Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชตระกูล ศรีสวัสดิ์
•
ติดตาม
8 พ.ค. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
ทหาร 4 แสนนายพร้อมข้ามชายแดนเปิดฉากโจมตี ยันไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้ระเบิดนิวเคลียร์
เผยออกมาแล้ว มีทหารถึง 4 แสนนายพร้อมข้ามชายแดนเพื่อเปิดฉากโจมตี
1
การนำอินเดียเข้าสู่สงครามควรจะเป็นเรื่องดีจริงๆหรือ! ถ้าอย่างนั้นก็เหลืออีก 36 ชั่วโมงก่อนสงครามจะเริ่มต้น?
และยันว่าจะไม่ตัดความเป็นไปได้ใช้ระเบิดนิวเคลียร์ โดยสัญญาณทั้งหมดบ่งชี้ว่าความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานได้มาถึงจุดอันตรายที่ใกล้จะปะทุขึ้นแล้ว!
จากข่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูลข่าวสารของปากีสถาน อตาอุลเลาะห์ ทาราร์ (Ataullah Tarar) กล่าวว่า
สถานการณ์ระหว่างอินเดียและปากีสถานแย่ลงหลังจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายในรัฐชัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย
และอินเดียมีแผนที่จะโจมตีทางทหารต่อปากีสถานในอีก 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า
ซึ่ง ทาราร์ เขียนบนแพลตฟอร์มโซเชียล X ว่า
ปากีสถานได้รับข่าวกรองที่เชื่อถือได้ว่าอินเดียกำลังเตรียมเปิดฉากโจมตีทางทหารในอีก 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า
โดยอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ในเมืองปาฮาลกัม (Pahalgam) ซึ่งเป็นเมืองในเขตอานันตนาค (Anantnag) ของดินแดนสหภาพอินเดียแห่งชัมมูและแคชเมียร์
อาตาอุลลาห์ ทาราร์ กล่าวว่า การกระทำก้าวร้าวใดๆ ของกองทัพอินเดีย
จะถูกตอบโต้ด้วยการโจมตีอย่างเด็ดเดี่ยวจากกองกำลังติดอาวุธของปากีสถาน จนกว่าศัตรูผู้รุกรานจะถูกกำจัดทันทีหรือถูกขับไล่ออกไปจนหมดสิ้น!
ข่าวกรองที่จัดทำโดยหน่วยข่าวกรองโดยเหล่าทัพของปากีสถานแสดงให้เห็นว่ากองทัพอินเดียได้เสร็จสิ้นการปรับใช้ในระดับการรณรงค์ในสามทิศทางเชิงยุทธศาสตร์
รวมถึงปัญจาบ ราชสถาน และคุชราต แล้ว.
เครื่องจักรกลหนักต่างๆ รวมถึงรถถังหลัก T-90S เครื่องบินขับไล่ Rafale และระบบยิงจรวดหลายลำกล้องของ Pinaka ได้เข้าใกล้แนวควบคุม(จริง)แล้ว
นอกจากนี้ ดาวเทียมลาดตระเวนระดับสูงยังจับภาพการเคลื่อนไหวผิดปกติของกองทัพอินเดียในการขนส่งขีปนาวุธข้ามทวีปไปยังภูมิภาคชัมมูและแคชเมียร์ได้อีกด้วย
นักวิเคราะห์ทางการทหารชี้ให้เห็นว่าการระดมพลของกองทัพอินเดียครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะอันตรายถึง 3 เหตุการณ์
เหตุแรก กองพลขีปนาวุธ “บราห์มอส(Brahmos)” ของกองทัพโจมตีที่ 1 ยกเลิกการซ้อมรบเดิมอย่างกะทันหัน
และเปลี่ยนไปสู่การปฏิบัติการรบจริงแทน
เหตุการณ์ที่สอง กองบัญชาการกองทัพอากาศภาคตะวันตกได้ยกระดับการเตือนภัยท่าอากาศยานแนวหน้า 6 แห่งเป็น "ระดับสีแดง" ที่สำคัญกว่านั้น
เหตุการณ์ที่สาม กองเรือรบบรรทุกเครื่องบิน "วิกรมทิตย์(Vikramaditya)" ของกองทัพเรืออินเดียได้ออกจากท่าเรือมุมไบไปอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายน
และมุ่งหน้าไปยังท่าเรือการาจี(Karachi)ในปากีสถาน เหตุการณ์เหล่านี้สอดคล้องกับข้อกำหนดการตอบสนองอย่างรวดเร็วของ
ทฤษฎีการต่อสู้แบบ "เริ่มหนาววววกันหรือยัง" ของกองทัพอินเดีย
1
ซึ่งเน้นที่การเตรียมการอย่างครอบคลุมสำหรับการโจมตีทางทหารต่อปากีสถานภายใน 72 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเตือนว่าหากอินเดียอาจเปิดการโจมตีภายใน 36 ชั่วโมง
และอาจใช้การโจมตีแบบผสมผสานระหว่าง "การโจมตีผ่า(ตัด) ผนวกกับการโจมตีภาคพื้นดินที่จำกัด"
ยุทธวิธีเฉพาะนี้อาจรวมไปถึงการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง BrahMos-NG เพื่อทำลายสถานีเรดาร์ของกองกำลังพิเศษทางอากาศปากีสถาน
และเน้นเพื่อทำลายระบบสื่อสารของโรงงานนิวเคลียร์ของปากีสถาน
และกองกำลังยานเกราะเพื่อโจมตีแบบสายฟ้าในพื้นที่ทะเลทราย
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจากกระทรวงกลาโหมปากีสถาน
กองกำลังอินเดียจำนวน 400,000 นายที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ชายแดนอินเดีย-ปากีสถานได้เตรียมการทุกอย่างในการเปิดปฏิบัติการทางทหารข้ามชายแดน
รวมถึงการเติมกระสุน การรวมตัวทหาร การลาดตระเวนก่อนสงคราม และการใช้ระเบิดนิวเคลียร์เมื่อจำเป็น
เพื่อจุดประสงค์นี้ กองทัพปากีสถานจึงได้เปิดตัวแผนฉุกเฉิน "Red-2025" ไว้..
นอกเหนือจากการเตรียมพร้อมสำหรับการรบแบบเดิมแล้ว
ขีปนาวุธ Shaheen-3 ของกองกำลังขีปนาวุธของปากีสถานทั้งหมดก็ได้รับการปลดออกจากระบบความปลอดภัยและเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย
และเครื่องบินขับไล่ JF-17 หลายสิบลำที่บรรทุกขีปนาวุธร่อน Thunder-2 ที่สามารถโจมตีด้วยนิวเคลียร์และแบบธรรมดาได้ก็เข้าสู่การเตรียมพร้อมรบ
1
กล่าวโดยสรุป ปากีสถานได้เตรียมการอย่างเต็มที่สำหรับการทำสงครามเต็มรูปแบบกับอินเดีย
ล่าสุดเมื่ออินเดียยิงขีปนาวุธไปที่เป้าหมายในปากีสถานและแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของปากีสถาน
งานนี้ทางอินเดียประกาศว่าได้ดำเนินการ "โจมตีอย่างแม่นยำ" ต่อ "ค่ายก่อการร้าย" ในปากีสถานและแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของปากีสถาน
ทาง ขาวา อาซิฟ (Khawaja Asif) รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถานก็กล่าวว่า กองทัพปากีสถานยิงเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศอินเดีย 2 ลำ และโดรนของอินเดียอีก 1 ลำตก
ส่วนทรัมป์หวังว่าความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานจะยุติลง "โดยเร็วที่สุด"
ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ แสดงความผิดหวังต่อการโจมตีที่ผ่านมาของอินเดียในปากีสถานและแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของปากีสถาน
และหวังว่าความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานจะยุติลง "โดยเร็วที่สุด"
ทรัมป์กล่าวว่า “จากประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศ เราทราบดีว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว
ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานดำเนินมาเป็นเวลานานหลายปี หลายทศวรรษ หรือแม้แต่หลายศตวรรษ ฉันหวังว่าความขัดแย้งนี้จะยุติลงในเร็วๆ นี้”
นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานและอินเดียมีความตึงเครียด ปากีสถานก็ไม่ลดละทดสอบขีปนาวุธถึง 2 ครั้งภายใน 3 วัน
กองทัพปากีสถานประกาศเมื่อวันจันทร์ (5 พฤษภาคม) ว่า
พวกเขาประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธพื้นสู่พื้นรุ่น “Fateh series” ซึ่งมีพิสัยการยิง 120 กิโลเมตร
เชห์บาซ ชารีฟ (Shehbaz Sharif) นายกรัฐมนตรีของปากีสถานแสดงความพึงพอใจกับความพร้อมเต็มที่ของกองทัพในการป้องกันประเทศ
เขาออกแถลงการณ์ว่า การยิงขีปนาวุธสำเร็จเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่ากองกำลังป้องกันของปากีสถานอยู่ในกำมือที่เชื่อถือได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี (Narendra Damodardas Modi) กล่าวว่า
เขาได้ให้กองทัพ "มีอิสระในการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่" เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ยิงกันในแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอินเดียเมื่อเดือนที่แล้ว
แต่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น คือ พวกเขาจะทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่กันและตายไปด้วยกันหรือไม่ล่ะ....
1
ไม่เกี่ยวกับว่าใครกลัวใคร?
แต่หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่หรือแม้แต่สงครามระหว่างประเทศ(ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์)ของทั้งสองประเทศ อย่างแรก คือ พวกเขาอาจจะต้องมุ่งเป้าที่จะทำลายล้างกันเอง....
สหรัฐอเมริกา
ปากีสถาน
อินเดีย
1 บันทึก
10
12
6
1
10
12
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย