Blockdit Logo (Mobile)
ปรัชญาการเกม
•
28 เม.ย. เวลา 14:13 • เกม

แง้มวิวาทะเกม Assassin's Creed: Shadows มีข้อถกเถียงกันระหว่างมโนทัศน์ใด?

บทนำ
บนโลกใบนี้มีข้อเสนอและข้อโต้แย้งและสุดท้ายก็จบลงที่ข้อสรุป แต่คงไม่ใช่กรณี Woke ในวิดีโอเกม(หรือในภาพยนตร์ด้วย)​ที่การโต้เถียงกันมีทีท่าไม่พบข้อสรุปอย่างน้อยก็ตอนนี้ วันนี้เราพามาดูว่าข้อถกเถียงทั้งหลายในเน็ตมีรากเหง้าทางความคิด​สกุลใดบ้าง
เราทราบดีว่ามโนทัศน์ซึ่งถกกันนี้มีหลัก ๆ คือ Woke​ กับ Anti-​Woke แต่ว่าประเด็นที่ถอดออกมามีจริง ๆ อยู่ที่ข้อถกเถียงระหว่าของตีความต่างจากเดิม​กับสิ่งดั้งเดิม กรณีนี้หมายถึง เกมที่อิงจากประวัติศาสตร์ นิยาย วัฒนธรรม หรืออย่างเกมเดิมที่ทำใหม่หรือมีภาคใหม่ กลุ่มหนึ่งดึงเอาเกมออกจากความหมายต้นทางนำความหลากหลายประยุกต์ใช้​ อีกกลุ่มหนึ่งรู้สึกว่าการตีความใหม่ทำลายสิ่งเดิม
อีกกรณีสำหรับเกมใหม่ถอดด้ามที่มีออริจินัลเป็นของตนเองซึ่งไม่อิงแหล่งใด แต่ถูกชโลมความหลากหลายล้นหลาม เป็นสนามถกเถียงกันระหว่าง Post-Woke กับ Pre-Woke ในสื่อวิดีโอเกม สรุปย่อคือ กลุ่มนึงมองว่ายุคสมัยทางสังคมก้าวเข้าสู่ยุคความหลากหลายแบบไม่อาจหวนคืนสู่แบบเดิมได้อีก เกมจะต้องไม่ขัดแย้งกับยุคและจะต้องเดินทางไปพร้อมกันได้ อีกกลุ่มที่อยากจะยุบเลิกข้อเรียกร้องเกินสัดส่วนออกไปแล้วให้ตัวละครกลับไปก่อนโว๊คปกคลุมวิดีโอเกม
เรามาดูว่าภายใต้ข้อถกเถียงจะสามารถ'จำกัดความ'​และ'นิยามคำเรียก'​*ว่าเป็นหรือว่าคับคล้ายว่าใช่นัยอุดมการณ์ทางความคิดสกุลใดได้บ้าง โดยบทแรกแนวคิดจะเกี่ยวข้องในประเด็นของเกมที่อิงจากประวัติศาสตร์ นิยาย วัฒนธรรม และบทหลังจะเป็นเกมที่มีออริจินัลของตัวเองแต่เพิ่มความหลากหลายตามสมัย
การถกที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์ นิยาย วัฒนธรรม ที่เกมอิงมา
ลัทธิสะดุ้งตื่น**
สนับสนุนสิทธิเสรีภาพขอบกลุ่มคนชายขอบที่ถูกกดทับทางสังคม สนับสนุนอัตลักษณ์ทางเพศและความหลากหลายชาติและศาสนา ในบริบทวิดีโอเกม แนวคิดเหล่านี้ถูกใส่เข้าไปเพื่อวัตถุประสงค์ของความเท่าเทียมเป็นหลัก ปฏิเสธวัฒนธรรมของผู้กดขี่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัฒนธรรม Anglo-American โดยพยายามล้างการฟอกขาวในวิดีโอเกม
อย่างเช่นการดัดแปลงบางตัวละครตามตำนานหรือต้นฉบับใหม่หมดเพื่อทำหมันการฟอกขาวและถือว่าเป็นการชำระค่าปฏิกรรมประวัติศาสตร์ไปในตัว ปณิธานคือตั้งค่าความหลากหลายและความเท่าเทียมทุกวัฒนธรรมให้เกิดเป็นบรรทัดฐานโดยไม่มีวัฒนธรรมใดเป็นเจ้าครอบงำ
สัจนิยมเชิงปทัสถาน​
มองสภาพความเป็นจริงของสังคมที่ดำรงอยู่ บนฐานคิดของการอยู่ร่วมกันที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เพศ อย่างเท่าเทียม สำหรับการตีความใหม่ในสื่อหลายแขนงนั้น เพื่อสอดรับกับแนวคิดของผู้รับสื่อฯในปัจจุบันมากกว่าผู้รับสื่อที่มีแนวคิด Pre-Woke
กล่าวคือ เสนอตัวละครที่หลากหลายอยู่ภายในเกมโดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องตรงปวศ.(ประวัติศาสตร์) หรือต้นฉบับหรือไม่ แต่ต้องสะท้อนสิ่งที่เป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน ค่านิยมดั้งเดิมของแต่ก่อนอาจไม่สะท้อนผู้คนปัจจุบันอย่างที่ควร เพราะแปลกแยกต่อยุคและไม่สามารถเป็นบรรทัดฐานให้สังคมในช่วงเวลานี้ได้
เสรีนิยมสายกลาง
แม้ไม่ใช่ผู้สนับสนุนทางการ แต่ใจกว้างดังมหาสมุทรกับแนวทาง DEI(ความหลากหลาย ความเท่าเทียม การอยู่ร่วมกัน) แต่ก็ไม่ใช่พวกใจแคบหากไม่ใช่แนวทางเช่นว่า สำหรับเกมที่อิงมาจากปวศ. หรืออื่น ๆ ที่แปลงโฉมไปมากไม่ใช่ประเด็นหลัก หรือกระทั่งว่าเกมที่มีออริจินัลของตัวเองที่สร้างตามธรรมเนียมนิยมก็ไม่เป็นปัญหา​ กลุ่มนี้มีไม่ต่อต้านการสนับสนุนความหลากหลายทางเชื้อชาติหรือทางเพศและไม่ประณามสื่อฯที่ไม่อิงแนวทางดังกล่าว
พวกเขามักโต้ตอบกับขบวนการฝ้ายซ้ายที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพทางสังคมเกินเลย ในทางตรงข้ามพวกเขายังไม่เห็นด้วยกับนโยบายฝ่ายขวาที่เหยียดเชื้อชาติหรือกีดกันทางเพศจนลดทอนคุณค่าความเป็นคน นอกจากนี้พวกเขาถูกพวก Woke ตำหนิว่าเป็นพวกไม่ตื่นหรือขั้นเป็นฝั่งขวา ขณะที่พวก Anti-Woke ก็มักแขวะแนวทางเช่นกัน โดยหาว่าเป็นอีแอบทางการเมืองแบบซ้าย
สารัตถนิยมทางมหรสพ(และ/หรือวัตถุกับศิลปะ)​
ไม่ว่าเกมจะใส่ความหลากหลายหรือว่ามีตัวละครตามความสวยหล่อมาตรฐาน หรือดัดแปลงเนื้อหาดั้งเดิมออกไปอย่างไร พวกมันไม่ข้องเกี่ยวกับในแง่ของความสนุกหรือไม่สนุกและความบันเทิงที่เกมมอบให้เพราะนี่เป็นแก่นแท้ แนวคิดกลุ่มนี้ไม่ได้ตัดสินองค์ประกอบปลีกย่อยแต่โฟกัสที่เนื้อหาของมันโดยตรง
โดยความหมายอย่างกว้างที่สุดที่เกี่ยวกับเกมคือสื่อบันเทิงที่มาจากระบบการเล่นของมัน ซึ่งพวกเขาตัดสินจากที่มันสามารถสนองความสนุกหรือไม่เพียงใดในฐานะที่เป็นแก่นแท้ในตัวเองปลอดการคำนวณจากคุณค่าภายนอก เนื่องด้วยแนวคิดที่ตัดสินอย่างไร้อคติบางทีเราควรจัดให้พวกเขาอยู่สายกลางระหว่างสองกลุ่มความคิดหลัก
ธรรมเนียมนิยมใหม่เชิงผสมผสาน
โว๊คได้แบบมีเงื่อนไข ไม่ว่าเนื้อเรื่องหรือตัวละครที่อิงวัฒนธรรมโว๊คนั้นสามารถทำได้บางส่วน แต่ต้องไม่ใช่สิ่งที่มากเกินจนรู้สึกว่ายัดเยียด หากอิงประวัติศาสตร์เนื้อเรื่องจะต้องไม่เชิดชูโว๊คเกินความเป็นจริงและต้องเคารพประวัติศาสตร์เป็นสำคัญ หากอิงนิยายตัวละครจะผิวดำ ขาว เหลือง หรือเป็น LGBTQ+ ได้ต้องไม่ดัดแปลงใช้กับตัวละครหลักจนเสียอัตลักษณ์ของตัวละครไปซึ่งสามารถมีได้ตามบริบทของเรื่องราวและจะต้องไม่มากจนทำลายอรรถรส
หากมาจากวัฒนธรรมใดสักที่ โว๊คเป็นเพียงองค์ประกอบที่มิใช่วัฒนธรรมหลักของวัฒนธรรมนั้น เป็นเพียงวัฒนธรรมย่อยที่อิงบริบทตามเวลาขณะนั้น เกมสามารถใช้ตัวเอกที่เป็นผู้หญิงได้แต่ต้องมีความสวยที่เป็นมาตรฐานกับมีความเป็นผู้หญิงตามแบบฉบับของวิดีโอเกม ส่วนบทบาทควรมีความเป็นกลางไม่ควรใส่ความเป็นเฟมมินิสต์ในฐานะผู้ส่งสารเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศเกินขอบเขตแต่คงไว้บนฐานที่เป็นตัวละครจากวิดีโอเกมเป็นพอ
อนุรักษ์นิยมสายถ่องแท้ทางตัวละคร
คล้ายพวกมูลฐาน(ที่จะกล่าวต่อจากนี้)แต่หนักเน้นเรื่องรูปแบบ (model) กับตัวแสดง (agent) ของตัวละครมากกว่าจะใส่ใจโดยตรงต่อปวศ. นิยาย หรือวัฒนธรรมเพราะเชื่อว่าเหล่านี้ดัดแปลงได้บางส่วนหากเข้ากับบริบท ส่วนตัวละครในเกมไม่ได้อิสระแยกจากพื้นหลังข้างต้น ตัวละครถูกจัดวางสภานะเป็นตัวแสดงที่มีผล​เกี่ยวเนื่องกับความถ่องแท้ของพื้นหลัง
ในความหมายเดียวกัน การบิดผันเนื้อเรื่องที่เกินข้อเท็จจริงเพื่อสร้างช่องว่างของความหลากหลายเข้ามาในตัวละครที่เป็นอยู่แต่เดิม ถือว่าแยกออกจากความเป็นมาของมันเอง ทำให้ตัวละครกลายเป็นตัวแสดงของอุดมคติอื่น มิได้เป็นตัวแสดงจากรูปแบบถ่องแท้ เช่น การเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวละคร(ในฐานะตัวแสดง)​อย่าง Dante ในเกม DmC: Devil May Cry ให้ไม่เหลือเค้าเดิม(รูปแบบ) หรือ Triss merigold ในซีรีส์ Netflix ก็ปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชั่นนิยายและเกมกลายเป็นตัวแสดงของนิยามอื่น ๆ
อนุรักษ์นิยมสายมูลฐาน
เกมต้องตีความประวัติศาสตร์หรือนิยายหรือวัฒนธรรมตามแบบฉบับอันมีผลเกี่ยวเนื่องถึงตัวละครด้วย กลุ่มคิดนี้จะไม่ยอมให้เปลี่ยนแปลงใด ๆ แม้แต่น้อย เคร่งครัดเพื่อเคารพต้นฉบับอย่างถึงที่สุด ความหลากหลายเป็นของแสลงที่ไม่เคยมีไม่เคยเกิดขึ้นในต้นฉบับและต้องไม่มีในเกมเช่นกัน​ ในสื่อภาพยนตร์ เป็นไปได้อย่างถึงที่สุดมักจะให้นักแสดงตรงตามเชื้อชาติของตัวละคร
การถกที่ว่าด้วย'เกม'เท่านั้น
แม้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม นิยายหรือเกมภาคต่อ ก็ไม่มีส่วนไหนในประเด็นของเกม IP ใหม่ แต่อาจพบวิวาทะที่ผสมปนเปของแนวคิดข้างต้นอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ภายใต้การเถียงที่คลุกฝุ่นก็เผยแสดงเค้าโครงของมโนทัศน์จำเพาะออกมาคือ กลุ่มแนวคิดเสรีนิยมการเมืองด้านอัตลักษณ์ กับ ธรรมเนียมนิยมทางรูปแบบเกม
สองมโนทัศน์อยู่ท่วมท้นอินเตอร์เน็ตอันเป็นสนามโต้วาทีไร้ขอบเขตในประเด็น เราจึงจะเห็นข้อความคิด (concept) นี้ถกกันในประเด็นเกมใหม่ที่มีออริจินัลของตนเองหรืออาจข้ามประเด็นสู่เกมที่อิงจากสิ่งอื่น ๆ อย่างที่เรากล่าวถึงในบทก่อนหน้า หากเราสโคปเหลือแค่ประเด็นแรก อาจห่อรวมแนวคิดที่กระจัดกระจายลู่สู่ความชัดเจนของพื้นหลังในการโต้เถียงได้ดีขึ้น
ก่อนแยกแยะข้อโต้เถียงระหว่างสองมโนทัศน์ที่ขับเคี่ยวกัน ควรทำความเข้าใจเกมที่มีเนื้อหาของตัวเองเป็นอย่างไร ต่างกันอย่างไรกับเกมที่อิงจากประวัติศาสตร์ นิยาย วัฒนธรรม ฯลฯ
ผู้เขียนจะขอสรุปเพื่อเร่งความเข้าใจแบบรวบรัดสำหรับเกมที่มีออริจินัลของตัวเองที่ไม่อิงใด ๆ อาทิเช่น
The Last of Us Part 1 &​ 2
Horizon Forbidden​west
Concord
Dustborn​
Unknown 9: Awakening
Intergalactic The Heretic Prophet
พวกนี้คือเกมที่มีเรื่องราวของตนเอง บทประพันธ์​ใหม่ เนื้อหาใหม่ ตีความวัฒนธรรมใหม่หรือพลิกโฉมไปจากเดิม ต่างจากเกมที่อิงจากสิ่งอื่นซึ่งจำเป็นยิ่งที่จะต้องเคารพเนื้อหาต้นฉบับทั้งหมดหรือบางประการที่สำคัญ ตัวอย่างเช่น
Saints Row(อิงชื่อเกม)
Suicide Squad: Kill the Justice League(อิงตัวละครคอมมิค, จักรวาลเกม)​
Star Wars Outlaws(อิงจักรวาลภาพยนตร์)​
Dragon Age: The Veilguard(อิงวัฒนธรรมแฟนตาซี)​​
Assassin's Creed: Shadows(อิงประวัติศาสตร์บางส่วน)​
The Witcher 4(อิงแฟนตาซี, นิยาย, เกมภาคต่อ)​
จากรายการโดยสังเขป แม้ว่าบางเกมจะมีเรื่องราวแยกที่เล่าเรื่องเป็นเอกเทศแต่จำเป็นต้องอิงจักรวาลหลักอยู่ ขณะที่บางเกมรีบูตใหม่หมดซึ่งดูจะลอยตัวจากทุกสิ่งก็จริง แต่การใช้ชื่อเดิมตีความใหม่อาจถูกเหมารวมว่ามีความเป็นมาเดิมอยู่และถูกเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นออริจินัล
ฉะนั้น สำหรับประเด็นถกเถียงของเกมเหล่านี้จึงเทไปทางความถูกต้องของการอ้างอิง แต่มิได้มากไปจากประเด็นการถกกันเรื่องที่ว่าเกมควรต้องเป็นอย่างไร? อันเป็นหัวใจหลักของประเด็นนี้ และแน่นอนว่าเราต้องเข้าใจแนวคิดทั้งสองเพื่อให้รู้พื้นหลังของการสนับสนุนต่าง ๆ
เสรีนิยมการเมืองด้านอัตลักษณ์
สนับสนุนนโยบาย DEI ในวิดีโอเกม เน้นคุณค่าความรักที่ไม่แบ่งแยกเพศ ส่งเสริมความหลากหลายทางเชื้อชาติ ไม่จำเป็นที่ตัวละครเอกจะต้องมาจากคนผิวขาว หรือจะต้องเป็นคนหล่อสวย ชายหรือหญิง เพราะไม่ว่าใครก็เป็นได้ ไม่จำกัดว่าจะมีรูปลักษณ์ยังไงหรือเป็นเพศอะไรหรือจะเชื้อชาติไหน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นหมุดหมายให้ทุกอัตลักษณ์ของคนในสังคมปรากฏผ่านวิดีโอเกมอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ เกมจึงกลายเป็นสื่อกลางของคุณค่าทั้งอัตลักษณ์ ความหลากหลาย ความเท่าเทียมกัน แนวคิดนี้ยังอยู่ร่วมสมัยที่จำกัดความได้ว่าเป็นยุค Post-Woke ไปแล้ว จากการเสื่อมถอยทางแนวคิดและกระแสตีโต้ของฝั่งอนุรักษ์นิยม แต่แนวคิดนี้ก็ไม่แห้งเหือดเพียงแต่การเกาะกุมในวัฒนธรรมทางการเมืองและสังคมอ่อนกำลังลง
ธรรมเนียมนิยมทางรูปแบบเกม
แนวคิดนี้ไม่ต่างกับธรรมเนียมนิยมใหม่เชิงผสมผสาน เพียงแต่ว่ากลุ่มนี้จะใส่ใจการอิงเนื้อหาจากปวศ. นิยาย วัฒนธรรมน้อยกว่าอย่างมีนัยยะ โดยมุ่งให้วิดีโอเกมตรงตามภาพลักษณ์เดิมหรือกลับไปช่วง Pre-Woke ฉะนั้นเกมจำต้องมีทิศทางดังนี้ ไม่มีวัฒนธรรมโว๊คเข้าแทรกในฐานะปฏิบัติการทางการเมือง เนื้อเรื่องต้องไม่ชูประเด็นโว๊คทางความหลากหลายทางเชื้อชาติและทางเพศจนโอเวอร์แต่มี LGBTQ+ ได้ในฐานะตัวละครสมทบ ซึ่งเน้นตัวละครชายในฐานะบทนำและมีนางเอกเป็นผู้หญิงสวยตามพิมพ์นิยมของเกมเหมือนแต่ก่อน
แต่ไม่จำกัดให้ตัวละครหญิงเป็นตัวเอกไม่ได้เพราะอยู่บนหลักของการมีได้ทั้งวีรบุรุษและวีรสตรีตามท้องเรื่องการเล่าเรื่อง ด้านมิติเชื้อชาติไม่จำกัดเช่นกันเพราะตัวละครเอกจะมาจากเชื้อชาติใดก็ได้ แต่อาจมีมุมมองที่จำกัดจากภาพจำทางเชื้อชาติว่าต้องเป็นตามนั้นตามนี้ อาจสรุปได้ว่าต้องการจำกัดความโว๊คไม่ให้เป็นเนื้อหาหลักและคงเนื้อหาที่เกมเคยเป็นก่อนโว๊คเป็นอันดับแรก
จากแนวคิดทั้งสองต่างพยามช่วงชิงการนิยามความหมายทางวัฒนธรรมในสื่อวิดีโอเกม(หรือภาพยนตร์)​ เพื่อสลัดภาพลักษณ์ของอีกฝั่งทิ้งและสร้างภาพตัวแทนของฝ่ายตนขึ้นมามีบทบาทนำทางสังคม การเมืองและวัฒนธรรมป๊อบ
จริงที่ว่าข้อถกเถียงล้วนอยู่ในสนามของเกม แต่สรรพความคิดและการสนับสนุนล้นออกจากสนามก้าวสู่ปริมณฑลของยุคสมัย Pre-Woke กับ Post-Woke ทั้งคู่ขวนขวายเพื่อให้คุณค่าที่ยึดมั่นได้มีที่ทางในปัจจุบัน กลุ่มนึงต้องการนำความเป็นมาเมื่อครั้งอดีตกลับมาอย่างที่ควรเป็น กลุ่มนึงต้องการเดินหน้าบนสนามหญ้าปัจจุบันที่มาจากแรงขับจากอดีตที่กดทับ
บทคัดย่อส่งท้าย
เรากำลังเถียงในเรื่องของคุณค่าที่มีทีท่าว่าจะจบยาก ฝ่ายหนึ่งไม่เพียงยึดมั่นในความหมายของคนเท่ากันเพียงถ่ายเดียว เพราะพวกเขายังมีแนวคิดหลังอณานิคมนิยม​อันเป็นผลผลิตจากประวัติศาสตร์นิยมอณานิคมนิยม พันธกิจที่พวกเขายึดมั่นขึ้นมาจึงจำเป็นที่ต้องโละประวัติศาสตร์ของผู้ปกครองคนผิวขาวลง โดยการทำให้ประวัติศาสตร์ปัจจุบันเติมเต็มไปด้วยความหมายของคนทุกผิวสีและ LGBTQ+ หรือกลุ่มชายขอบสังคม เพื่อแก้ไขความอยุติธรรมย้อนหลังในอดีต
พูดให้กระชับคือ เราควรให้สิทธิและคุณค่าอย่างเพียงพอกับคนรุ่นปัจจุบันเพื่อไถ่โทษในอดีตที่บรรพบุรุษของพวกเขาถูกกีดกันและเลือกปฏิบัติจากประวัติศาสตร์ที่บอบช้ำและกดทับ
แน่แหละว่า ในมุมมองเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องที่จะไปลุกล้ำถึงสื่อวิดีโอเกม ซึ่งอีกฝ่ายไม่คล้อยตามและยึดมั่นว่า เกมควรเป็นเกมไม่ใช่ภาชนะใส่อุดมการณ์ทางการเมือง แต่ควรเคารพในฐานะที่มันเป็นอยู่หรือเคยเป็นเพราะนั่นคือคุณค่าของมัน เกมที่อิงจากปวศ. แม้จะบิดผันได้แต่ก็ได้ในฐานที่มันเป็นเกมสื่อบันเทิงและจะต้องไม่ควรยัดอะไรที่แปลกแยกจากประวัติศาสตร์ที่เป็น และเพราะมันเป็นเกมบนฐานของการสมมติบทบาทก็ควรต้องมอบประสบการณ์ที่ผู้เล่นพึงพอใจสูงสุด ทั้งในมิติรูปร่างหน้าตาและความสามารถ
สรุปได้ว่า พวกเขาคือนักใคร่ครวญในคุณค่าพร้อมซื่อสัตย์ในผลงานบนฐานคิดของทั้งผลงานเองก็ดีและของผู้คนเองก็ด้วย เพราะผู้คนยังยึดโยงกับค่านิยมนี้ได้และเพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยในจินตนาสมมุติควรหลีกเลี่ยงจากความเป็นจริงในสังคมที่อาจจำต้องไม่ผสมความเป็นจริงใด ๆ ในสังคมที่เป็นอยู่ลงไปบนวิดีโอเกม
วิวาทะทั้งมวลนี้ เรากำลังเผชิญกับคุณค่าเชิงสัมพัทธ์ ซึ่งเราจำต้องถอยคุณค่าที่เรายึดถือคนละก้าว เราอาจต้องสำนึกว่าสือเกมหรือสื่อฯใด ๆ ก็ดีไม่ใช่ประเทศชาติที่เราทุกคนเป็นเจ้าของและเรารู้ดีเสมอว่าระบบเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยทำให้เรามีสิทธิ์มีเสียงในฐานะเจ้าของประเทศแท้จริง เพราะเรารอคอยให้สิทธิ์ของเรากลับมาในทุก 4 ปี หรือหากไม่เป็นเช่นนั้นเรายังรอคอยด้วยใจคาดหวังที่สิทธิ์เรา ผู้บรรจุคุณค่าที่เรายึดถือจะเป็นยวดยานเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ปีใดก็ปีหนึ่ง
แต่สื่อเกมไม่เคยใกล้เคียงกับระบบที่ให้คุณค่าของผมอยู่ 4 ปีสลับกับคุณค่าของคุณอยู่ 4 ปี เพราะเราไม่ใช่และไม่เคยเป็นเจ้าของมัน วิดีโอเกมเป็นสื่อกลางยุติธรรมเพียงพอที่ให้ใครก็ตามนิยามให้กับมันโดยไม่มีกติกา ไม่มีขอบเขต ไม่มีหมดอายุ และไม่ให้ใครก็ตามยึดเป็นอาณานิคมแห่งความหมายเฉพาะตน
24/7 หรืออสงไขยก็ไม่เกินจริงนักที่สื่อวิดีโอเกม​บริการให้ใคร ๆ นิยามมันอยู่ทุกขณะจิต การถอยร่นคุณค่าไม่จำเป็นต้องไปเข้าใจคุณค่าของใครอื่นที่คุณไม่แยแสเพราะมันไม่เป็นตัวคุณ เหตุที่เราเดินออกมาจากคุณค่าเพียงหนึ่งก้าวเพื่อตระหนักซึ้งว่า คุณค่าที่ยึดถือมิได้เลิศเลอหรือคับขอบฟ้ากว่าความยุติธรรมซึ่งอนุญาตให้นิยามได้ของวิดีโอเกมและสื่อฯอื่นใดในโลก(ภาพยนตร์, ศิลปะ) แลฉะนี้ นี่คือธรรมชาติที่จะไม่เปลี่ยนแปลงได้หรือจะไม่ครอบงำได้หรือจะไม่ควบคุมได้ เพราะธรรมชาติของสื่อวิดีโอเกมนั้นกำกับตัวเอง
*คำจำกัดความและคำนิยามคำเรียกของแนวคิดทั้งหลายตลอดทั้งบทความนี้ ผู้เขียนสังเคราะห์จากพฤติกรรมทางความคิดของแต่ละกลุ่ม ข้อความคิดที่ถกเถียงกันบนสื่อสังคมออนไลน์ กับมโนทัศน์ทางการเมืองที่มีอยู่ มาแปลงสารให้อยู่ในกระบวนทัศน์ของสื่อวิดีโอเกมหรือภาพยนตร์ สำหรับมิติทางการเมืองคำจำกัดความและคำเรียกจึงยังไม่มีความสอดรับโดยสมบูรณ์ถึงแม้จะสังเคราะห์จากมโนทัศน์ทางการเมืองบ้างก็ตามที
**มาจากคำว่า Wokeism แปลตรงตัวคือ ลัทธิตื่นตัว ผู้เขียนคิดว่า เนื่องเพราะไม่สามารถสื่อสารแนวคิดและวิธีการในภาพรวมได้และยังไม่มีคำแปลที่ตายตัวในภาษาไทย ผู้เขียนจึงต้องแปล ลัทธิสะดุ้งตื่น เพราะสื่อความหมายได้ดีกว่า
กราฟิก: confleckz
เขียน: เบอร์ตองไรท์เตอร์
โฆษณา