สติ และ สมาธิ มูลค่า 100 ล้านบาท คุณจะขายมั้ยครับ ?
.
สวัสดีครับ กระผม คุณครูเอ็กซ์ตร้า
.
กราบสวัสดี ผู้เจริญในธรรม ในศีล สมาธิ ปัญญา ทุกท่าน ครับ
.
"สติ และ สมาธิ สมบัติล้ำค่าของตัวเรา
ที่ไม่สามารถ ประเมินเป็นมูลค่าทางวัตถุได้
.
"พุทธศาสนา" สอนว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุด คือ สติ และ สมาธิ
.
สมบัติล้ำค่าภายใน ที่ไม่มีใครจะขโมยของเราไปได้
.
ในตอนนี้ครับ กระผมจะพาทุกท่าน
มาสัมผัส "ความสงบ" ภายในจิตใจ
ที่อาจหายไป กับความเร่งรีบ กับความวุ่นวายของชีวิต ครับ
.
เรามาทำความเข้าใจ "สติ" กันก่อน นะครับ
.
"สติ" คืออะไร ?
.
สติ คือ การมีสมาธิ และ ความตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะ
.
อย่างไม่ตัดสิน หรือ ปฏิกิริยาการโต้ตอบอัตโนมัติ
.
โดยการดึง "จิตใจ" มาไว้ที่ "ที่นี่ และ ตอนนี้"
.
แทนที่จะจมอยู่กับ "อดีต" หรือ กังวลอยู่กับ "อนาคต" ครับ
.
"พระพุทธเจ้า" ตรัสว่า "สติ" เป็นหนทางสู่ "ความไม่ตาย"
.
เพราะมันทำให้เรา ไม่จมอยู่กับอดีต หรือ กลัวอนาคต ครับ
.
การอยู่กับ "ปัจจุบัน"
รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ? รู้สึกอย่างไร ? ในขณะนี้
.
การสังเกต โดยไม่ตัดสิน รับรู้ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก
โดยไม่บอกว่าดี หรือ ไม่ดี
.
การรับรู้ แบบเปิดกว้าง ไม่ปฏิเสธ หรือ ยึดติด กับประสบการณ์ใด ๆ
.
ประโยชน์ของ "สติ" คือ
.
ลดความเครียด และ ความคิดวิตกกังวล
.
เพิ่มความสามารถในการจดจ่อ และ การตัดสินใจ
.
พัฒนาความสัมพันธ์กับตัวเอง และ ผู้อื่น
.
ช่วยจัดการ "อารมณ์" ได้ดีขึ้น
.
ต่อมาครับ มาทำความเข้าใจกับ "สมาธิ" กันบ้าง
.
"สมาธิ" คืออะไร ?
.
สมาธิ คือ การฝึกฝน "จิต" ให้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างต่อเนื่อง
.
โดยไม่วอกแวก หรือ ถูกกระตุ้นจากสิ่งรบกวนภายนอก
.
จน "จิตใจ" สงบนิ่ง มีความกระจ่าง และ มีพลัง
.
คนเรามักคิดว่า "สมาธิ" คือเรื่องของ "พระ" นักบวช
.
แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ
เครื่องมือที่ช่วยให้เรามี "สติ ปัญญา" ในการตัดสินใจ
และ รับมือกับความเปลี่ยนแปลงของชีวิต
.
ความเป็นหนึ่งเดียว
"จิต" มุ่งเน้นไปที่อารมณ์เดียว เช่น ลมหายใจ แสงเทียน
.
ความนิ่ง และ ความสงบ
ลดความคิดฟุ้งซ่าน หรือ ความกระสับกระส่าย
.
การมี "สติ" ต่อเนื่อง
รู้สึกตัวตลอดว่ากำลัง "จดจ่อ" อยู่กับอะไร
.
ประโยชน์ของ "สมาธิ" คือ
.
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเรียน การใช้ชีวิตประจำวัน
.
ลดความเครียด และ ความดันโลหิต
.
พัฒนาความจำ และ ความคิดสร้างสรรค์
.
ที่นี้ ครับ
หากกระผม จะถามต่ออีกว่า
.
สติ กับ สมาธิ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ?
.
คำตอบ ก็คือ
.
"สมาธิ" เป็นฐานของ "สติ" ครับ
.
เมื่อ "จิต" มี "สมาธิ" จดจ่อได้ดี
จะช่วยให้ "สติ" แข็งแรง
รับรู้อารมณ์ และ ความคิดได้ชัดเจนขึ้น
.
เช่น เวลาเรา "นั่งสมาธิ"
เมื่อ "จิต" นิ่งพอ จึงจะเห็น "ความคิด"
ที่ผ่านเข้ามา โดยไม่ถูกครอบงำ
.
"สติ" ช่วยรักษา "สมาธิ"
การมี "สติ" รู้สึกตัว เมื่อ "จิต" หลุดจาก "สมาธิ"
ทำให้เราดึง "ความจดจ่อ" กลับมาได้เร็ว
.
เช่น ระหว่าง "นั่งสมาธิ" แล้วเราเผลอ "คิดฟุ้งซ่าน"
.
"สติ" จะช่วยให้รู้ตัว และ กลับมาที่ "ลมหายใจ" ใหม่อีกครั้ง
.
ยกตัวอย่าง ในชีวิตประจำวัน ครับ
.
ขณะที่เรากำลังทำงาน "สมาธิ" จะจดจ่อกับงาน ที่อยู่ตรงหน้า
.
เมื่อ "เรา" มีอารมณ์มารบกวน "สติ"
"เรา" จะรู้สึกตัวว่า "เรากำลังโกรธ"
แล้ว "เรา" จะสามารถ เลือกวิธีจัดการ
กับอารมณ์นั้น ได้อย่างเหมาะสม
.
อุปมา เปรียบเทียบ เหมือนกับ
.
"สมาธิ" เหมือนแสงเลเซอร์ ครับ ที่โฟกัสแคบ แต่ "แรง"
.
"สติ" เหมือนแสงไฟส่องกว้าง ครอบคลุมทุกอย่าง แต่ "ไม่เจาะลึก"
.
การฝึกทั้งสองอย่างร่วมกัน
เหมือนมี ทั้งไฟฉาย และ แสงเลเซอร์ ในที่มืด ครับ
.
สรุป ครับ
.
สติ และ สมาธิ เป็นเหมือน "เพื่อนคู่คิด" ในการ "พัฒนาจิตใจ"
.
"สมาธิ" เท่ากับ ฝึกให้ "จิต" มั่นคง
.
ส่วน "สติ" เท่ากับ ฝึกให้ "จิต" ให้รู้สึกตัว และ ยืดหยุ่น
.
การฝึกฝน ทั้งสองอย่าง ควบคู่กันไป
.
จะนำไปสู่ "จิต" ที่สงบ มั่นคง ชัดเจน
แล้วเราจะกลายเป็นคนมี "ปัญญา" ครับ
.
เมื่อสติ และ สมาธิ ทำงานร่วมกัน
ชีวิตของ "คุณ" จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
.
พระอาจารย์หลายท่าน บอกว่า
นี่คือ วิธีรับมือกับความแก่ ความเจ็บป่วย ความสูญเสีย
.
เพราะไม่ว่าโลกภายนอก จะเปลี่ยนไปอย่างไร ?
"จิตใจ" ที่ฝึกดีแล้ว จะไม่ทำให้เราหวั่นไหว
.
อาจไม่ต้องนั่งขัดสมาธิ เป็นชั่วโมง ๆ
เหมือนพระอาจารย์ ท่านก็ได้นะครับ
.
เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยวิธีการสังเกตุ
เวลาเราล้างจาน รู้สึกถึงน้ำ และ ฟองสบู่
.
เวลาเดิน รู้สึกทุกย่างก้าว ที่เราเดิน
.
เวลากิน ชิมรสชาติอาหาร สัมผัสลิ้มรสชาติ อย่างจริงใจ
.
นี่ก็คือ การฝึกสติ และ การฝึกสมาธิ เบื้องต้น
ที่ทำได้ทุกวัน ที่ทุกคนก็ทำได้ แล้วครับ
.
"สมาธิ" ต่างจาก "สติ" ตรงที่
สมาธิ คือ "การรวมจิตเป็นจุดเดียว"
.
ส่วน "สติ" คือ "การรู้สึกตัวในปัจจุบัน"
.
ทั้งสองมักเสริมสัมพันธ์กัน
เช่น การทำ "สมาธิ" เพื่อให้ "จิต" นิ่งก่อน
จึงค่อยเจริญ "สติ" ต่อ ครับ
.
ข้อควรระวัง นะครับ
.
การมีแต่ "สมาธิ" โดยขาด "สติ"
อาจทำให้หลงเพลิน ในความสงบ แต่ไม่เกิดปัญญา ครับ
.
การมีแต่ "สติ" โดยไม่มี "สมาธิ"
อาจทำให้ "จิต" วอกแวกง่าย "รับรู้" ครับ แต่ไม่นิ่งพอ
.
ในโลกที่ทุกอย่าง วัดกันด้วยวัตถุ
สติ และ สมาธิ ของคุณ
อาจคือ "มรดกทางจิตใจ" นะครับ
.
ที่สามารถ ส่งต่อให้คนรัก ลูก-หลาน
เป็นตัวอย่าง ในการดำเนินชีวิต
.
คุณลองสังเกตุดี ๆ นะครับ
.
มหาเศรษฐี ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
หลายท่าน เมื่อแก่ชรา ขึ้นมา ครับ
.
บุคคลเหล่านี้
เขาก็จะวิ่งหาแค่เพียง "ความสุขสงบ" ภายในจิตใจ
.
ไปบ้านสวน หาปลูกต้นไม้ ดื่มด่ำกับ "ความสงบ" ของธรรมชาติ
.
"อย่าวัดค่า "ความสุขสงบ" ด้วยสิ่งที่คุณมี (วัตถุ) เลยนะครับ
.
แต่จงวัดค่า "ความสุขสงบ"
กันด้วย "ความสุขสงบ" ที่อยู่ภายใน "จิตใจ" ของเรา ครับ
.
ที่ไม่ว่า "มูลค่า" จะเท่าไหร่
ก็ไม่มีใคร สามารถจะซื้อหา และ เอาของเราไปได้
.
สุดท้ายในตอนนี้ ครับ ขอให้ผู้เจริญในธรรม ทุกท่าน
.
จงเป็นผู้เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
จนนำไปสู่ความหลุดพ้น จากความทุกข์ทั้งปวง ทุกคน ทุกท่าน ด้วยเทอญ สาธุ 🙏🙏🙏
.
สวัสดีครับ
.
#ธรรมะ , #ศาสนาพุทธ , #พุทธศาสนา , #สติ , #สมาธิ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
