Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เอ็กซ์ตร้า นายอรรณพ ศิริศรี
•
ติดตาม
27 เม.ย. เวลา 05:26 • การศึกษา
ทำไม ? คนที่ติดอยู่ใน กิเลส ตัณหา ราคะ ถึงมองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า"
.
สวัสดีครับ กระผม คุณครูเอ็กซ์ตร้า
.
กราบสวัสดี ผู้เจริญในธรรม ในศีล สมาธิ ปัญญา ทุกท่าน ครับ
.
หลายท่านคงจะรู้จัก "พระเทวทัต" นะครับ
.
"พระเทวทัต" ท่านเป็น ลูกพี่ลูกน้องของ "เจ้าชายสิทธัตถะ" (พระพุทธเจ้า)
.
เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงได้มาบวชอยู่ด้วยกัน
.
กระผม มีคำถามว่า "พระเทวทัต"
อาจจะ คือ คนที่ใก้ลชิด "พระพุทธเจ้า" มากที่สุด
.
แต่ทำไม ? ถึงมองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า" (มองไม่เห็นธรรม)
.
เปรียบเทียบเหมือน "ประเทศไทย" ของบ้านเรา ครับ
.
มี "วัดวาอาราม" มากมายที่สุด
มี "พระภิกษุสงฆ์" ดีงามที่สุด
มี "ศาสนาพุทธ" ที่พร้อมที่สุด
.
แต่ทำไม ?
บุคคล ที่ติดอยู่ใน กิเลส ตัณหา ราคะ
ถึงมองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า"
.
ในตอนนี้ เราจะมาหาคำตอบร่วมกัน ครับ
.
ผู้ที่ติดอยู่ใน กิเลส ตัณหา ราคะ
ที่กระผม เปรียบเทียบว่า คือ บุคคลที่มองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า"
ไม่สามารถเข้าถึง "ธรรมะ" ได้นั้น
.
อาจเป็นเพราะ "จิตใจ" ของพวกเขา
ถูกบดบังด้วยอำนาจของ "กิเลส" ครับ
.
ซึ่งขัดขวางการเห็นตาม "ความจริง" ตามหลักพุทธศาสนา
.
"พระพุทธเจ้า" ตรัสเรื่องนี้ไว้ ในหลายพระสูตร นะครับ
.
โดยอธิบายว่า "กิเลส" คือ เครื่องปิดบังกั้น "ปัญญา"
.
สาเหตุที่ บุคคลกลุ่มนี้ มองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า"
.
1. "จิต" ถูกครอบงำด้วยกิเลส
เมื่อ "จิต" เต็มไปด้วย ตัณหา (ความอยาก)
ราคะ (ความกำหนัด) และ โมหะ (ความหลง)
.
"จิต" จะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งโลกีย์
ไม่เปิดรับแสงแห่งธรรม
ทำให้มองไม่เห็น "สัจธรรม" ที่ "พระพุทธองค์" ได้ทรงแสดงไว้
.
2. ไม่มี "ปัญญา" เห็นตามความเป็นจริง
"พระพุทธเจ้า" ตรัสว่า
ผู้มีกิเลสหนา ย่อมไม่เห็นธรรม
ผู้ไม่มีกิเลส ย่อมเห็นธรรม
(ขุ.สุ. 25/345/525)
.
"กิเลส" ทำหน้าที่เหมือนม่านบังตา ครับ
ปิดกั้นไม่ให้เห็น "ความจริง" ของชีวิต
.
3. ไม่ฝึกสมาธิ และ ไม่ฝึกภาวนา
แม้ "พระพุทธเจ้า" จะทรงแสดงธรรมไว้ดีงามแล้ว
.
แต่ผู้ที่ไม่ได้ฝึก สติ และ ปัญญา
.
ก็ไม่อาจเข้าใจ หรือ มองเห็น "พระธรรม" ได้
เหมือนคนตาบอด ครับ ที่มองไม่เห็น "แสงสว่าง"
.
4. ความยึดมั่นในตัวตน (อัตตา)
กิเลส ตัณหา ราคะ ทำให้คนยึดติด
ใน ความสุข "ทางกาย" และ ความสุขชั่วคราว "ทางจิตใจ"
.
จนไม่แสวงหา "การหลุดพ้น"
จึงมองไม่เห็นคุณค่าของ "พระพุทธเจ้า" และ "ธรรมะ" ครับ
.
และข้อ 5 ครับ ข้อสุดท้าย
.
ที่กล่าวมาทั้งหมด
กระผมไม่ได้บอกว่า บุคคลกลุ่มนี้ คือ "คนไม่ดี" นะครับ
.
กระผมไม่ได้มี "เจตนา" อย่างนั้นเลย ครับ
.
เพราะตัวกระผมเอง ก็เคยเป็นบุคคล ที่ติดอยู่ใน
กิเลส ตัณหา ราคะ มองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า" มาก่อนเช่นกัน ครับ
.
ซึ่งกระผมเชื่อว่า อาจจะเป็นเพราะ
"กรรมเก่า" กัลยาณมิตร และ ตัวอย่างความดีงาม
.
ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกรัชกาล
ได้ปูทาง ศาสนสถาน ศาสนาพุทธ พระภิกษุสงฆ์ ไว้ดีงามแล้ว
.
จึงทำให้ประชาชนตัวเล็ก ๆ ไร้ค่า อย่างกระผม
เริ่มมองเห็น ถึงความดีงาม ความเรียบง่าย ความพอเพียง
.
จึงทำให้กระผม เริ่มมองเห็น "พระพุทธเจ้า" ครับ
.
"พระพุทธเจ้า" ตรัสไว้ใน พระธรรมบท (ขุ. ธ. 25/22/30)
.
บุคคล ผู้มีจิตใจเศร้าหมอง ย่อมไม่รู้จักธรรม
ผู้มี จิตใจไม่ตั้งมั่น ย่อมไม่รู้จักธรรม
ผู้ถูกความประมาท ครอบงำ ย่อมไม่รู้จักธรรม
.
นั้นก็ หมายความว่า ผู้ที่ยังหมกมุ่นอยู่ใน "กิเลส"
ย่อมไม่สามารถเห็น "พระพุทธเจ้า" ในแง่ของ "สัจธรรม"
.
แม้จะอยู่ต่อหน้า "พระพักตร์" พระพุทธเจ้า ก็ตาม
เพราะ "จิต" ยังมืดบอดด้วย "อวิชชา" ครับ
.
"พระพุทธเจ้า" ทรงสอนว่า
หากต้องการ "เห็นธรรม" หรือ "เห็นพระพุทธเจ้า"
ในความหมายของความเป็น "พุทธะ"
.
ต้อง "ละกิเลส" ด้วยการเริ่มปฏิบัติตาม "อริยมรรคมีองค์ 8"
.
โดยเฉพาะการ "ฝึกสมาธิ" (สมถะ) และ การเจริญปัญญา (วิปัสสนา)
เพื่อ "ถอดถอนกิเลส" ที่ปิดบังจิตใจ
.
ดังนั้น ผู้ที่ยังติดใน "กิเลส"
ย่อมเหมือนคนอยู่ในห้องมืด ที่มองไม่เห็นแสงสว่าง ครับ
.
จนกว่าจะเปิดใจ "ฝึกธรรมะ"
"จิต" จึงจะเริ่มบริสุทธิ์ และ เริ่มมองเห็นความจริง ได้ในที่สุด
.
สรุป ครับ
.
กิเลส ตัณหา ราคะ คือ เครื่องปิดบังปัญญา
ทำให้เรา มองไม่เห็น "พระพุทธเจ้า"
.
หากผู้ที่ต้องการเห็น "ธรรมะ" จริง ๆ
ต้องละ "กิเลส" ด้วยการปฏิบัติตามคำสอน
ของ "พระพุทธองค์ อย่างแท้จริง อย่างทางสายกลาง ก่อนนะครับ
.
หากทุกท่าน ที่รับฟังมาถึงตรงนี้
ต้องการชี้ทางสว่าง ให้แด่คนที่ท่านรัก
.
กระผม ก็อาจจะพูดไม่ได้เต็มปาก นะครับว่า
ทุกคนมี "กรรม" เป็นของตัวเอง
เปรียบดั่ง "บัว 4 เหล่า"
.
บัวเหล่าที่ 1 ดอกบัวที่พ้นน้ำแล้ว รอแสงพระอาทิตย์ จะบานวันนี้
.
บัวเหล่าที่ 2 ดอกบัวที่ปริ่มน้ำ จะบานวันพรุ่งนี้
.
บัวเหล่าที่ 3 ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ยังอีก 3 วัน จึงจะบาน
.
บัวเหล่าที่ 4 ดอกบัวที่เพิ่งงอกใหม่ จากเหง้าในน้ำ จะยังไม่พ้นภัยจากเต่าปลา
.
ว่ากันตามตรง นะครับ แม้แต่ตัวกระผมเอง ตอนนี้
ก็อาจจะเปรียบเทียบ "ตนเอง" เป็นเพียงบัวเหล่าที่ 4 ครับ
.
ซึ่งบุคคลที่กระผมรัก รอบตัวกระผม
ก็ยังไม่สามารถมองเห็น "พระพุทธเจ้า" แบบแท้จริงได้เช่นกัน
.
แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่กระผมเชื่อสุดหัวใจ ครับว่า
.
"คำพูด" ไม่สู้ "การกระทำ" ให้เห็น
.
กระผมก็เลยคิดว่า หน้าที่ของกระผม
ที่จะทำได้ในตอนนี้ ก็มีแค่เพียง
.
ประพฤติปฏิบัติตน ให้เป็นตัวอย่างที่ดี ต่อคนรอบข้าง
.
รักษาศีล 5 หมั่นฝึกฝน เจริญ สติ สมาธิ ปัญญา
.
เพื่อสร้างเสริมบุญบารมีให้แก่ "ตนเอง"
.
ทุกท่านเห็น Air Hostess (ลูกเรือสายการบินผู้หญิง) มั้ยครับ
.
ที่เขาบอกให้เรา ใส่ท่ออากาศหายใจ "ให้ตนเอง" ก่อน
.
ก่อนที่จะ ใส่ให้คนอื่น หรือ ใส่ให้คนที่เราอุปการะ ดูแล ครับ
.
นั้นก็หมายความว่า การขัดเกลา "กรรม" (กรรมดี , กรรมไม่ดี)
.
เรามีหน้าที่แค่ขัดเกลา "กรรม" ของตนเอง ให้ดีงามถึงพร้อมก่อน ครับ
.
เมื่อ "กรรม" ของตนเอง ดีงามถึงพร้อมแล้ว
.
พลังแห่งความอิ่มเอิบ สงบนิ่ง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
.
กระผมเชื่อว่า "พลังนี้" จะแผ่ขยายไปถึงบุคคลที่เรารัก
.
ไปถึงบุคคลรอบข้าง แผ่ขายไปถึงสังคม ไปถึงประเทศชาติ
ของพวกเรา "ทุกคน ทุกท่าน" แน่นอนครับ
.
"การไม่ทิ้งกัน"
แม้บุคคลกลุ่มที่ยังมอง "ไม่เห็นพระพุทธเจ้า"
จะยังมองไม่เห็นในวันนี้
.
แต่การปลูกเมล็ดพันธุ์ "ธรรมะ" ไว้ใน "จิตใจ"
ของทุกท่าน ที่รับชมมาถึงตรงนี้
ก็อาจจะ "งอกงาม" ในวันสักวันหนึ่ง ในเร็ววัน ครับ
.
"พระพุทธเจ้า" ท่านไม่เคยหายไปไหน นะครับ
.
มีแต่ "จิตใจ" ของเราเอง
ที่ยัง "หมกมุ่น" ใน "กิเลส" จนมองไม่เห็นท่าน
.
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา "ตถาคต"
.
สุดท้ายในตอนนี้ ครับ ขอให้ผู้เจริญในธรรม ทุกท่าน
.
จงเป็นผู้เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
จนนำไปสู่ความหลุดพ้น จากความทุกข์ทั้งปวง ทุกคน ทุกท่าน ด้วยเทอญ สาธุ 🙏🙏🙏
.
สวัสดีครับ
.
#ธรรมะ , #ศาสนาพุทธ , #พุทธศาสนา , #พระพุทธเจ้า
พุทธศาสนา
ธรรมะ
ศาสนา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย