เมื่อความนุ่มนวลกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ตราตรึงใจ: "Moonlighting" กับจุดกำเนิดของ Smooth Jazz ยุคใหม่
"Moonlighting" ปี 1986 ของ The Rippingtons คือหนึ่งในอัลบั้มที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างและกำหนดแนวทางของดนตรี Smooth Jazz ในช่วงปลายยุค 80s นำโดยมือกีตาร์ Russ Freeman ที่ไม่ได้เป็นเพียงหัวหน้าวง แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งเพลงและการโปรดิวซ์ที่ประณีต
ในช่วงเวลานั้น The Rippingtons ยังเป็นเพียงโปรเจกต์สตูดิโอที่รวมตัวนักดนตรีระดับแถวหน้าของวงการ ไม่ว่าจะเป็น Kenny G, David Benoit, Gregg Karukas, Brandon Fields และอีกหลายคน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นมากกว่าการรวมตัวของศิลปินดาวรุ่ง เพราะมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของซาวด์ใหม่ที่มีอิทธิพลต่อดนตรีแจ๊สมาจนถึงทุกวันนี้
อัลบั้มเปิดตัวด้วยเพลงไตเติล "Moonlighting" ที่ยาวกว่า 6 นาที และสะท้อนเอกลักษณ์ของ The Rippingtons ได้อย่างชัดเจน ซาวด์กีตาร์ของ Freeman เป็นตัวชูโรง นำทางผ่านจังหวะฟังก์เบา ๆ และการเรียบเรียงที่เต็มไปด้วยเลเยอร์ของซินธิไซเซอร์และเพอร์คัสชั่นที่สร้างบรรยากาศเร้นลับเหมือนชื่อเพลง การใช้เอฟเฟกต์เสียงธรรมชาติของ Steve Reid ทำให้เพลงนี้มีมิติที่แตกต่างจากดนตรีแจ๊สทั่วไป นี่คือสไตล์ที่ภายหลังจะกลายเป็นลายเซ็นของวง
หนึ่งในไฮไลต์ของอัลบั้มคือ "Mirage" เพลงที่ David Benoit เล่นเปียโนไพเราะราวกับภาพฝัน มันมีความเป็น New Age Jazz ที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบและลื่นไหลไปกับเสียงเมโลดี้
ในขณะที่ "Dreams" ซึ่งมี Dave Koz เล่นเครื่องเป่าไฟฟ้า หรือ Electronic Wind Instrument (EWI) กลับสร้างบรรยากาศที่ต่างออกไป มันมีความนุ่มนวล แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกแบบ Ethereal ที่ล่องลอยไร้ตัวตนแน่ชัด ซึ่งกลายเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญของ Smooth Jazz ในยุคต่อมา
แต่เพลงที่น่าจดจำมากที่สุดคือ "She Likes to Watch" ที่ได้ Kenny G มาร่วมแจมด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเขาในยุคแรก ๆ ก่อนที่สไตล์ของเขาจะกลายเป็นกระแสหลัก เพลงนี้มีกลิ่นอายของคาลิปโซ (Calypso) ที่ทำให้มันสดใสและมีเสน่ห์ตามแบบฉบับดนตรีแคริบเบียนที่แตกต่างจากเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม
แม้ว่าในช่วงหลัง The Rippingtons จะมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอยู่เรื่อย ๆ แต่แก่นของซาวด์ที่ Russ Freeman สร้างขึ้นไว้ใน "Moonlighting" ยังคงอยู่ และมีอิทธิพลต่ออัลบั้มต่อมา อย่าง Kilimanjaro (1988) และ Tourist in Paradise (1989)
อัลบั้มนี้ยังช่วยสร้างเวทีให้กับศิลปินที่ต่อมาจะกลายเป็นไอคอนของ Smooth Jazz อย่าง Dave Koz, Eric Marienthal, และ Jeff Kashiwa ซึ่งต่างก็เคยร่วมงานกับ The Rippingtons ในช่วงเวลาต่าง ๆ การมีส่วนร่วมของพวกเขาในอัลบั้มนี้จึงไม่ใช่เพียงการเล่นเป็นแขกรับเชิญ แต่เป็นการวางรากฐานของสไตล์ที่พวกเขาจะพัฒนาต่อไปด้วย
"Moonlighting" ไม่เพียงแต่เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ จากการติดอันดับ 5 ใน Billboard Top Contemporary Jazz Albums ปี 1989 แต่ยังเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ช่วยกำหนดแนวทางของ Smooth Jazz ปลายยุค 80s ตลอดจนถึงยุค 90s ด้วย จังหวะที่เข้าถึงง่าย เมโลดี้ที่ติดหู และซาวด์ที่ลื่นไหลทำให้มันเป็นอัลบั้มที่ยังคงฟังได้ดีแม้จะผ่านไปหลายทศวรรษแล้วก็ตาม
Russ Freeman
ไม่ว่าเราจะมองอัลบั้มนี้ในฐานะผลงานเปิดตัวของวง หรือในฐานะอัลบั้มแนว Contemporary Jazz ที่สำคัญ มันก็ยังเป็นงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากความพิถีพิถันในการเรียบเรียง การเล่นที่ลงตัวของแต่ละสมาชิกของวง และการที่มันไม่ได้พยายามเป็นดนตรีแจ๊สที่ซับซ้อนเกินไป แต่ให้ความสำคัญกับอารมณ์และบรรยากาศมากกว่า ล้วนเป็นเหตุผลที่มันยังคงถูกพูดถึงในหมู่แฟนเพลง Smooth Jazz มาจนถึงปัจจุบัน
"Moonlighting" จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของ The Rippingtons แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของแนวดนตรีที่กำหนดทิศทางของ Smooth Jazz ตลอดยุค 90s ซึ่งมีอิทธิพลต่อศิลปินร่วมสมัยหลายต่อหลายคน หากใครต้องการเข้าใจว่าทำไมแนวดนตรีนี้ถึงมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยากจะปฏิเสธ นี่คืออัลบั้มเปิดใจที่ดี และเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ ที่แสดงให้เห็นถึงความลื่นไหล นุ่มนวล และไพเราะของดนตรี Contemporary Jazz ได้อย่างแท้จริง