23 เม.ย. เวลา 06:15 • การศึกษา

ประโยชน์ของ "รอยยิ้ม" ตามหลักพุทธศาสนา

.
สวัสดีครับ กระผม คุณครูเอ็กซ์ตร้า
.
กราบสวัสดี ผู้เจริญในธรรม ในศีล สมาธิ ปัญญา ทุกท่าน ครับ
.
คุณเคยสงสัยกันมั้ยครับ ?
ว่าทำไม ? พระพุทธรูปส่วนใหญ่ ท่านจึงมี "รอยยิ้ม"
.
"รอยยิ้ม" นั้นไม่ใช่แค่การขยับมุมปาก นะครับ
แต่คือ สัญลักษณ์ของ "จิตใจที่เบิกบาน"
.
ในพุทธศาสนา "รอยยิ้ม" ไม่ได้เกิดจาก ความสนุกชั่ววูบ ครับ
.
แต่เกิดจาก "จิตใจที่รู้เท่าทัน" ตามหลัก "สติปัฏฐาน 4"
.
ผู้ที่มี "ชัยชนะ" ย่อมยิ้มได้ แม้ใน "ความทุกข์"
.
เพราะเขารู้ว่า
ความทุกข์ก็ไม่เที่ยง ความสุขก็ไม่เที่ยง
เพราะ "รอยยิ้ม" คือ "การไม่ยึดติด"
.
ประโยชน์ของ "รอยยิ้ม" มีเยอะมากเลย นะครับ
.
การยิ้ม ช่วยกระตุ้นการหลั่งสาร เอ็นดอร์ฟิน (สารแห่งความสุข)
.
และ เซโรโทนิน ซึ่งช่วย "ลดฮอร์โมนความเครียด"
อย่างคอร์ติซอล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ครับ
.
การยิ้ม บ่อย ๆ ช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น
แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
การยิ้ม สามารถช่วยให้รู้สึกมีพลัง และ มองโลกในแง่ดี
.
การยิ้ม ช่วยลดความดันโลหิต เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
อาจช่วยให้อายุยืนยาวขึ้น
เพราะลดความตึงเครียด ที่ส่งผลต่อร่างกาย
.
การยิ้ม ทำให้ดู "เป็นมิตร" น่าเชื่อถือ เข้าถึงง่าย
ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งในชีวิตส่วนตัว การทำงาน
.
การยิ้ม เป็นสิ่งที่ "ติดต่อ" ได้
เมื่อคุณยิ้มให้ใคร เขามักจะยิ้มตอบ โดยอัตโนมัติ
ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศใน "เชิงบวก"
.
การยิ้ม ทำให้คุณดูมีความมั่นใจมากขึ้น
ทั้งในสายตาของตัวเอง และ ผู้อื่น ช่วยเพิ่มเสน่ห์ส่วนบุคคล
.
ในสถานการณ์ตึงเครียด การยิ้มอย่างจริงใจ สามารถลดความรุนแรง
และ ทำให้อีกฝ่ายเปิดใจมากขึ้น
.
การยิ้ม เป็นวิธีง่าย ๆ ในการฝึกคิดบวก และ การ "มีสติ' อยู่กับปัจจุบัน
.
การยิ้ม ในที่ทำงานช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี
ลดความเครียด ระหว่างเพื่อนร่วมงาน และ เพิ่ม productivity (ผลผลิต)
.
และที่สำคัญ ครับ "รอยยิ้ม" เป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง
ที่ให้กันได้ฟรี ๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ครับ
.
สรุป ครับ
.
เมื่อเรายิ้ม "สมอง" จะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (สารแห่งความสุข)
.
แต่ในทาง "พุทธศาสนา" ลึกซึ้งกว่านั้น ครับ
.
เปรียบ "รอยยิ้ม" คือการ "ฝึกมรณานุสสติ"
รู้สึกตัวว่า ชีวิตมีจำกัด จึงเลือก "ยิ้มรับ" แทน "การโกรธ"
.
พระอาจารย์หลายท่าน บอกว่า
"การยิ้ม" รับได้ แม้ใกล้ถึง "ความตาย"
คือ ยอดปรารถนาของ "ผู้รู้แจ้ง"
.
"อภิรมฺมโน วิหรติ" ผู้มีใจเบิกบาน ย่อมอยู่เป็นสุข
.
บางคนยิ้มแล้ว ยังมีความทุกข์ เพราะยิ้มแบบ "เสแสร้ง"
.
"พุทธศาสนา" สอนให้ยิ้มแบบ "รู้สึกตัว" ตามหลัก "สัมมาสติ"
.
ก่อนยิ้ม ลองถามตัวเองดู นะครับว่า
"จิตใจ" ของเรากำลังยึดอะไร ? อยู่หรือเปล่า
.
ยิ้มแบบไม่ต้องรอให้มี "ความสุข" ครับ
ยิ้มได้ แม้ในวันที่ล้มเหลว
.
"รอยยิ้ม" ของท่าน อาจเป็น "แสงสว่าง" ของใครบางคน
.
"พระพุทธเจ้า" สอนว่า "อามิสทาน" คือ การให้วัตถุ
.
แต่สู้การให้แบบ "ธรรมทาน" ไม่ได้
.
"การยิ้ม" ให้คนแปลกหน้า โดยไม่หวังผล
อาจคือ การให้ "ธรรมะ" ที่เรียบง่ายที่สุด
.
"วันนี้ "คุณ" ลองฝึกยิ้มแบบ "พุทธศาสนา" ดูมั้ยครับ
.
ไม่ต้องรอให้มีความสุขสุดขีด
แค่ยิ้มว่า วันนี้ ตอนนี้ เดียวนี้ "เรายังมีลมหายใจ" อยู่
.
อะไรที่ทำให้เราโกรธ ทำให้เราเครียด ทำให้เราเสียน้ำตา
ปล่อยวางมันลงไปเถอะ นะครับ
.
แล้วสักวันหนึ่ง คุณ จะรู้ว่า
รอยยิ้มที่แท้จริง คือ การยอมรับความจริง
ยอมรับความ "ไม่เที่ยงของชีวิต"
.
ทุกท่าน ยังจำกันได้อยู่มั้ยครับว่า
"สยามเมืองยิ้ม" คือ สิ่งที่พวกเราเป็น ครับ
.
สุดท้ายในตอนนี้ ครับ ขอให้ผู้เจริญในธรรม ทุกท่าน
.
จงเป็นผู้เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
จนนำไปสู่ความหลุดพ้น จากความทุกข์ทั้งปวง ทุกคน ทุกท่าน ด้วยเทอญ สาธุ 🙏🙏🙏
.
สวัสดีครับ
.
#ธรรมะ , #ศาสนาพุทธ , #พุทธศาสนา , #ยิ้ม , #รอยยิ้ม
โฆษณา