เมื่อวาน เวลา 10:37 • การเมือง

“ปรับ ครม.วันไหนดี” เปิดนัยผลโพลที่ผ่านมา

ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.นิด้าโพล หัวเราะฮึ ๆ ก่อนตอบข้อสงสัยของหลายคนทำไม๊...ทำไม...ไม่มีคำถามตรง ๆ ว่า “ควรปรับเปลี่ยนตัวนายกฯหรือไม่” แหมชีวิตมันต้องอยู่กับความเป็นจริง เราเน้นที่คณะรัฐมนตรี ไม่รวมนายกฯ เชื่อนายกฯอิ๊งค์ (นส.แพทองธาร ชินวัตร) ยังอยู่ ยังไม่ไปไหนหรอก
ตราบใดที่ไม่โดนข้อหาเรื่องจริยธรรม ตราบใดพรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันอยู่ ยกเว้นนายกฯ จะไม่เอาเอง “หนูอยากกลับบ้านไปเลี้ยงลูก เพราะพ่อไม่ยอมเลี้ยงหลาน ไหนรับปากกลับมาจะมาเลี้ยง งั้นหนูขอลาออกจากนายกฯ ไปเลี้ยงลูกเอง” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แล้วถ้าวัดกระแสนิยมจากโพลที่ผ่านมา ๆ “นายกฯอิ๊งค์” กับ “คุณเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ขึ้นลงสลับกันไปมา ยังเหลือเวลาอีก 2 ปีให้นายกฯ พิสูจน์ “ภาวะผู้นำ” แค่มีข่าวว่าขัดกับพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) เรื่องปรับครม. ก็แสดงภาวะผู้นำ พร้อมที่จะไม่ฟังพ่อแล้ว
เหมือนหนังเรื่อง Out of Control ที่ผมเคยดูสมัยวัยรุ่น เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกสาว พอเริ่มโตเป็นสาวก็เริ่มไม่เชื่อฟัง...พ่อแม่แล้ว เพราะตัวเองเริ่มเห็นอะไรหลายอย่าง พร้อมจะดำเนินการด้วยตัวเอง ลองสังเกตดูให้ดี ลูกหลานเจ้าของธุรกิจจำนวนมาก ถึงจุดหนึ่ง เขาจะไม่อยู่ในความควบคุมของพ่อหรอก เริ่มตัดสินใจ แตกไลน์ธุรกิจทำอะไรของตัวเอง มีวิธีบริหารในรูปแบบที่คิดว่าใช่
เชื่อนายกฯ เริ่มเอาท์ ออฟ คอนโทรล เดี๋ยวรอดูต่อว่าจะเป็นอย่างไร !?
1
ยิ่งปรับครม.เร็ว ประชาชนแฮปปี้
ตรงใจเสียงส่วนใหญ่ 48.24 % เชียร์ให้ปรับสักทีเถอะ โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปากท้องคน เกษตรกร และเด็กรุ่นใหม่ มนุษย์เงินเดือน (กลุ่มคนอายุ 18-35 ปี) เงินในกระเป๋ามันวิ่งตามไม่ทันแล้ว เศรษฐกิจไม่ไปไหนเลย
กระทรวงพาณิชย์มาแรงสุด “ควรปรับเปลี่ยน” รัฐมนตรีมากที่สุด ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง แม้บอก “ไม่ควรปรับ” น้อยกว่า “ควรปรับ” แต่เปอร์เซ็นต์ห่างกันไม่มาก และพอเจาะลึกข้อมูลลงไป พบจุดพลิกที่ “อีสาน” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของคนมีสิทธิ์เลือกตั้งเทเข้าไปบอก “ไม่ควรปรับ” อาจเพราะเกี่ยวพันกับประชานิยมต่าง ๆ ที่เทลงไป เงินหมื่นแจกกลุ่มผู้สูงอายุ - กลุ่มผู้พิการ - ผู้ด้อยโอกาส หรือการเดินสายของคุณทักษิณ เก็บเกี่ยวคะแนนกลับมาได้ ฯลฯ
สะท้อนภาพชัดว่า 3 กระทรวงเศรษฐกิจมีปัญหา อาจปรับเปลี่ยน โยกย้าย เผลอ ๆ ตื่นเช้ามาเก้าอี้หายก็คงไม่แปลก “ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง” เป็นไปตามสัญญาณที่นายกฯ ส่งมาเป๊ะ
รัฐบาลรู้ดีเศรษฐกิจ...ไม่ดี
แต่จะให้นายกฯ รมต.ออกมาพูดว่า ทุกวันนี้เศรษฐกิจมันแย่ บลา ๆ ประชาชนยิ่งแย่ เสียความเชื่อมั่นเข้าไปอีก เหมือน “หมอ” จะไม่พูดกับคนไข้หรอกว่าอีก 2-3 วัน หรือมีโรคแทรกซ้อนมาเดี๋ยวก็ตายแล้ว หมอก็ต้องปลอบประโลมคนไข้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวอาจดีขึ้น ทำแบบนี้ ๆ ว่ากันไป
แต่เขารู้เต็มอก...มันส่งผลต่อคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคต เพราะเพื่อไทยชื่อว่ามีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้เศรษฐกิจไทยไม่เดิน โดนกำแพงภาษีจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซ้ำอีก
“ผมฟังไอเอ็มเอฟ รายงานข่าวเศรษฐกิจโลก บอกว่าจะลด จะหดตัวลงจากฝีมือทรัมป์ พอมาดูอาเซียน เขาบอกจะโตราว 4% ส่วนไทยโตไม่ถึง 2 % ไปฉุดเพื่อน ๆ นี่เริ่มออกอาการใกล้เข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจปี 40 แล้ว ฉะนั้นรัฐบาลต้องหาวิธี...ปั่นภาวะเศรษฐกิจขึ้นมาให้ได้”
กำลังรอดูรัฐบาลจะทำอย่างไร พรรคเพื่อไทยจะปรับอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจเดินหน้าแน่นอน
จุดสำคัญคือการเจรจากับสหรัฐ
ทีมเศรษฐกิจไทยต้องมีแนวทางเป็น “รูปธรรม” อย่าลืมว่าทรัมป์คือนักธุรกิจที่ต้องการเห็นอะไรเป็นรูปธรรมชัดเจน ฉะนั้นเรามีเกมอะไรไปเล่นกับเขาบ้าง – ไม่ทำให้มีปัญหากับจีนด้วย – ต้องประเมินสถานการณ์โลก สุดท้ายทรัมป์จะเดินหน้านโยบายนี้อย่างไร
มีนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า “ทรัมป์จะใช้แนวเดิม” สมัยเป็นประธานาธิบดีรอบแรก “ชอบขู่” ให้กลัวก่อน - ไม่กลัวเหรอ “เขยิบให้เห็น” - ก็ต้องเข้ามาเจรจา “เริ่มหวั่นไหว” - หลังจากนั้นดูว่าความหวั่นไหวของคู่แข่ง “สร้างแรงสั่นสะเทือน” กลับไปสหรัฐหรือเปล่า - ถ้าสร้าง “ถอยออกมา” อยู่ในจังหวะที่ประเทศยังคงได้ประโยชน์อยู่
ปลายพฤษภาคมหรือต้นมิถุนายน ทีมเจรจาไทยต้องลุยแล้ว แนวทางชัดเจน คงมีการคุยกับสหรัฐฯ หลายรอบ
คาดปรับครม. 2 รอบ เตรียมยุบสภาฯ 69
รอบแรก เพื่อกระชับการทำงานของรัฐบาลให้เข้าที่เข้าทาง “Put the right man in the right job” เรียกความเชื่อมั่นกลับมา แต่คงไม่สามารถวางตุ๊กตาได้ดั่งใจเพื่อไทย หรือหัวหน้าพรรค หรือผู้อยู่เบื้องหลังพรรคหวังได้ (เน้นเสียงหนักแน่น) อาจมีการแลกกระทรวงในกลุ่มพรรคร่วมที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน เช่น พรรคกล้าธรรม ส่วนพรรคร่วมอื่นจะปรับอย่างไรก็ว่ามา
กระทรวงการคลัง ในสายพรรคเพื่อไทย มองว่าท่านอาจารย์ “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” เหมาะเป็นรมว.คลังมากที่สุด เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจมาก ๆ อยู่มานาน
รอบสอง เพื่อกระชับอำนาจ จัดขบวนทัพทุกอย่างเรียบร้อย ใช้เงินงบประมาณ 69 สักระยะพอเริ่มออกดอกออกผล มีผลงาน – เช็คกระแสนิยมการเมืองไม่ลดลง – ดูจังหวะคู่แข่งพรรคประชาชน (พรรคก้าวไกล) เพลี่ยงพล้ำ 44 สส. ผลชี้ขาดออกมาเป็นลบ สมมติโดนสัก 15 คนก็อ่วมแล้ว
ชิงยุบสภาหลังสงกรานต์ปี 69 แต่งตัวลงสนามเลือกตั้งใหม่แน่นอน
ไม่รอถึง 70 หรอก เพราะการรอคือให้คู่แข่งตั้งตัวทัน !!
.
By บูรพา แมวเหมียว
29 เม.ย.68

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา