สนามรบทางภูมิรัฐศาสตร์.
ปูตินเองก็ไม่อยากทำให้จีนงอล ในที่สุดทางรัสเซียจึงออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างอินเดียและปากีสถานจนได้
สวัสดีวันฉัตรมงคลนะครับ....และวันนี้ปูตินก็ได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อพิจารณาดูอย่างใกล้ชิด พบว่านี่ไม่ใช่ท่าทางทางการทูตแบบธรรมดาๆ
มันเหมือนการเดินบนเชือกที่ขึงตึง เขาต้องตื่นตัวตลอดเวลาเพราะฝั่งหนึ่งคืออินเดีย อีกด้านหนึ่งคือจีน
พูดตรงๆ ก็คือพวกเขาไม่กล้าที่จะยั่วยุจีน แน่นอน..พวกเขาก็ไม่กล้าจริงๆน่ะแหละ
โดยที่เรื่องราวเริ่มต้นจากสถานการณ์ล่าสุดระหว่างอินเดียและปากีสถาน
เหมือนกับว่า ปากีสถานได้มีการกำหนดจังหวะไว้แล้ว จีน ซึ่งเป็นพี่น้องใกล้ชิดเป็นคนแรกที่ออกมาพูด และตุรกีก็ทำตาม
โดยส่งอาวุธและอุปกรณ์ไปโดยไม่ลังเลด้วยเครื่องบินขนส่ง
อย่างที่ผมกล่าว คุณคิดว่านี่เป็นเพียงการต่อสู้เล็กๆ น้อยๆ ใช่ไหม?
เอาล่ะๆๆๆ ก็.....ไม่เชิง สถานการณ์ปัจจุบันก็เหมือนสงครามสามก๊กอีกเวอร์ชั่นนึงเลยทีเดียว
อินเดียยืนโด่เด่..อยู่คนเดียวฝั่งหนึ่ง และไม่มีใครกล้าที่จะเชียร์พวกเขา
สหรัฐอเมริกาและอิสราเอลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตำนานกลับไม่พูดอะไรเลย และจากการติดตามข่าวของผมพบว่า
ทั้งคู่ไม่ได้อัปเดตบัญชี Twitter ของตนเองด้วยซ้ำ
ทำให้คราวนี้ประเทศอินเดียก็ตกเป็นจุดสนใจจริงๆ และอยู่ในสถานะที่ยากลำบาก
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงที่สุดคือการกระทำของรัสเซีย
นั่นคือ การพบปะกับเอกอัครราชทูตอินเดียด้านหนึ่งและเอกอัครราชทูตปากีสถานอีกด้านหนึ่ง
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างการพยายามไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งระหว่างสองฝ่าย นี่คือสิ่งที่เรียกว่า การควบคุมสถานการณ์อย่างแม่นยำ ต้องมีความยุติธรรม เลือกคำและประโยคทุกคำอย่างระมัดระวัง
และดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง
คุณลองดูฉากระหว่างรองรัฐมนตรีต่างประเทศ รูเดนโก(Rudenko) กับเอกอัครราชทูตอินเดียกุมาร์ (Kumar) คุยกันสิ
โดยบอกว่าจะช่วยต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย
และอาจถึงขั้น "สนับสนุนด้วยการกระทำจริง" ซะอีกด้วยนะเออ... ดูสิ ทั้งคู่พูดได้ดีและไพเราะมาก ..แฮ่ร์
ปกติคำพูดเหล่านี้ถ้าฟังผ่านๆดูค่อนข้างรุนแรง แต่ถ้าคุณลองคิดดูดีๆ คุณจะพบว่ามีสิ่งแปลกประหลาดอะไรอีกหรือเปล่า
แต่ประเด็นสำคัญคือ เขา(รัฐเซีย)หันกลับมาและพบกับนายมูฮัมหมัด คาหลิด จามาลี (Muhammad Khalid Jamali)เอกอัครราชทูตปากีสถาน
จากนั้นก็พูดด้วยสำเนียงอย่างจริงจังว่า ความแตกต่างควรได้รับการแก้ไขด้วยวิธีการสันติ
เดี๋ยวๆๆๆๆๆ นี่มันเทียบเท่ากับการบอกอินเดียว่า “อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่น” ใช่มั้ย?
กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขาช่วยคุณด้วยวาจา แต่ในใจพวกเขากลับลังเล และการกล่าวถึงประเด็นนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถบ่งบอกอะไรได้มากมาย
หรือ...พวกเขาไม่กล้าที่จะรุกรานฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง(ในการกระทำของพวกเขา) โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาไม่กล้าที่จะข้ามเส้นแดงของจีน
แล้วทำไมถึงพูดอย่างนั้น?
เนื่องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน คำพูดเพียงคำเดียวจากจีนก็สามารถกำหนดทิศทางของเอเชียครึ่งหนึ่งได้น่ะสิ
แล้วคุณคิดว่าปูตินไม่รู้เรื่องแบบนี้หรอ?
แน่นอนเขารู้เรื่องนี้ดีกว่าใครอื่น รัสเซียและยูเครนอยู่ในภาวะตื่นตระหนก โดยสหรัฐอเมริกาและนาโต้เฝ้าจับตาดูพวกเขาตลอดทั้งวัน
ดังนั้นแล้วพวกเขาจะมีพลังที่จะก่อสงครามอีกครั้งในตะวันออกได้อย่างไร?
ที่สำคัญกว่านั้น รัสเซียต้องพึ่งใครเพื่อความอยู่รอดตลอดหลายปีนี้?
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอินเดีย จริงๆ จีนเป็นไพ่เด็ดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ค้ำจุนเศรษฐกิจของรัสเซียครึ่งหนึ่ง
พิจารณาจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปยังจีน รวมถึงข้อตกลงทางการเงินต่างๆ ระหว่างจีนและรัสเซีย
บอกผมมาหน่อย....ข้อใดไม่ใช่เส้นสำคัญของชีวิตล่ะ? คุณกล้าขัด หรือทำให้จีนไม่สบายใจหรือเปล่า?
นั่นไม่ใช่การเล่นกับไฟ แต่เป็นเหมือนกับการโยนไม้ขีดไฟลงในถังน้ำมันของตัวเอง
อินเดียเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน
หากพูดตามหลักเหตุผลแล้ว อินเดียมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียและได้ซื้ออาวุธมาไว้เป็นจำนวนมาก
จึงอาจถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ได้เลยทีเดียว
แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทัศนคติของรัสเซียคือ "เราสามารถทำธุรกิจได้ แต่อย่าคาดหวังว่าฉันจะอยู่เคียงข้างคุณ" หลังจากพูดเช่นนี้ ผู้นำระดับสูงของอินเดียคงจะหน้าซีดไป ฮาาาาา.
และในตอนนี้เขามองดูโมดีแล้ว เขาก็ไม่พูดอะไรสักคำ
แต่อย่าคิดว่าการที่เขาไม่พูดอะไร หมายความว่าเขาไม่รู้จักอะไร เขาอาจกำลังเตรียมที่จะสร้างข่าวใหญ่
หากเกิดการระเบิดขึ้นจริงๆ คงจะเกิดการโจมตีแบบกระทันหัน แต่คำถามก็คือ เขาจะกล้าหรือเปล่า?
ตอนนี้ปากีสถานได้ดำเนินการแล้ว และยังพูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ด้วย
ในเวลานี้ ในสถานการณ์เช่นนี้หากปืนลั่นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จะไม่มีใครสามารถหยุดมันได้
ตามข่าวแล้ว...เหยี่ยวอินเดียในประเทศเริ่มก่อปัญหาต่างๆด้วยคำพูดเช่น "ตบหน้าปากีสถานซะ" และ "สะสางเรื่องเก่าซะ" คำเหล่านี้ที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
ซึ่งล้วนตามไปด้วยดินปืน แต่คุณคิดว่าสงครามสามารถเริ่มเมื่อใดก็ได้ที่คุณต้องการหรือไม่?
แต่หากถ้าได้ดำเนินการไปแล้ว ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรง โดยเฉพาะเมื่อจีนลุกขึ้นมา....
ในครั้งนี้ ความกดดันไม่อาจต้านทานได้ด้วยการตะโกนคำขวัญเพียง2-3ประโยค และสิ่งที่น่าขันที่สุดก็คือ ด้วยการสนับสนุนของจีนและตุรกี
ปากีสถานจะไม่ใช่เพียงพี่น้องที่สามารถพึ่งพาการพูดจาแข็งร้าวได้อีกต่อไป
ไม่เพียงแต่ความลึกเชิงยุทธศาสตร์จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งสำคัญก็คือรัฐมนตรีกลาโหมของพวกเขาได้ออกแถลงการณ์ว่า
เรามีอาวุธนิวเคลียร์ แต่เราจะไม่ใช้มันอย่างไม่ตั้งใจ
เราจะใช้พวกมันก็ต่อเมื่อความอยู่รอดของเราถูกคุกคามเท่านั้น
คำพูดเหล่านี้อาจจะฟังดูรอบคอบ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นคำเตือนสำหรับอินเดีย
เหมือนกับคำที่รัสเซียอยากจะพูด....อย่าหุนหันพลันแล่น ไม่เช่นนั้นคุณจะรับผลที่ตามมาไม่ได้
ขณะนี้การกระทำของปูตินน่าสนใจเป็นพิเศษ ทัศนคติ "สองทาง" ของเขา จริงๆ แล้วกำลังบอกโลกในสิ่งหนึ่งว่า
ในสมัยนี้...ใครกล้าที่จะแข่งขันกับจีนอย่างเปิดเผย?
โดยเฉพาะในเกมภูมิรัฐศาสตร์ประเภทนี้ คำพูดของจีนสามารถมีอิทธิพลต่อสถานการณ์ได้
เป็นไปไม่ได้ที่รัสเซียจะไม่รู้เรื่องนี้ เขาจึงระมัดระวังเป็นอย่างมากและพยายามที่จะไม่ละเว้นสิ่งใด....แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ
เมื่อมองย้อนกลับไป จุดยืนที่ชัดเจนของจีนในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนปากีสถานเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์อีกด้วย
คำพูดของเขาถือเป็นสิ่งสำคัญในเอเชีย ผู้ที่ต้องการจะรบกวนสถานการณ์ควรคิดให้ดี แม้ว่าปูตินจะเป็นคนเข้มแข็งแต่เขาก็ฉลาด
เขารู้ว่าอะไรควรแตะและอะไรไม่ควรแตะ
เขาสามารถเผชิญหน้ากับนาโต้ในยูเครนและจัดการกับสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลางได้
แต่เขาจะไม่ยอมเล่นกับไฟเมื่อลามมาถึงจีน ดังนั้น “แถลงการณ์” ของรัสเซียในครั้งนี้ แท้จริงแล้วเป็นแถลงการณ์ที่มีทัศนคติหนึ่งเดียว
คือ... ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ก่อปัญหา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ก่อปัญหาให้กับจีน บรรทัดนี้คือความเป็นจริง ด้วยความกดดัน การคำนวณ และการประเมินสถานการณ์อย่างเลือดเย็น
ฉากนี้ยังไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์เลย แต่ความระทึกใจก็เต็มเปี่ยมไปแล้ว มันขึ้นอยู่กับขั้นตอนต่อไปของโมดี เขาจะเลือกเป็นคนจุดชนวนสงครามหรือเป็น
“นินจานักวางแผน” ที่กัดฟันและรับมือกับแรงกดดันนี้อย่างไร? ท้ายที่สุดแล้ว ใครบ้างที่ไม่อยากชมความสนุกในช่วงเวลาเช่นนี้?
แต่เมื่ออากาศร้อนจัดก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะหนีรอด(อาวุธนิวเคลียร์)ไปได้ ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่เกม แต่นี่คือสนามรบทางภูมิรัฐศาสตร์
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
