12 พ.ค. เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์

เปิดวิธีใช้ทักษะลดความขัดแย้งในที่ทำงาน สยบดราม่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน

เรื่องดราม่าในที่ทำงานก็เหมือนกองไฟ ยิ่งมีลมพัดกระพือ (หรือในที่นี้คือ "อารมณ์ร่วม") เข้าไปมากเท่าไหร่ ไฟก็ยิ่งลุกลามใหญ่โต คนที่ชอบสร้างดราม่ามักจะพูดเกินจริง ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ และถ้าเราเผลอมีปฏิกิริยาเกินเหตุโต้ตอบกลับไป ก็เท่ากับเติมเชื้อไฟให้เขาโดยไม่รู้ตัว
ผลการศึกษาจาก Leadership IQ พบว่า หากวัยทำงานอยู่ในออฟฟิศที่มีดราม่ามากๆ หรือบ่อยๆ มักจะเครียด เบื่องาน และประสิทธิภาพการทำงานลดลง เพราะดราม่าไม่ได้แค่สร้างความรำคาญ แต่ยังบั่นทอนบรรยากาศและคุณภาพงานโดยตรง แพร่พลังลบ ขัดขวางงานสำคัญ ฯลฯ
แต่ถ้าเรารู้วิธีรับมือให้ถูกจุด ก็สามารถ “เบรกดราม่า” ได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง
มาร์ค เมอร์ฟี (Mark Murphy) นักเขียนหนังสือขายดีของ New York Times ผู้เชี่ยวชาญงานเขียนด้านความเป็นผู้นำ การจ้างงาน และการมีส่วนร่วมของพนักงาน อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า ดราม่าเติบโตจากอารมณ์ ยิ่งคุณตอบสนองด้วยความตกใจ เห็นใจ หรือโมโห คนสร้างเรื่องก็จะยิ่งรู้สึกว่าตัวเอง “ถูกต้อง” ตามที่เขาคิดไว้
มนุษย์เราถูกตั้งโปรแกรมมาให้ตอบสนองต่อสิ่งไม่คาดคิดด้วยอารมณ์ เพราะเป็นกลไกเอาตัวรอดตามธรรมชาติ แต่ในโลกการทำงาน มันอาจสร้างปัญหามากกว่าประโยชน์
ทั้งนี้ วิธีรับมือที่ถูกต้องคือ ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานบุกเข้ามาคุยด้วยเรื่องเวอร์ๆ เขากำลังรอให้คุณมีปฏิกิริยาแบบ “ว้าย จริงเหรอ!?” หรือ “เห้ย..แย่มาก!” คุณอย่าเพิ่งรอให้เขาหรือเธอพูด แต่สิ่งที่ควรทำทันทีคือบอกไปด้วยวลีนี้ว่า “ขอเฉพาะข้อเท็จจริง”
ตามหลักจิตวิทยาพฤติกรรมอธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า เมื่อคนเริ่มรู้ว่าเล่นใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีคนสนใจ ดราม่าจะค่อยๆ มอดดับลงไปเอง เพราะดราม่าต้องการ “ผู้ชม” ในการส่งพลังโต้ตอบกัน แต่ถ้าไม่มีคนให้พลัง มันก็จบไปเอง
นอกจากนี้ การโฟกัสที่ข้อเท็จจริงยังช่วยสร้างวัฒนธรรมการแก้ปัญหาแบบมีเหตุผล เมื่อพนักงานเห็นว่าการตัดสินใจต่างๆ ขึ้นอยู่กับข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์ พวกเขาจะรู้สึกมั่นใจและกล้าพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจLifestyle #กรุงเทพธุรกิจWorklife
โฆษณา