7 ชั่วโมงที่แล้ว • ไลฟ์สไตล์

เฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จเล็กไปในแต่ละวันแบบคนญี่ปุ่น

Small Win หรือชัยชนะเล็กๆ หมายถึงความสำเร็จขนาดเล็กที่เกิดจากการทำเป้าหมายย่อยๆ ให้สำเร็จ ซึ่งมีพื้นฐานจากจิตวิทยาการกระตุ้นและการเสริมแรง แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนย่อยๆ ทำให้ง่ายต่อการบรรลุไปในแต่ละวัน การฉลอง small win ในแต่ละวัน ยังกระตุ้นการหลั่ง โดปามีน ในสมอง ซึ่งเป็นสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกพึงพอใจและเป็นกลไกทางจิตวิทยาให้รู้สึกว่า "ฉันทำได้" ความสุขจากความสำเร็จเล็กๆ จะสร้างความมั่นใจและแรงผลักดันให้คุณก้าวต่อไปเรื่อยๆ (Progress Principle)
ตามงานวิจัยของ Teresa Amabile บอกว่า การฉลองชัยชนะเล็กๆ ส่งเสริมการทำซ้ำพฤติกรรมที่ดี จนสามารถพัฒนาเป็นนิสัยระยะยาว และจะเพิ่มความยืดหยุ่นทางจิตใจ ช่วยให้เรารับมือกับความล้มเหลวได้ดีขึ้น เพราะจะรู้สึกเสมอว่า อย่างน้อยวันนี้เราก็ยังมีความก้าวหน้าอยู่เล็กๆ
การเฉลิมฉลอง Small Win หรือความสำเร็จเล็กๆ ในแต่ละวันในแบบฉบับของคนญี่ปุ่น สะท้อนถึงแนวคิดอย่าง Kaizen (การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง) Kai (เปลี่ยนแปลง) และ Zen (ดีขึ้น) แปลว่า "การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” Kaizen มีความเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำอย่างสม่ำเสมอจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในระยะยาว
ในทุกวันของการดำรงอยู่ของมนุษย์ ไม่เคยมีอะไรสมบูรณ์แบบ แต่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวันก่อน ได้เพียงเล็กน้อยเสมอ ขอแค่คุณตั้งเป้าหมายเล็กๆ แทนที่จะตั้งเป้าหมายใหญ่ และเขียนถึงกระบวนการมากกว่า ผลลัพธ์ที่ได้
“วันนี้จะตอบอีเมลให้ได้ทั้งหมด 5 อีเมล์”
“วันนี้จะจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ”
“วันนี้จะทำสไลด์นำเสนอเสร็จ 2 หน้า”
ใช้สมุดบันทึกขนาดเล็กหรือแอปจดบันทึก เช่น Ikigai Journal หรือสมุดธรรมดา เขียน 1-3 ความสำเร็จเล็กๆ ของวันนั้น ในช่วงสิ้นวัน จดบันทึกก่อนนอนเพื่อให้ตัวคุณระลึกอยู่เสมอว่า คุณทำบางอย่างสำเร็จเพิ่มแล้วนะ คุณพัฒนาขึ้นมาอีกแล้วนะจากเมื่อวาน
“วันนี้ตอบอีเมลครบ 5 ฉบับ ดีใจจัง เก่งมาก (...ชื่อคุณ…)”
ถ้าขี้เกียจไปร้านกาแฟ เพราะเปลืองเงิน หลังเขียนรายงานเสร็จ 1 ส่วน คุณอาจชง matcha ที่เตรียมมา แล้วนั่งจิบที่โต๊ะทำงาน มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อรีเซ็ตสมอง และอย่าลืมชื่นชมตนเองด้วยถ้อยคำอ่อนโยน เหมือนพูดกับลูกเล็กๆ เสมอ
“วันนี้เก่งมากที่ทำ To-Do List ผ่านไปได้ 3 อย่างแล้ว”
การให้รางวัลด้วยของว่างหลังจากผ่านงานที่มีความกดดันทางจิตใจ คนส่วนใหญ่จะกินขนมทันทีที่รู้สึกเครียด เพื่อเป็นกลไกเบี่ยงเบนความสนใจของสมองด้วยของชอบ แต่ถ้าทำแบบนั้นบ่อยๆ ความรู้สึกสุขที่ได้ทานของชอบจะลดลงกลายเป็นความเคยชินอย่างรวดเร็ว
เป็นผลดีต่อร่างกายและจิตใจมากกว่า ถ้าคุณจะเก็บของหวาน หรือ อาหารทึ่ไม่ค่อย healthy มากนักแต่อาทิตย์ละอย่างน้อย 1-2 ครั้ง เอาไว้กินหลังเสร็จงานที่สาหัสสากรรจ์จริงๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คุณอดทนต่อจนจบ
-จะไปซื้อไอศครีมกินหลังผ่านการพรีเซนต์งานในที่ประชุมใหญ่เสร็จสิ้น
-เก็บ chocolat ไว้บนรถ รอทานหลังจากคุยกับลูกค้าคนสำคัญ (ที่แบบ toxic สุดๆ) จบลง
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ small win สำหรับคนทำงานในชีวิตประจำวัน
08:30 : เริ่มวันด้วยการเขียน To-Do List และตั้งเป้า small win เช่น “ตอบอีเมล 5 ฉบับก่อน 10:00”
10:00 : หลังตอบอีเมลครบ จิบชาเขียวและเขียนในสมุดว่า “ขอบคุณตัวเองที่จัดการอีเมลได้เร็ว”
12:00 : เข้าประชุมครบ 2 ชั่วโมง กินคุกกี้ขนาดเล็กเป็นรางวัลสัก 1-2 ชิ้น
15:00: ส่งงานให้หัวหน้าเสร็จ ส่งข้อความขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ช่วย หากทำงานสำคัญสำเร็จ อาจชวนทุกคนไปฉลองกินบุฟเฟต์หมูกระทะ ชาบู เพื่อเฉลิมฉลอง
18:00: เดิน 10 นาทีทุกวันหลังเลิกงาน และเพิ่มเป็น 15 นาทีเมื่อกลายเป็นนิสัย
20:00: สิ้นวัน ทบทวน small win ที่สำเร็จของวันนั้น เช่น “วันนี้เคลียร์งานไปได้ 2 ชิ้น, ออกกำลังกายไปได้ 10 นาที” ขอบคุณตัวเอง เขียนให้กำลังใจตนเอง เป็นโน้ตสั้นๆ แปะไว้บนหน้าจอโทรศัพท์ หรือที่คุณจะเห็นได้ง่าย
สุดสัปดาห์ เช่นบ่ายวันอาทิตย์ ก็ใช้เวลาเพื่อวางแผน small win ที่จะคว้ามาให้ได้ในสัปดาห์ต่อไป หลีกเลี่ยงการมองไปในระยะยาวหรือไกลเกินไป อย่ากดดันตนเองให้ทำอะไรใหญ่ๆ จนอาจทำไม่สำเร็จ แล้วอาจจะสร้างแรงจูงใจด้านลบ ขอแค่ 3 อย่างง่ายๆเท่านั้น ที่คุณจะทำให้ได้ในแต่ละวัน
โฆษณา