4 พ.ค. เวลา 06:03 • สิ่งแวดล้อม

เครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ใช้ขนส่ง ‘ใบพัดกังหันลม’ ช่วยพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงพลังงานลม

Radia ตั้งเป้าจะเปิดตัว WindRunner เครื่องบินที่มีความยาว 356 ฟุตและสูง 79 ฟุต ก่อนสิ้นทศวรรษนี้ เพื่อนำมาใช้เคลื่อนย้าย #กังหันลม ขนาดใหญ่ที่มีขนาด 341 ฟุตได้ ทำให้เครื่องบินลำนี้ยาวกว่าเครื่องบินโบอิ้ง 747-400F ถึง 239% ใหญ่กว่าเครื่องบินบรรทุกทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 80 เท่า
กังหันลมขนาดใหญ่มีข้อได้เปรียบสำคัญ คือ กังหันลมสามารถทำงานด้วยความเร็วต่ำได้ ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถติดตั้งกังหันลมพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้มากขึ้น อีกทั้งใบพัดที่ยาวขึ้นยังรับลมได้มากขึ้นอีกด้วย
แต่ปัญหาสำคัญของกังหันลมขนาดใหญ่ คือ การเคลื่อนย้ายไปติดตั้ง ผู้ผลิตประสบปัญหาในการขนส่งใบพัดที่มีความยาว 230 ฟุต เพราะอุโมงค์ที่มีอยู่แคบเกินไป สะพานสูงไม่พอ และถนนก็แคบเกินไปที่จะเลี้ยวได้ เมื่อต้องขนย้ายชิ้นส่วนขนาดใหญ่เหล่านี้ อาจทำให้การจราจรติดขัดขณะเคลื่อนย้าย หรือต้องปิดถนน
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตก็ยังไม่สามารถผลิตใบพัดกังหันลมแบบแยกประกอบชิ้นส่วนได้ อีกทั้งใบพัดแยกส่วนมีความเสี่ยงที่จะใช้งานไม่ได้มากกว่าใบพัดใบเดียว นอกจากนี้การสร้างใบพัดแยกส่วนจะใช้ส่วนประกอบเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น เครื่องบิน WindRunner จะเป็นเครื่องบินลำแรกที่จะช่วยแก้ปัญหาทางด้านการขนส่งและช่วยให้เคลื่อนย้ายกังหันลมขนาดยักษ์ ซึ่งจะช่วยให้ฟาร์มกังหันลมมีต้นทุนที่คุ้มค่ามากขึ้น
มาร์ก ลุนด์สตรอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Radia ระบุว่า จนถึงตอนนี้ทรัมป์ยังไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อบริษัทมากนัก พร้อมกล่าวว่า พลังงานลมจากกังหันลมขนาดใหญ่สามารถผลิตพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ฝ่ายบริหารต้องการใช้ “ภาระฐานงาน” (Base Load) ของแหล่งพลังงานทั้งหมด
บริษัทหวังว่า เครื่องบินลำนี้จะสามารถพาพลังงานลมไปยังพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตและเพิ่มขนาดของอุตสาหกรรมพลังงานลมให้กว้างขึ้นอย่างมาก ในตอนนี้เครื่องบิน WindRunner กำลังทดสอบและจำลองสถานการณ์อย่างละเอียดในอุโมงค์ลมแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2027
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจSustain #กรุงเทพธุรกิจEnvironment
โฆษณา