Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
25 เม.ย. เวลา 10:22 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 240 ธัญพืชช่อหกรวง
หลูจวิ้นอี้ตั้งทัพรออยู่ราวหนึ่งชั่วโมง ทัพศัตรูฝ่ายตะวันตกก็มาถึง สองทัพลั่นกลองร้องโห่ เว่ยเห้อ 卫鹤 นายทัพโจรรำง้าวขี่ม้ามาด้านหน้า ซานสื้อฉีฝ่ายซ่งไม่พูดพล่ามทำเพลงชูทวนควบม้าเข้าหา รบกันได้สามสิบกว่าเพลง ซานสื้อฉีแทงทวนถูกขาหลังม้าของเว่ยเห้อ ม้าทรุดขาหลัง เว่ยเห้อเสียหลักตกม้า ซานสื้อฉีตามมาแทงด้วยทวนตาย
เฟิงไท่ 酆泰 ฝ่ายทัพตะวันตกโกรธจัด รำกระบองเหลี่ยมคู่ ควบม้าเข้าหาซานสื้อฉี รบกันได้สิบกว่าเพลง เปี้ยนเสียงดูท่าซานสื้อฉีสู้เฟิงไท่ไม่ได้ จึงถือทวนควบม้าเข้ามาช่วย เฟิงไท่ตวาดเสียงดังลั่น ชิงใช้กระบองฟาดเผด็จศึกซานสื้อฉีตกม้า แล้วตามเข้ามาฟาดอีกกระบองตาย แล้วหันรับมือเปี้ยนเสียง เปี้ยนเสียงดุดันกว่า หัวม้าเฟิงไท่เพิ่งใกล้เข้ามา เปี้ยนเสียงตวาดลั่น แทงทวนถูกอกเฟิงไท่ตกม้าตาย สองทัพส่งเสียงโห่ร้อง
ตู้ป๋อ 杜壆 แม่ทัพใหญ่ฝ่ายตะวันตกเห็นลูกน้องตนตายไปสองคน โกรธจนควันขึ้น ถือทวนงูจ้างแปดขี่ม้ามาหน้ากระบวน
หลูจวิ้นอี้แม่ทัพฝ่ายซ่งขี่ม้าออกมาเองเช่นกัน เข้ารบกับตู้ป๋อได้ห้าสิบกว่าเพลง ไม่รู้แพ้ชนะ ซุนอันเห็นหลูจวิ้นอี้เอาชนะไม่ได้ถือกระบี่จะเข้ามาช่วย จวอเม่า 卓茂 ขุนพลโจรรำกระบองเขี้ยวออกสกัด สู้กันได้สี่ห้าเพลง ซุนอันฟันจวอเม่าด้วยกระบี่ตกม้าตาย แล้วรีบเข้ามาช่วยรุมฟันใส่ตู้ป๋อ ตู้ป๋อเห็นจวอเม่าถูกฆ่า ยังไม่ทันตั้งตัว กระบี่ของซุนอันก็ถึงตัวฟันใส่แขนขวาขาดตกจากหลังม้า หลูจวิ้นอี้ตามมาซ้ำด้วยทวนตาย แล้วสั่งทหารไล่สังหารทัพโจร
พลันมีทหารม้ากองหนึ่งปรากฏขึ้นบนทางน้อยทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผู้นำหน้าดำอัปลักษณ์หยาบกระด้าง ผมบนหัวสั้นกระเซิง สวมมงกุฎพรตเหล็ก ชุดศึกสีม่วงแดง ถือกระบี่ขี่ม้าสีถ่านไฟแดงควบนำมา หลูจวิ้นอี้เห็นชุดศึกฝ่ายศัตรู ก็ขับทหารเข้าโจมตี
ขุนศึกผู้นั้นไม่เข้ามาต่อกรด้วย ปากพึมพำอะไรอยู่สองสามคำแล้วฟันกระบี่ไปทางทิศใต้ ชั่วพริบตา มีไฟพ่นออกมาจากปาก เกิดไฟลุกโชติช่วงบนพื้นเป็นแนวพุ่งตรงมายังทัพซ่ง พวกหลูจวิ้นอี้ต้องหนีกันจ้าละหวั่น ที่หนีไม่ทันถูกเผาตายไปห้าพันกว่าคน แตกทัพยับเยิน เสียม้าศึกและยุทโธปกรณ์ไปจำนวนมาก เหล่าขุนพลคุ้มกันหลูจวิ้นอี้หนีมายังสะพานผิงเฉวียน
ทหารที่มาถึงก่อนแย่งกันข้ามจนสะพานรับน้ำหนักไม่ไหวหักถล่มลง โชคดีที่เอี้ยนชิงไปตัดไม้มาผูกสะพานชั่วคราวลอยขนาบสองข้างของสะพานไว้ให้ทหารใช้ข้ามกลับมาได้ทั้งสองหมื่นคน
หลูจวิ้นอี้และเปี้ยนเสียงอยู่รั้งท้าย พอมาถึงสะพาน นายทัพโจรตามมาทัน พ่นไฟใส่เปี้ยนเสียงจนไฟลุกท่วมตัว ตกจากม้า ทหารกรูตามเข้ามาสังหาร ส่วนหลูจวิ้นอี้ โชคดีที่หนีข้ามสะพานลอยลำลองมาทัน
ทหารซ่งที่ข้ามมาก่อนแจ้งสถานการณ์ให้เฉียวเต้าชิงรู้ เฉียวเต้าชิงจึงรีบขี่ม้าถือกระบี่มารับมือนายทัพโจร นายทัพโจรตามหลังทัพซ่งมา พอเห็นเฉียวเต้าชิง ก็ใช้กระบี่ฟันไปทางใต้ แล้วพ่นไฟออกมาเช่นเดิม เปลวเพลิงคราวนี้ดูจะร้อนแรงขึ้นไปอีก
เฉียวเต้าชิงบริกรรมคาถา แล้วชี้กระบี่ไปทางทิศขั่น 坎方 แห่งวารี (ทิศเหนือ) ใช้เวทสมาธิเทพวารี 三昧神水的法 เกิดเป็นไอดำลอยมานับร้อยนับพันสาย แล้วกลายเป็นแอ่งน้ำตกลอยฟ้าพ่นน้ำนับล้านล้าน 亿兆 หยดใส่นายทัพโจร และดับไฟปีศาจเสียสิ้น นายทัพโจรเห็นเวทตนถูกสยบ จึงชักม้าหนี ม้าวิ่งเหยียบหินเปียกน้ำเสียหลักถอยหลังสลัดเอาคนขี่ตกม้า เฉียวเต้าชิงตามมาถึงใช้กระบี่ฟันตัวขาดเป็นสองท่อน ทหารม้าห้าพันถอยหนีกลับไป แต่ลื่นล้มลุกคลุกคลานกันอยู่ห้าร้อยกว่าคน เฉียวเต้าชิงชูกระบี่ตวาดว่า
“ผู้ใดยอมจำนน จะให้เก็บหัวลาเอาไว้”
ทหารโจรเหล่านั้นเห็นฤทธิ์เดชของเฉียวเต้าชิง พากันวางอาวุธร้องขอชีวิตยอมจำนน เฉียวเต้าชิงจึงกล่าวปลอบขวัญ แล้วตัดหัวนายทัพโจร นำเหล่าโจรสามิภักดิ์มาพบหลูจวิ้นอี้ หลูจวิ้นอี้เอ่ยขอบคุณมิขาดปาก และสรรเสริญความชอบของเอี้ยนชิง
พวกขุนพลสอบถามเหล่าโจรสามิภักดิ์จึงรู้ว่านายทัพปีศาจนั้นมีชื่อว่า โค่วเมี่ย 寇灭 ชอบใช้ไฟปีศาจเผาคน อีกทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ จึงได้ฉายาว่า จอมภูตเพลิงพิษ 毒焰鬼王 พอหวางชิ่งก่อขบถ โค่วเมี่ยก็หายตัวไปเสียสองปีไม่รู้หลักแหล่ง จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ โผล่กลับมาหนานเฟิง 南丰 บอกว่า
“ทัพซ่งเข้มแข็งนัก ข้าอาสาปราบเอง”
หวางชิ่งจึงส่งมาที่นี่
ทางฝ่ายกงตวน ซีเสิ้งเห็นทัพหนุนแตกพ่ายยับเยิน จึงไม่กล้าออกรบ เฝ้าตั้งมั่นรักษาเมืองไว้
เฉียวเต้าชิงกล่าวกับหลูจวิ้นอี้ว่า
“เมืองแห่งนี้ค่ายคูแข็งแรงนัก มิอาจตีหักได้โดยไว คืนนี้ พรตผู้ยากจะใช้กลเม็ดเล็กน้อยช่วยให้ท่านแม่ทัพบรรลุเป้าหมาย นับเป็นการตอบแทนพระคุณของท่านแม่ทัพทั้งสองด้วย”
หลูจวิ้นอี้ว่า “อยากทราบว่าท่านจะใช้ไม้เด็ดไร”
เฉียวเต้าชิงลดเสียงลงบอกรายละเอียดข้างหู… …
หลูจวิ้นอี้ชอบใจยิ่งนัก สั่งการให้ขุนพลเตรียมทหารให้พร้อมสำหรับเข้าตีเมือง อีกด้านหนึ่งก็ให้จัดพิธีฝังศพซานสื้อฉี และเปี้ยนเสียง หลูจวิ้นอี้เป็นประธานประกอบพิธีเอง
ยามสองคืนวันนั้น เฉียวเต้าชิงออกมาถือกระบี่ร่ายเวท เพียงชั่วครู่ เกิดหมอกปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองซีจิง 西京 ทหารยืนยามอยู่คู่กันยังมองหน้ากันไม่เห็น ทหารซ่งอาศัยความมืด ไต่กลไกเครื่องกว้านสะพานขึ้นปีนข้ามใบเสมากำแพง เสียงปืนใหญ่ดังขึ้นนัดหนึ่ง หมอกทึบสลาย เห็นทหารซ่งรายรอบกำแพงนำชุดจุดไฟออกมาจุดคบจนสว่างดุจกลางวัน ทหารรักษากำแพงตกตะลึงนิ่งเป็นตอไม้ ทหารซ่งชักอาวุธชิงลงมือสังหาร
กงตวน ซีเสิ้งเห็นเกิดเหตุไม่คาดคิด รีบนำทหารมาช่วย แต่ประตูเมืองทั้งสี่ถูกยึดหมดแล้ว หลูจวิ้นอี้นำทัพใหญ่เข้าเมืองมา กงตวน ซีเสิ้งถูกสังหารระหว่างชุลมุน ขุนพลรองนำทหารสามหมื่นยอมจำนน
พอฟ้าสาง หลูจวิ้นอี้ให้ออกประกาศปลอบขวัญราษฎร ให้บันทึกความชอบของเฉียวเต้าชิง และบำเหน็จทหาร แล้วให้หม่าหลิงนำข่าวชัยไปรายงานซ่งเจียง ตกเย็นหม่าหลิงกลับมารายงานว่า
“ท่านแม่ทัพเข้าโจมตีเมืองจิงหนาน ทำการรบได้ชัย ขับไล่ทัพหนุนจากหนานเฟิงไปได้ จับตัวแม่ทัพใหญ่เซี่ยหนิง 谢宁 ไว้เป็นเชลย แต่ตัวท่านแม่ทัพซ่งกรำศึกจนล้มป่วยได้หลายวันแล้ว ท่านเสนาธิการอู๋รักษาการแทนอยู่”
หลูจวิ้นอี้ฟังรายงานแล้วไม่สบายใจนัก รีบจัดงานทัพแล้วมอบหมายให้เฉียวเต้าชิง หม่าหลิงอยู่รักษาเมืองซีจิง ตนเองนำจูอู่และอีกยี่สิบขุนพลออกจากซีจิงมุ่งมายังจิงหนาน ไม่ถึงหนึ่งวันก็มาถึงค่ายใหญ่ หลูจวิ้นอี้เข้ามาเยี่ยมดูอาการซ่งเจียง ก็เห็นว่าหมอเทวดาอันเต้าเฉวียนทำการรักษาจนหายได้หกเจ็ดส่วนแล้ว
ระหว่างถามไถ่ และสนทนาการทัพอยู่นั้น มีทหารหนีภัยเข้ามารายงานว่า
“ถังปินคุ้มกันพวกเซียวย่างออกจากค่ายใหญ่ ไปได้ราวสามสิบลี้พบทัพโจรจากเมืองจิงหนานนำโดยหมีเซิง 縻貹 หม่าเจี้ยง 马勥 พลหนึ่งหมื่นมาตามทางน้อย หวังจะฉวยโอกาสที่ท่านแม่ทัพป่วยเข้ามาชิงค่ายใหญ่ แต่มาพบทัพพวกเราเข้าก่อน ถังปินถูกรุมสอง จึงพลาดท่าถูกหมีเซิงสังหารไป เซียวย่าง เผยเซวียน จินต้าเจียนถูกจับเป็นเชลย ทัพโจรรู้ข่าวว่าท่านแม่ทัพหลูนำทัพใหญ่มา จึงไม่มาตีค่าย นำตัวพวกเซียวย่างหนีกลับไป”
1
ซ่งเจียงฟังจบถึงกับร่ำไห้ว่า “พวกเซียวย่างตกอยู่ในอันตรายแล้ว”
ไข้กลับทรุดลง พวกหลูจวิ้นอี้ต้องพากันมาปลอบโยน
หลูจวิ้นอี้ถามว่า “พวกเซียวย่างจะไปกันที่ไหน”
ซ่งเจียงสะอื้นว่า “เซียวย่างรู้ว่าข้าป่วย จึงลาท่านเฉินอันฝู่มาเยี่ยมข้า ขากลับท่านเฉินอันฝู่บอกให้พาจินต้าเจียน เผยเซวียนกลับไปหว่านโจวด้วย จะให้เขียนและสลักป้ายศิลา ทั้งจะให้สอบเอกสารด้วย วันนี้ข้าจึงได้ให้ถังปินนำทหารหนึ่งพันไปส่ง ไม่คิดว่าจะมาถูกโจรจับตัวไป”
ซ่งเจียงจึงขอให้หลูจวิ้นอี้ช่วยอู๋ย่งตีเมือง จับตัวหมีเซิง หม่าเจี้ยงมาล้างแค้น หลูจวิ้นอี้รับบัญชาแล้วพาเหล่าขุนพลมาพบอู๋เสวียจิวที่ค่ายทางเหนือของเมือง หลูจวิ้นอี้เล่าเรื่องที่พวกเซียวย่างถูกจับตัวไป
อู๋ย่งตกใจยิ่งว่า “แย่แล้ว ส่งสามคนนี้ไปหาที่แท้แท้”
แล้วสั่งการให้ทหารเร่งล้อมบุกเข้าตีเมืองทั้งสี่ด้าน อู๋ย่งเองขึ้นบันไดเมฆตะโกนเข้าไปในเมืองว่า
“รีบส่งตัวเซียวย่าง จินต้าเจียน เผยเซวียนออกมาเสียโดยดี หากชักช้ารอจนเมืองแตก ไม่ว่าทหารหรือราษฎร จักสังหารสิ้นไม่มีเหลือ”
กล่าวถึงเหลียงหย่ง 梁永 ขุนพลผู้รักษาเมืองจิงหนาน เมื่อหมีเซิง หม่าเจี้ยงมาเรียกให้เปิดประตูเมืองนั้น ทัพซ่งยังไม่ได้เข้าล้อมเมือง หมีเซิง หม่าเจี้ยงคุมตัวพวกเซียวย่างสามคนที่จับเป็นเชลยมารับบำเหน็จความชอบยังกองบัญชาการทหาร เหลียงหย่งเคยได้ยินชื่อเสียงของบัณฑิตหัตถ์เทวะ จึงให้ทหารแก้มัดและพูดเกลี้ยกล่อมให้มาสวามิภักดิ์
เซียวย่าง เผยเซวียน จินต้าเจียนพากันถลึงตาด่าว่า
“โจรขบถไร้สาระ เห็นพวกข้าเป็นคนเช่นไร จะฆ่าพวกข้าทั้งสามคนก็รีบลงมือเสียคนละดาบให้ขาดสองท่อน แต่อย่าหวังว่าหัวเข่าทั้งหกนี้จะแตะพื้นยินยอม ท่านแม่ทัพซ่งเข้าเมืองได้วันใด ต้องจับเจ้าพวกหนูโสโครกสับทิ้งเป็นหมื่นชิ้น”
เหลียงหย่งโกรธจัด สั่งทหารว่า “โบยหมารับใช้สามตัวนี้ให้คุกเข่า”
ทหารจะโบยสักเท่าไร ก็ไม่มีใครคุกเข่า ทั้งยังด่ากลับมาไม่ขาดปาก
เหลียงหย่งว่า “พวกเจ้าอยากให้ลงคนละดาบให้ขาดสองท่อน แต่ข้าจะค่อยค่อยทรมานพวกเจ้า”
แล้วตวาดสั่งทหาร “ลากหมารับใช้สามตัวนี้ไปใส่คาไว้หน้าที่ว่าการ โบยน่องพวกมันเข้าไปจนกว่าขาจะหักคุกเข่าไปเอง”
ทหารนำตัวมาใส่คา แก้ผ้าทั้งสามออกมัดตัวไว้ แล้วลงมือปิงปาหน้าที่ว่าการ (ปิงปา 絣扒 ลงทัณฑ์แก้ผ้าโบย)
พวกทหารและชาวบ้านพากันมามุงดู ในกลุ่มคนนั้นมีชายชาตรีผู้หนึ่งแซ่เซียว 萧 ชื่อจยาสุ้ย 嘉穗 บ้านอาศัยอยู่ข้างร้านขายกระดาษถนนสายใต้ ทวดคือเซียวต้าน 萧憺 ชื่อรอง เซิงต๋า 僧达 เป็นชื่อสื่อ 刺史 ผู้ว่าราชการเมืองจิงหนานแห่งนี้ในยุคราชวงศ์เหนือใต้ 南北朝
คราหนึ่งเกิดอุทกภัยใหญ่จนเขื่อนพัง เซียวต้านนำทหารและเจ้าหน้าที่ซ่อมเขื่อนด้วยตัวเอง ฝนตกหนักน้ำไหลเชี่ยว เซียวต้านไม่ย่อท้อแม้มีคนขอให้หลบไปก่อน เซียวต้านว่า
“หวางจุน 王尊 ยังหวังพลีกายอุดนที ข้าเองก็ตั้งใจ” พอกล่าวจบ เขื่อนก็ซ่อมเสร็จ น้ำลด
(หวางจุน ขุนนางใหญ่คนสำคัญปลายยุคฮั่นตะวันตก เคยซ่อมเขื่อนกั้นน้ำหวงเหอโดยไม่กลัวตาย)
ปีนั้นธัญพืชอุดมสมบูรณ์ 嘉禾 ต้นเดียวออกหกรวง 穗 เป็นที่มาของชื่อ จยาสุ้ย 嘉穗
เซียวจยาสุ้ยท่องทั่วจิงหนาน ชาวจิงหนานยังรำลึกถึงคุณความดีของบรรพบุรุษ จึงให้ความเคารพนับถือ เซียวจยาสุ้ยเองก็เป็นคนมีปณิธานผ่าเผยใจกว้างช่วยเหลือผู้อื่น ห้าวหาญช่ำชองเพลงยุทธ รักคบหาผู้กล้าไม่เกี่ยงว่ามีหรือจน
เมื่อหวางชิ่งก่อขบถบุกมาตีเมือง เซียวจยาสุ้ยได้เสนอแผนรับมือ แต่เจ้าเมืองไม่ใช้จนเสียเมือง โจรเข้าเมืองได้มีคำสั่งไม่ให้คนนอกเข้าเมือง ไม่ให้คนในออกนอกเมือง เซียวจยาสุ้ยติดอยู่ในเมือง คิดหาทางกำจัดโจรอยู่ทุกคืนวัน แต่ไหมไยเดียวย่อมไม่เป็นเส้นด้าย มาวันนี้เห็นพวกเซียวย่างถูกปิงปา ท้พซ่งก็มาล้อมเมืองทวงคน เซียวจยาสุ้ยจึงคิดว่า โอกาสมาถึงแล้วที่จะกอบกู้เมือง
เซียวจยาสุ้ยรีบกลับบ้าน เป็นเวลายามเซิน 申牌 (16:00 น.) ให้บ่าวฝนหมึก แล้วไปซื้อกระดาษหนาจากร้านข้างบ้านนำมาเขียนด้วยอักษรตัวโตว่า
“ราษฎรในเมืองล้วนเป็นไพร่ฟ้าราชวงศ์ซ่ง มิยินยอมพร้อมใจช่วยเหลือโจร ท่านแม่ทัพซ่งเป็นขุนพลผู้ประเสริฐแห่งราชสำนัก สังหารพวกตาด จับกุมเถียนหู่ ไปหนแห่งใดไม่มีผู้ใดต่อกร ขุนพลในบัญชาหนึ่งร้อยแปดนายเปรียบเหมือนแขนขา
สามคนที่ถูกปิงปาหน้าที่ว่าการ มีศักดิ์ศรีไม่ยอมคุกเข่า ความห้าวหาญภักดีมีคุณธรรมของท่านแม่ทัพซ่งรับรู้กันทั่ว
วันนี้หากทั้งสามคนถูกโจรสังหาร ทหารและขุนพลในเมืองมีน้อย เมืองต้องแตกไม่ช้าก็เร็ว ทัพเข้าเมืองมาคงแหลกเป็นจุล ทหารและราษฎรที่ยังรักชีวิต จงตามข้าไปกำจัดโจร”
พอเขียนเสร็จ เซียวจยาสุ้ยก็ออกไปเดินท่องในเมืองดูความเคลื่อนไหว เห็นชาวบ้านชาวเมืองร้องไห้ จึงตรองว่า “ใจประชาเป็นเช่นนี้ แผนข้าเห็นทีสำเร็จ”
คืนนั้น รอจนฟ้าใกล้สางแต่ยังมืดอยู่ ก็ออกจากบ้าน นำกระดาษที่เขียนไปทิ้งตามถนนตลาดซ้ายขวาหน้าจวนแม่ทัพ
ตอนก่อนหน้า : พยุหะหกบุปผา
https://www.blockdit.com/posts/6808c2e765c1154cbdd75414
ตอนถัดไป : เขาหลงเหมิน
https://www.blockdit.com/posts/680f5458e3234f7c3af18a17
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย