรไพร่หนองน้ำ ใครจะออกมาตายก่อน”
ขุนศึกเหอเป่ย จินติ่ง หวงเยว่ใคร่สร้างความชอบจึงขี่ม้าออกมาพร้อมกัน ตวาดสวนกลับไปว่า “โจรขบถ ไม่พอมือหรอก”
จินติ่งรำง้าว หวงเยว่ควงทวนเข้ารบหยวนหล่าง ทั้งสามสู้กันได้สามสิบกว่าเพลง หยวนหล่างใช้ตะขอปัดอาวุธแล้วชักม้าหนี จินติ่ง หวงเยว่กวดม้าตามติดมา หยวนหล่างกลับม้ากระทันหัน จินติ่งถลำม้านำมา ควงง้าวแล้วฟันลงมา หยวนหล่างรับด้วยตะขอกรงเล็บซ้าย จินติ่งชักง้าวกลับไม่ทัน หยวนหล่างใช้ตะขอขวาทุบศีรษะจินติ่งแหลกพร้อมหมวกศึกตกจากหลังม้า
หวงเยว่ตามมาถึง ใช้ทวนแทงยอดอกหยวนหล่าง หยวนหล่างตาไวมือเท้าคล่อง เบี่ยงร่างหลบ หวงเยว่แทงเฉียดชายโครงขวาของหยวนหล่างวืดใส่อากาศ หยวนหล่างส่งตะขอไปหนีบไว้ด้วยแขนซ้าย มือขวาว่างคว้าทวนหนีบแล้วกระชากมาข้างหลัง หวงเยว่เซจะเข้ามาปะทะอก หยวนหล่างใช้มือขวาโอบเอวลากข้ามม้ามาแล้วทิ้งลงบนพื้น ทหารโห่ร้องกรูเข้ามาจับเป็นเชลยกลับค่ายไป ม้าวิ่งหลังเปล่ากลับมายังกระบวน
อสนีบาตฉินหมิงเห็นสองขุนพลฝ่ายตนพลาดท่าให้ศัตรู ก็โกรธจัด รำกระบองเขี้ยวโผนม้ามาหาหยวนหล่าง หยวนหล่างรำตะขอรับ สู้กันได้ห้าสิบกว่าเพลง ขุนพลหญิงฉยงอิงทัพซ่ง ชูทวนฟางเทียนจี่ ขี่ม้าเข้ามาจะช่วยฉินหมิงรุมรบ
เถิงขุยขุนศึกทัพโจรเห็นขุนพลหญิงจึงขี่ม้าออกมา หัวเราะลั่นว่า
“ทัพซ่งโจรไพร่ ต้องให้ผู้หญิงออกรบด้วยหรือ”
แล้วรำง้าวสองคมสามปลายเข้ารบฉยงอิง สู้กันได้สิบกว่าเพลง ฉยงอิงใช้ทวนจี่ปัดง้าวแล้วชักม้าหนีกลับ เถิงขุยตวาดลั่น ควบม้ากวดตามมา ฉยงอิงลอบหยิบหินจากถุงข้างอาน บิดเอวเล็งแล้วซัดหินใส่แสกหน้าเถิงขุยจนแตกเลือดไหลอาบ พลัดตกจากหลังม้า ฉยงอิงวกม้ากลับ ใช้ทวนจี่แทงใส่เถิงขุยตาย
เถิงคันเห็นทหารหญิงฆ่าพี่ชายตายก็โกรธจัด ควงกระบองเหล็กข้อไม้ไผ่ตาเสือเล่มหนึ่ง ควบม้าเข้ามาหวดใส่ฉยงอิง กระบองคู่ฮูหยันจว๋อเห็นเข้า รีบควบม้ามาสกัด ทั้งคู่ใส่ชุดเกราะดำเงาดูคล้ายกัน ต่างกันที่ฮูหยันจว๋อมีกระบองสองเล่ม ทั้งคู่หวดกันไปมาได้ห้าสิบกว่าเพลง ไม่รู้แพ้ชนะ
ทางด้านฉินหมิงกับหยวนหล่างก็รบกันได้ร้อยห้าสิบกว่าเพลงแล้ว ไม่รู้แพ้ชนะเช่นกัน หลี่ไหวยแม่ทัพใหญ่ฝ่ายโจรยืนม้ามองจากเนินสูง เห็นดังนั้น ประกอบกับฝ่ายตนเสียขุนพลไปคนหนึ่ง จึงให้ตีม้าล่อสั่งถอยทัพกลับขึ้นเขา ฉินหมิง ฮูหยันจว๋อก็ไม่ไล่ตาม กลับค่ายเช่นกัน
ตอนก่อนหน้า : อุบายรักษาเมืองหว่านโจว
ตอนถัดไป : พยุหะหกบุปผา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา