23 เม.ย. เวลา 00:53 • นิยาย เรื่องสั้น

ความคิด Toxic ที่มนุษย์ 3D เข้าใจ

วันนี้ขอเสนอ ผู้คนที่พยายามหาความ Toxic ของคนอื่น
ล้วน Toxic มากกว่าคนที่ถูกเรียกว่าเป็นคน Toxic ด้วยซ้ำ
แนวทางของเราทำไมถึงไม่เน้นเป็นคนดีย์
เพราะคำว่า คนดีย์ นี่แหละ เป็นตัว Toxic ชั้นดี
เพราะคิดว่าตัวเองดีย์ จะทำอะไรก็ได้ ไม่ผิดอยู่แล้ว
ส่วนคนอื่นผิดหมด วันๆคิดแต่จะมองหาความผิด
มองหาแต่ความ Toxic ของคนอื่น คนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
คนนั้นอิจฉาคนนี้ คนนั้นทำไมไม่ทำตัวแบบนีั
ทำไมคนนั้นไม่เป็นแบบที่ตัวเองอยากให้เป็น
พอเค้าไม่เป็นแบบที่ตัวเองคาดหวังก็ไม่ว่าเค้า Toxic
ไม่รู้สินะ คนที่ว่าคนอื่น Toxic ก็ Toxic ไม่ต่างกันหรอก
คนที่ดีจริงๆเนี่ย คงไม่มานั่งจับผิดคนอื่นหรอกมั้งนะ
คนที่ดีๆจริงคงไม่มานั่งคิดว่า ใครอิจฉาตัวเองบ้าง
อยากรู้ไปทำไมว่า ใครอิจฉาใคร รู้ไว้ปั่นคนอื่นหรอ?
จะบอกให้นะว่ามันไร้สาระมาก กับการที่สนใจว่า
คนนั้นแอบอิจฉาเรารึเปล่า มีใครไม่ชอบเราบ้าง
หรือใครอยากเป็นแบบนั้นแบบนี้บ้าง
อุ้ย คนนั้นอิจฉาเธอ (อันนี้ปั่นและ)
มันไร้สาระมากนะสำหรับเราในมุมมองของเรา
ทุกคนมีมุมของตัวเองที่ถูกเสมอแหละ
แม้แต่คนที่บอกว่าตัวเองถูกกระทำก็ถูกเสมออยู่ดี
หรือกระทำคนอื่นก็ถูกเสมออยู่ดี
ทุกคนก็ล้วนเข้าข้างตัวเองอยู่แล้วแหละ
หัวข้อจับผิดความ Toxic ผู้ที่จับผิดคนอื่น
จะต่างอะไรกันกับคนที่โดนเป็นตัวละครที่ Toxic
หรือแบ่งแยกประเภทนั้น ประเภทนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
สำหรับสายตื่นรู้ ยกระดับจิตวิญญาณ
ไม่มีความ Toxic มันเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาเอง
คิดว่าตัวเองโดนทำร้าย และคิดว่าคนอื่นทำร้ายตัวเอง
(แต่ก่อนที่ใช้จิตมนุษย์ 3D คิด ก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน)
แต่จริงๆแล้ว ทุกเหตุการณ์ “ตัวเองนั่นแหละ”
ที่สร้างเหตุการณ์ขึ้นมาเอง
สำหรับใครที่คิดว่าฉันเป็นคนดีทำไมเจอแต่ชีวิตแย่ๆ
เจอแต่คนมาทำร้ายฉัน หรือเจอแต่เหตุการณ์ร้ายๆ
ขอถามนิดนึง คนดีที่ไหนจะบอกว่าตัวเองเป็นคนดี
การเป็นคนดีเพื่อที่จะได้รับสิ่งดีตอบแทน
นั่นเรียกว่าเป็นดีจริงๆหรอ แล้วทำไมถึงเจอเหตุการณ์
ร้ายๆ เหตุการณ์ที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต
ก็ต้องถามว่า แล้วใครบ้างที่ไม่เจอเหตุการณ์ร้ายๆ
ในดาวเคราะห์โลกนี้มีใครบ้างที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ร้ายๆ
ถ้าเป็นคนดีแบบจักรวาลจริงๆนะ
จะมองหาแต่ความดี ข้อดีของคนอื่น
หรือมองหาข้อดีของเหตุการณ์นั้นๆ
และขอบคุณทุกคน ทุกเหตุการณ์
มีโกรธ เกลียด ด่า ใช้อารมณ์บ้าง (ปกป้องตัวเอง)
เพราะเราเป็นมนุษย์ไม่ใช่รูปปั้น
มีด่ากลับ สู้กลับ ร้องไห้ ดีใจ หัวเราะ
ใน ณ ขณะ แต่พอผ่านเหตุการณ์นั้นไปแล้ว
ก็ลืมมันไป อยู่ในปัจจุบันอีกปัจจุบัน
การมองเห็นแต่ความดีของคนอื่น
ไม่ว่านั่งปั่นหัวคนอื่นว่าคนนั้นอิจฉาคนนั้นคนนี้
นั่นแหละ พลังงานที่หมกมุ่นกับเหตุการณ์ที่คิดว่า
ตัวเองโดนทำร้าย หรือ คิดว่าใครอิจฉาฉันบ้าง
รวมถึงพลังงานของความกลัวจนสร้างความคิดต่างๆ
ไปทางลบ นั้นแหละคือการสร้างชีวิตตัวเอง
ในเมื่อส่งความคิดแบบนั้นออกไป
แล้วจะได้เหตุการณ์ดีๆกลับเข้ามา มันจะเป็นไปได้ยังไง
ในเมื่อความคิดและความรู้สึกที่แท้จริงข้างใน
ส่งออกแต่เหตุการณ์ ลบ ร้ายๆ คิดแต่ว่าใครอิจฉาฉัน
คิดแต่ว่าคน Toxic คนนี้ Toxic ก็ในเมื่อคิด
และส่งเหตุการณ์แบบนั้น ส่งภาพแบบนั้นออกไป
แล้วต้องการเจอความสุข คนที่ดีจากข้างในจริงๆ
ขอถามหน่อยว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง
ส่งอะไรออกไป จักรวาลก็ส่งสิ่งนั้นกลับมาเสมอ
จักรวาลยุติธรรมเสมอกับทุกสรรพสิ่ง
หรือแม้แต่ต้องการความโชคดีในชีวิต
แต่ดูถูกความโชคดี และเกลียดคนที่โชคดี
แล้วความโชคดีจะเกิดกับตัวเองได้ยังไง
และอีกอย่าง ไม่เชื่อในความรักแท้
จะเจอความรักแท้ได้ยังไง จะบอกอะไรให้นะ
ปากบอกว่าเชื่อในความรักแท้
แต่ความคิด จิตข้างใน ส่งออกแต่ความคิดที่ว่า
ฉันจะเจอคน เจ้าชู้ Toxic บลาๆ
จิตส่งออกแต่แบบนั้น จักรวาลก็จะส่งคนแบบนั้นมาให้ไง
ถ้าเข้าใจตรงนี้มันก็ใช้ได้กับทุกเรื่อง
ส่งความรู้สึกที่แท้จริงที่คิดกับตัวเองยังไง
จักรวาลก็จะส่งสิ่งนั้นกลับมาให้เป็นประสบการณ์ของตัวเอง
คิดว่าตัวเอง ยากจน ไม่คู่ควรกับความร่ำรวย
ก็จะได้รับสิ่งนั้น เพราะส่งความรู้สึกที่แท้จริงออกไป
จริงๆ แล้ว กายภาพภายนอก หรือ บุคคลรอบข้างของตัวเอง
คนรักของตัวเอง หรือประสบการณ์ที่เจอทั้งหมด
ล้วนเกิดจากความรู้สึกที่แท้จริงที่คิดว่าตัวเองคู่ควร
สร้างกายภาพภายนอกขึ้นมาเป็นประสบการณ์ของตัวเอง
แล้วคิดว่า ทำไมฉันเป็นคนดีถึงเจอเหตุการณ์ร้ายๆ
ก็ข้างในความรู้สึกที่แท้จริงกับตัวเองเป็นยังไง
ก็จะดึงดูดประสบการณ์นั้นเข้ามา
เป็นกายภาพตัวเองนั่นแหละ
ทำไมฉันเจอแต่คน Toxic ก็ลองเข้าดูจิตวิญญาณตัวเอง
ความคิดกับตัวเองข้างในที่แท้จริงสิ ตัวเองอาจจะเป็น
ก็เลยดึงดูดประสบการณ์เดียวกันเข้ามา
(อันนี้ในกรณีที่ไม่ได้โดนฝ่ายมืดแกล้งนะ
ฝ่ายมืดทำร้ายจริงๆก็มี แต่เกิดจากตัวเองจริงๆก็มี)
จักรวาลยุติธรรมกับทุกสรรพสิ่งเสมอ
ส่งความรู้สึกที่แท้จริงจากข้างในอะไรออกไป
ก็จะได้ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองกลับมา
ไม่ใช่แค่ความคิดนะ แค่คิดไม่ยังดึงดูดไม่ได้
ต้อง อิน รู้สึกมากๆระดับจิตใต้สำนึก
ไม่อย่างนั้น ผู้ครองโลก คนไม่ใช้วิธีสะกดจิต
ผ่านบทเพลง ละคร หนัง สื่อต่างๆหรอก
มันคือความแนบเนียนในการหลอกใช้
พลังงานพระผู้สร้างของมนุษย์ทุกคน
โฆษณา