22 เม.ย. เวลา 05:28 • ปรัชญา

ท่วงทำนองของชีวิต และพลังจากบทเพลง

เมื่อพูดถึง "เพลง" ผมเชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ต้องมีเพลงที่ชอบอย่างน้อยสัก 1 เพลง และถ้าจะถามถึงเหตุผล คำตอบก็คงหลากหลาย แต่หากมีคำตอบนึงที่คล้ายกันที่ทำให้เพลงเป็นมากกว่าแค่ "เสียง" ที่รับรู้ได้ผ่าน "หู" คำตอบนั้นก็คงจะเป็น
"ความหมายในเพลงที่เข้ากับจังหวะของชีวิต"
ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น หนึ่งในคนที่อินกับความหมายของเพลง ประสานเข้าทางหู และประทับลงบนจิตใจ เพลงที่เป็นมากกว่าแค่เพลง แต่เป็นเสียงสะท้อนความคิด ความรู้สึก อันหลากอารมณ์ ทั้งความรัก ความเศร้า ความผิดหวัง ความเหนื่อยหน่าย หรือแม้กระทั่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น เป็นความหมายที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ประสานไปกับเสียงเพลง จนกลายเป็นความ "อิน" ในเพลง ที่สะท้อนความหมายออกมาอย่างลึกซึ้ง
"เพลง" จึงกลายเป็นเสียงที่ตรงกับ "คลื่น" ของหัวใจ และส่งต่อมาเป็น "จังหวะ" ที่ขับเคลื่อนการใช้ชีวิต
ชวนให้ผมนึกย้อนอดีตไปในวันที่เคยเป็นเด็กอ้วน เริ่มต้นออกกำลังกายอย่างจริงจัง เพื่อให้ดูดีพอที่จะมีสาวสนใจ ผมมักจะฟังเพลง "สักวันฉันจะดีพอ" ของพี่ตูน Bodyslam วนซ้ำแบบอยู่นั้นมากกว่า 3 เดือน ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มออกกำลังกาย จนเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้สำเร็จ และก็คงไม่เกินจริงที่จะบอกว่าผมได้พลังใจจากเพลงนี้ที่ขับเคลื่อนสองเท้าของผม ให้ออกวิ่งอย่างต่อเนื่อง
ถ้าจะฉายภาพให้เห็นชัดมากที่สุด คงไม่พ้น "เรื่องความรัก" ที่อบอวลไปด้วยความรู้สึกมากมาย ขยายออกมาตามเสียงเพลงที่ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น หรืออาจจะทำให้เศร้าลงกว่าเดิม เพลงที่เกี่ยวกับความรัก จึงมีส่วนในการกำกับจังหวะของหัวใจเราไม่น้อย
ในช่วงชีวิตของเราทุกคนที่ล้วนมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย รวมกันเป็นล้านความรู้สึก "เพลง" จึงเป็นเสมือนเพื่อนแท้ที่อยู่ข้างเราเสมอมา ในวันที่เจ็บปวด เรามีเพลงเศร้าคอยปลอบใจ ในวันที่เหนื่อยล้า ก็มีเพลงเพื่อชีวิตเดินเข้าหา และในวันที่มีความสุข ก็ยังมีเพลงที่ร่วมยินดีไปกับเรา
เสียงเพลงจึงเป็นมากกว่าแค่เสียงเพลง แต่เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้าง และมอบพลังให้เราก้าวเดินต่อไปในจังหวะ และท่วงทำนองของชีวิตอย่างมีความหมาย
โฆษณา